J Festival ถือศีลกินผัก
200 ปี แห่งศรัทธาอันยิ่งใหญ่ของจังหวัดภูเก็ต

อีกไม่กี่อึดใจ อีกหนึ่งเทศกาลสำคัญของชาวไทยเชื้อสายจีนก็จะวนมาอีกครั้งทุกปีในช่วงเดือน 9 ตามปฏิทินจีน เทศกาลแห่งความศรัทธาของชาวจีนโพ้นทะเล สู่งานประเพณีที่กลายเป็นอัตลักษณ์สำคัญของจังหวัดภูเก็ต อย่าง ‘เทศกาลกินเจ’ หรือ ‘ถือศีล กินผัก’ นั่นเองค่ะ ศาลเจ้าทั่วภูเก็ตจะเต็มไปด้วยผู้คนที่เข้าร่วมพิธีชำระกายใจ ผ่านการงดรับประทานเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ รวมถึงผักฉุน 5 ชนิด และอาหารรสจัดทุกประเภท รวมถึงการรักษาศีลห้า งดการใช้ความรุนแรงและคำหยาบ การแต่งกายด้วยชุดขาว และการเข้าร่วมพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ เพราะนอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว ยังเป็นการสืบสานวัฒนธรรมที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 200 ปีอีกด้วยค่ะ

วันนี้แสนสิริพาทุกคนมาย้อนรอยจากตำนานสู่เทศกาลอันศักดิ์สิทธิ์ของเทศกาล ‘ถือศีล กินเจ’ ด้วยกัน หนึ่งในเทศกาลระดับโลก ที่สื่อถึงพลังแห่งความเชื่อ ที่ไม่เพียงยึดโยงผู้คนในชุมชน แต่ยังเชื่อมต่อผู้คนทั่วโลกให้เข้าใจความงามของวัฒนธรรมไทย – จีนร่วมสมัย นำไปสู่การเป็นเทศกาลระดับโลกที่คว้ารางวัลมากมาย นอกจากนี้ยังพาไปทำความเข้าใจการสืบทอดและการพัฒนา จากศรัทธาและความเชื่อ หลอมรวมเป็นเอกลักษณ์ที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมการกินเจอย่างยั่งยืนมานานถึง 200 ปีของจังหวัดภูเก็ต เทศกาลเจปีนี้ ใครมีศาลเจ้า สถานที่ท่องเที่ยว หรือร้านอาหารเจแนะนำ ก็คอมเมนต์มาบอกกันได้เลยนะคะ

แสนสิริ X ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกันสืบสานประเพณีถือศีลกินผัก ยาวนานถึงปีที่ 13 ‘ความดี ยั่งยืน ไม่สิ้นสุด’ กับเทศกาลอิ่มบุญประจำปี โดยเชิญชวนพันธมิตรทางธุรกิจ ลูกบ้านของแสนสิริ และลูกค้าของธนาคารไทยพาณิชย์เข้าร่วมในการทำกิจกรรมล้างศาลเจ้า เพื่อเตรียมความพร้อมในการต้อนรับเทศกาลแห่งความดีที่จะมาถึง จึงเปรียบเสมือนการเริ่มต้นเทศกาลกินเจด้วยหัวใจที่สะอาดและบริสุทธิ์ พร้อมส่งต่อพลังดีๆ ให้กันและกัน พบกับกิจกรรมล้างศาลเจ้าในจังหวัดภูเก็ต

  ศาลเจ้าบางเหนียว 15 ต.ค. 68 เวลา 08.00 น.  

 ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย 16 ต.ค. 68 เวลา 07.00 น.  

 ศาลเจ้ากะทู้ 16 ต.ค. 68 เวลา 08.00 น.

จาก ‘ตำนานสู่เทศกาล’ สำคัญอันศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดภูเก็ต

ก่อนจะเป็นเทศกาลสำคัญอันศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดภูเก็ต มีตำนานมากมายที่กล่าวขานกันมาหลากหลายปีจากจีนโบราณ จนหล่อหลอมกลายเป็น ‘เทศกาลถือศีลกินผัก’ อันยิ่งใหญ่

เริ่มจากตำนานเมืองกังไส ที่เล่าถึงรากความเชื่อเรื่องการถือศีล – กินเจ เพื่อความเป็นสิริมงคลของบ้านเมือง 1,500 ปีก่อน เมื่อเมืองเกิดภัยธรรมชาติ เทพสวรรค์จึงแนะนำให้ชาวเมืองประกอบพิธีกินผัก ชำระจิตใจ รำลึกถึงวิญญาณบรรพบุรุษ ต่อด้วยตำนานชาวฮกเกี้ยน เมื่อเผชิญโรคภัยจึงจัดพิธีรำลึกราชวงศ์ซ้อง ใช้เป็นพิธีถือศีลทางศาสนาที่มี ‘สีเหลือง’ ในการประกอบพิธี ด้วยการงดเว้นเนื้อสัตว์และแต่งกายขาว 

ต่อมา เมื่อพิธีกรรมจีนโบราณได้ผสมผสานกับความเชื่อของไทยในภาคใต้ จึงกลายเป็น ‘เทศกาลถือศีลกินผัก’ ที่เต็มไปด้วยพิธีกรรมทางศาสนาต่างๆ การแต่งชุดขาวเพื่อถือศีล และการละเว้นเนื้อสัตว์ ทานอาหารเจตลอด 9 วัน ซึ่งสองศตวรรษที่ผ่านมา เทศกาลนี้กลายเป็นรากวัฒนธรรมสำคัญของจังหวัดภูเก็ต ล้วนเป็นสิ่งที่ผสมผสานความหลากหลายทางวัฒนธรรมจนแปรเปลี่ยนเป็นพลังศรัทธา เข้ากับความเชื่อท้องถิ่นภาคใต้ของไทย จนกลายเป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก

การสืบทอดและพัฒนา จากศรัทธาและความเชื่อ สู่มรดกโลก

เทศกาลถือศีลกินผักของภูเก็ต คือหนึ่งในประเพณีที่ยืนยาวที่สุดของประเทศไทย ความศรัทธานี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในท้องถิ่น แต่ถูกต่อยอดแล้วขยายต่อ โดยจังหวัดภูเก็ตยกระดับอัตลักษณ์ท้องถิ่น ต่อยอดสู่การเป็นแลนด์มาร์กระดับโลก ในรูปแบบ more local, more global

ใน พ.ศ. 2561 กรมส่งเสริมวัฒนธรรมยกให้เทศกาลถือศีลกินผัก ขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ตอกย้ำว่าความเชื่อนี้ไม่ใช่แค่พิธีกรรม แต่คืออัตลักษณ์ร่วมของคนภูเก็ตที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ โดยในระดับนานาชาติ International Festivals & Events Association ยกให้ภูเก็ตเป็น ‘เมืองเทศกาลโลก’ ประจำปี 2024 กับประเพณีที่เชื่อมโยงวัฒนธรรม ความเชื่อ พิธีกรรม และวิถีชีวิต

และล่าสุด ในปี พ.ศ. 2567 เทศกาลถือศีลกินผักภูเก็ตได้รับรางวัล ‘Grand Pinnacle’ จาก IFEA รางวัลเดียวกับที่มอบให้แก่องค์กรผู้จัดอีเวนต์ระดับโลก เช่น World Expo หรือ Edinburgh Festival เปรียบเสมือนออสการ์ของวงการอีเวนต์ ทำให้ภูเก็ตได้พิสูจน์ว่า ความเชื่อท้องถิ่นสามารถเติบโตอย่างยั่งยืนได้ในเวทีโลก ที่เติบโตด้วยหัวใจของความศรัทธา นำมาสู่เทศกาลที่หลั่งไหลคนจากทั่วโลก เพื่อมาเยือนและชมวัฒนธรรมด้วยตนเองสักครั้งในชีวิต

รวมเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ เพื่อถ่ายทอดวัฒธรรมอย่างยั่งยืน

เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของเทศกาลที่สืบต่อมากว่า 200 ปี ไม่ได้มีเพียงความเชื่อ พิธีกรรม และวิถีชีวิต แต่ยังมีเสน่ห์เฉพาะของจังหวัดภูเก็ตหลายมิติที่รวมกันแล้วถ่ายทอดวัฒนธรรมออกมาได้อย่างยั่งยืน

 เพื่อถ่ายทอดวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน

ความเชื่อดั้งเดิมของพิธีที่ทำเพื่อช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย โดยถูกมองว่าเป็นผู้รับแทนแห่งความทุกข์ เพื่อให้คนทั้งเมืองได้เริ่มต้นใหม่อย่างสะอาดบริสุทธิ์ ผูกไปร่วมกับจิตวิญญาณที่ผูกโยงผู้คนไว้ด้วยกันอย่างแน่นแฟ้น

 ศาลเจ้าท้องถิ่น

หรือที่ชาวภูเก็ตเรียกว่า “อ๊าม” คือหัวใจของเทศกาล ถือเป็นศูนย์รวมศรัทธา จุดเริ่มต้นและปลายทางของทุกพิธีกรรม เพราะแต่ละศาลเจ้ามีลักษณะเฉพาะทางสถาปัตยกรรมและประวัติยาวนาน แสดงให้เห็นถึงความเชื่อที่ปรับตัวอยู่ร่วมกับเมืองตามยุคสมัย

 อาหารเจแบบภูเก็ต

การผสมผสานวัฒนธรรมจีน ฮกเกี้ยน ไทย และท้องถิ่นมลายู จากอาหารเรียบง่ายสู่เมนูสร้างสรรค์ที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของเทศกาล จนทำให้ได้รับการยอมรับจากองค์การยูเนสโกในฐานะ “เมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร”

 เมืองเทศกาลระดับโลก

ด้วยการบริหารจัดการที่เคารพรากวัฒนธรรม พร้อมกับการพัฒนาเชิงท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ประเพณีของภูเก็ต ทำให้ภูเก็ตเป็นหนึ่งในเมืองที่มีเทศกาลทางวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การเดินทางไปเยือนสักครั้งในชีวิต

13 ปีแห่งการสืบสานศรัทธา ภายใต้แนวคิด “ความดี ยั่งยืน ไม่สิ้นสุด” ​​​กับเทศกาลอิ่มบุญประจำปี 

แสนสิริ และธนาคารไทยพาณิชย์ ​ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานประเพณีอันทรงคุณค่าของชาวภูเก็ต ที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 200 ปี ก่อนเข้าสู่ “เทศกาลถือศีลกินผัก” ของชาวภูเก็ต หนึ่งในพิธีกรรมที่สำคัญคือการล้างศาลเจ้า เพื่อเตรียมความพร้อมในการต้อนรับเทศกาลสำคัญ

เชิญชวนครอบครัวแสนสิริภูเก็ต ​ร่วมล้างศาลเจ้า ​​

📍 ศาลเจ้าบางเหนียว 15 ตุลาคม 2568 เวลา 08.00 น.

📍 ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย 16 ตุลาคม 2568 เวลา 07.00 น.

📍 ศาลเจ้ากะทู้ 16 ตุลาคม 2568 เวลา 08.00 น.

ความพิเศษของปีนี้ แสนสิริและไทยพาณิชย์ร่วมกับแบรนด์ท้องถิ่น “YAYEE” จัดทำพัดจีนลายพิเศษ สื่อถึงความมงคลและความรุ่งเรือง พร้อมพู่ห้อยจากผ้าปาเต๊ะเหลือใช้ที่ตัดเย็บโดยกลุ่มผู้ต้องขังหญิงและชุมชนในภูเก็ตเพื่อมอบเป็นของขวัญแทนคำขอบคุณแก่ผู้ร่วมกิจกรรมล้างศาลเจ้า ทั้ง 5 ศาล​

CONTRIBUTOR

Related Articles

บ้านที่อบอุ่นและปลอดภัย ที่พักกายใจแห่งสุดท้าย ของเพื่อนสี่ขา

“จะเลี้ยงหมาหรือแมวดีนะ?” ถ้าจะหาคำตอบให้คำถามข้อนี้ คงต้องเริ่มที่ว่าใครเป็นทาสหมาทาสแมวกันซะก่อน การมีน้องๆ สี่ขาเป็นเพื่อนซี้คู่ใจคงเป็นอะไรที่ใครหลายๆ คนฝันถึง และดูเหมือนว่าการ “ซื้อสัตว์เลี้ยง” ได้กลายเป็นตัวเลือกอย่างแรก และอาจเป็นตัวเลือกเพียงอย่างเดียวที่จะทำให้ได้มีสัตว์เลี้ยงไปเสียแล้ว นั่นเพราะหลายคนไม่รู้ถึงตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นคือ “การรับเลี้ยง” สุนัขและแมวจรจำนวนหนึ่งมีแหล่งที่มาไม่น้อยหน้าไปกว่าสัตว์เลี้ยงจากฟาร์มหรือร้านขาย แต่กลับโชคร้ายทำให้ต้องกลายเป็นสัตว์จรที่ถูกละเลย สิ่งที่พวกเขาต้องการ คือบ้านสำหรับอยู่อาศัยอย่างอบอุ่นและปลอดภัย เพื่อไม่ให้พวกเขาต้องเผชิญกับการโดนทำร้าย หรือโรคติดต่อ อีกต่อไป แม้จะมีแนวทางในการจำกัดจำนวนและช่วยเหลือสุนัขและแมวจร

turtle

“เต่า” เทรนด์สัตว์เลี้ยง สุดสโลวไลฟ์

เชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องเป็น pet pawrent มีลูกรักเป็นเจ้าแสนซนสี่ขากันอยู่เกือบทุกบ้านแน่เลยใช่ไหมคะ ไม่ว่าจะเป็นน้องหมา น้องแมว หรือเจ้าขนฟูอื่น ๆ แต่มีบ้านไหนเลี้ยงเจ้าสัตว์สี่ขา ไม่มีขน แต่แสนเชื่องและลี้ยงง่ายไม่แพ้ไปกว่าสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ บ้างไหมคะ น้องคนนั้นก็คือ “เต่า” นั่นเองค่ะ น้องเต่า สัตว์เลี้ยงสุดสโลว์ไลฟ์ เป็นที่นิยมและมีคนเริ่มหันมาเลี้ยงเพิ่มขึ้นจำนวนมาก

Micro - Drama

เส้นเรื่องที่เรียบง่ายและแอคติ้งสุดเล่นใหญ่ร่วมข้องใจทำไมถึงโดนใจคนในโซเชียล ชวนมาเจาะความแมส ของ Micro – Drama ให้ลึกกว่าเดิม ว่าทำไมทุกคนถึงชอบ “ละครคุณธรรม”

ตอนนี้ไม่ว่าจะเลื่อนหน้าไทม์ไลน์ทางแพลตฟอร์มไหน เราต้องได้เห็นคลิป ‘ละครสั้นคุณธรรม’ ผ่านตากันอยู่บ้างไม่มากก็น้อย หรือไม่ก็ต้องคุ้นเคยกับวลีดังๆ ในละครสั้นกันมาอยู่บ้างอย่าง “จริง ๆ แล้วฉันเป็นประธานบริษัท” หรือ “แกไม่มีสิทธิ์เรียกฉันว่าแม่” ซึ่งประโยคนี้จุดติดให้คนเอาไปล้อเลียนเป็นหรือมุขตลกต่างๆ บนโซเชียลมีเดีย จนทำให้ละครคุณธรรมช่วยสร้างเสียงหัวเราะ และเป็นไวรัลได้ใจผู้ชมมากมาย แล้วทุกคนเคยสงสัยกันไหมคะว่าทำไมทุกคนถึงชอบดูละครคุณธรรม ถึงแม้จะรู้จุดจบของตัวละครที่เราดูอยู่แล้วบ้าง วันนี้แสนสิริชวนมาเจาะความแมสของ Micro –