ตอนนี้ถ้าเดินออกจากบ้านเราก็สัมผัสได้แล้วว่าค่าฝุ่นมลพิษ PM 2.5 กลับมามีค่าเกินมาตรฐานอีกครั้งแม้จะผ่านช่วงฤดูหนาวมาหลายเดือน แต่ด้วยปัจจัยต่างๆ บวกกับสภาพอากาศที่กำลังจะเข้าฤดูร้อนและลมนิ่ง ทำให้ฝุ่นเกิดการสะสมจนอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยกรมควบคุมมลพิษก็ได้ให้ข้อมูลว่าปี 2567 ที่ผ่านมาปัจจัยที่ก่อให้เกิดฝุ่นเป็นอันดับต้นๆ นั้นก็หนีไม่พ้น ยานพาหนะ ที่มาจากเพิ่มขึ้นของการจราจรและขนส่งเป็นหลักนั่นเองค่ะ
แต่ทุกคนรู้ไหมว่า “จุดเกิดฝุ่น” จริงๆ แล้วสามารถเกิดได้ง่ายกว่าที่คิดและยังอยู่ในชีวิตประจำวันของเราอีกด้วย วันนี้แสนสิริรวบรวมจุดเกิดฝุ่นในแบบต่างๆ ที่นำไปสู่การเป็นนักสะสม PM 2.5 แบบไม่รู้ตัวมาฝากกันค่ะ เพราะหลายกิจกรรมอาจเป็นสาเหตุของการเกิดฝุ่นหรือมลพิษทางอากาศได้ จะมีจุดไหนที่เราอาจจะยังไม่รู้อยู่บ้าง ไปดูกันเลยค่ะ!
ปัญหาฝุ่นละออง ไม่ใช่ปัญหาที่เพิ่งเกิดขึ้น และไม่ใช่ปัญหาที่จะหมดไปง่ายๆ ถ้ายังมีการเผาผลาญเชื้อเพลิง และใช้พลังงานต่างๆ อย่างเกินจำเป็น แต่ถ้าเราสามารถร่วมมือกันลดการก่อมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมได้ อากาศดีๆ ก็คงกลับมาในไม่ช้าอย่างแน่นอนค่ะ
ที่แสนสิริ เราก็ใส่ใจลูกบ้านพร้อมสิ่งแวดล้อมไปด้วย กับ #นวัตกรรมบ้านปลอดฝุ่น เมื่อบ้านปลอดฝุ่น คุณและครอบครัวก็ปลอดภัย หายใจได้เต็มปอด หมดกังวลกับฝุ่น PM 2.5 เพราะสุขภาพของทุกคนเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญ
อุ่นใจด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยกรองอากาศถึง 5 ชั้น ทำให้คุณได้รับอากาศสะอาดภายในบ้านตลอดเวลา สามารถกรองฝุ่นได้ถึงขนาด 0.1 ไมครอน เทียบเท่ากับเทคโนโลยีในห้องปลอดเชื้อในโรงพยาบาล ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้สูงอายุและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
สนใจโครงการคุณภาพ “บ้านปลอดฝุ่น” จากแสนสิริ
คลิกเลย! https://siri.ly/WyCVJa1
ขอบคุณข้อมูลจาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, Thai PBS, urban creature และ กองสุขาภิบาลอาหาร กรุงเทพมหานคร
สร้างควัญจากการเผา
ไม่ว่าจะเป็นแบบดั้งเดิมหรือปัจจุบัน เช่น การเผากระดาษเงิน กระดาษทอง และพิธีกรรมทางศาสนา ที่ต้องใช้การจุดธูปและเทียน ควันจากการเผาไหม้อาจมีทั้งขี้เลื่อย กาว และน้ำหอมในธูป รวมถึงสารต่างๆ หลายตัว จะถูกปล่อยออกมาคล้ายกับที่พบในควันบุหรี่ และควันพิษจากท่อไอเสียรถยนต์ เช่น ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ก๊าซมีเทน ก๊าซซัลเฟอร์- ไดออกไซด์ ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ และสารก่อมะเร็งหลายชนิด
กินปิ้งย่างที่ใช้เตาถ่าน
ในตอนนี้การทานอาหารปิ้งย่างเป็นที่นิยมมากในทุกเพศทุกวัย ยิ่งย่างมาบนเตาถ่านก็ช่วยเพิ่มกลิ่นและชูรสชาติอาหารได้มากยิ่งขึ้น แต่ทุกคนรู้ไหมคะว่าการทานอาหารปิ้งย่างจากเตาถ่านนันก็สามารถก่อมลพิษฝุ่น PM 2.5 ได้เช่นกัน เพราะการปิ้งย่างเนื้อสัตว์ลงบนเปลวไฟโดยตรง พบว่าทำให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และสารอินทรีย์ระเหยง่าย ซึ่งเมื่อสะสมมากๆ บนชั้นบรรยากาศก็สามารถส่งผลต่อสุขภาพได้มากกว่าที่คิด
เราจึงควรหันมารณรงค์เลือกใช้อุปกรณ์ที่สามารถป้องกันฝุ่นละอองจากการปิ้งย่างไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายระหว่างรับประทาน ที่นำไปสู่การปนเปื้อนในอาหารได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการหันไปใช้เตาแบบลดควัน ใช้เชื้อเพลิงในการปิ้งย่างแบบที่ไม่ก่อให้เกิดฝุ่นละออง เช่น ถ่านอนามัย เป็นต้น
ใช้บริการเดลิเวอรี่บ่อยกว่าปกติ
แน่นอนว่าสิ่งที่สร้างมลพิษฝุ่น PM 2.5 มากที่สุดก็หนีไม่พ้นการคมนาคมจากการจราจร แต่สิ่งที่หลายคนอาจจะมองข้ามไปคือการใช้บริการเดลิเวอรี่มากกว่าปกติก็เพิ่มฝุ่นได้เช่นกัน เพราะเหมือนเป็นการเพิ่มจำนวนความหนาแน่นของรถบนท้องถนนให้มากขึ้น ซึ่งก็จะมีทั้ง ฝุ่นดิน ทราย ที่ฟุ้งกระจายขณะรถวิ่ง และเขม่าจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงมากขึ้น ทำให้ปล่อยไอเสียสะสมและคาร์บอนฟุตพริ้นต์เพิ่มขึ้น เป็นอีกต้นเหตุที่ทำให้โลกเดือดเพิ่มขึ้นด้วย ลองลดจำนวนการใช้บริการให้น้อยลงหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ถ้าเลือกได้ลองหันไปใช้บริการจาก จักรยานไฟฟ้า หรือ E-bike ที่ใช้สำหรับขนส่งสินค้า เพื่อลดปัญหามลพิษทางอากาศ และการจราจรที่ติดขัดก็เป็นอีกทางที่ช่วยสิ่งแวดล้อมได้ด้วย
ละเลยการดูแลต้นไม้
ต้นไม้เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีประโยชน์มากมาย แต่ปัญหาในทุกวันนี้ต้นไม้ถูกละเลยการดูแลมากขึ้น จึงทำให้ต้นไม้เกิดภาวะเครียด ส่วนหนึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามาจากฝีมือผู้คนในสังคมกันเอง เช่น การตัดต้นไม้ที่ไม่ถูกวิธี การเทคอนกรีตทับรากของต้นไม้ หรือการทิ้งของเสียสะสมในดินจนทำให้ธาตุอาหารของพืชเปลี่ยนไป แทนที่ต้นไม้จะได้เติบโต เพื่อสังเคราะห์แสงและคายออกซิเจนได้อย่างเต็มที่ หรือสามารถดูดซับฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การหันหลับมาดูแลต้นไม้ให้อยู่ได้และมีอายุยืนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ อย่างการไม่เทของเน่าเสียลงบนพื้นดิน เพื่อให้ต้นไม้เจริญเติบโตในเมืองได้ ซึ่งถ้าเราทุกคนใส่ใจรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้นก็จะมีต้นไม้ช่วยดักจับฝุ่นมากไปด้วย เพื่อช่วยเปลี่ยนอากาศที่มีมลพิษให้เป็นอากาศบริสุทธิ์ ให้เราได้สูดอากาศได้อย่างเต็มปอด แถมห่างไกลจากโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ
ควันจากบุหรี่ทุกชนิด
บุหรี่ปัจจุบันประกอบด้วยสารเคมีหลายร้อยชนิด แต่เมื่อเกิดการเผาไหม้จะทำให้เกิดสารเคมีกว่า 4,000 ชนิด ในขณะที่ไม่มีการสูดควัน ปลายบุหรี่จะมีความร้อนสูงมาก และเมื่อควันที่ปลายบุหรี่ เจออากาศ ก็จะทำให้สารบางชนิดเกิดปฏิกิริยากลายเป็น สารพิษ เช่น ไนโตรเจนออกไซด์ที่จับตัวกับออกซิเจน กลายเป็น ไนโตรเจนไดออกไซด์ได้ กลายเป็นฝุ่นละเอียดที่สะสมในสิ่งแวดล้อมตามมา หรือปัจจุบันที่มีบุหรี่ไฟฟ้า อาจคิดว่าไม่มีควันพิษแต่จริง ๆ บุหรี่ไฟฟ้าปล่อยสารเคมีและโลหะหนักในอากาศ ทำให้กลายเป็นฝุ่นละเอียดที่สะสมในชั้นบรรยากาศ เรียกได้ว่าควันบุหรี่นั้นก่อฝุ่น PM 2.5 สูงกว่าไอเสียรถ และการดูดบุหรี่ไฟฟ้าก็เพิ่มค่าฝุ่นพิษมากถึง 15 เท่า