นิดยสาร Property Report ฉบับกุมภาพันธ์-มีนาคม 2559 ได้พูดถึงโครงการระดับพรีเมี่ยม (Premium & Luxury) จากทั่วโลกไว้ในบทความ A World of Opportunities ว่าในช่วงที่ทั่วโลกต่างเผชิญความไม่แน่นอนทางด้านเศรษฐกิจ ก็ยังมีกลุ่มชาวเอเชียที่มั่งคั่งซึ่งเสาะหาแหล่งการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในเมืองที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ อย่างนิวยอร์ก และลอนดอน
ซึ่งอันที่จริงแล้ว ในทางกลับกัน อสังหาริมทรัพย์ในเอเชียก็ได้รับความสนใจจากชาวตะวันตกเช่นกัน เหมือนอย่างที่เว็บไซต์ Propholic เคยนำเสนอการซื้อขายที่กลายเป็น record deal เมื่อปีที่แล้วสำหรับโครงการคอนโดมิเนียมในฮ่องกง มาดูกันว่าทั้งสามเมืองที่แสนสิริ บล็อก ได้พูดถึงไปข้างต้นนั้น มีโครงการใดบ้างที่เป็นไฮไลท์และทำให้โครงการเหล่านี้ถูกพูดถึงในระดับ international อยู่เสมอ
OPUS HONG KONG
source: opushongkong.com
- ตัวอาคารมีฮวงจุ้ยชั้นเยี่ยม เพราะล้อมรอบด้วยภูเขาและวิวของอ่าววิคตอเรีย
- ราคา 4.7 ล้านบาท/ตร.ม
- ทำสถิติราคาขายสูงที่สุดในปี 2015 ที่ราคา 64.1 ล้านเหรียญสหรัฐ
- ด้วยโครงสร้างที่เป็นเส้นพลิ้วไหว
- ทำให้อาคารดูมีพลังและเสริมความโดดเด่นให้กับสถาปัตยกรรม
- มีพื้นที่ให้ครอบครองเพียง 12 ยูนิต
- ออกแบบโดยสถาปนิกเจ้าของผลงาน Guggenheim Museum ที่ประเทศสเปน
หากคุณสนใจเรื่องราวของอสังหาริมทรัพย์ระดับ World Class คุณอาจสนใจบทความ เจาะลึกคอนเซปท์การออกแบบ และสุดยอดแบรนด์ดังระดับโลก ที่รวมอยู่ใน 98 WIRELESS จาก Propholic.com
ONE HYDE PARK
source: murrayscottphotography.wordpress.com
source: telegraph.co.uk
- ตั้งอยู่บน Knightsbridge ถนนที่มูลค่ามากแห่งหนึ่งของโลก ในกรุงลอนดอน
- ราคา 9 ล้านบาท/ตร.ม.
- ราคาต่อยูนิตสูงเป็น 10 เท่าของตลาดที่อยู่อาศัยโดยเฉลี่ยในลอนดอน
- สถาปัตยกรรมล้ำสมัยสไตล์ยุโรป กลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งกับสวนสาธารณะ Hyde Park
- ที่ตั้งของ boutique shop แบรนด์ดังอย่าง Rolex และ McLaren
432 PARK AVENUE
source: 432parkavenue.com
- ตั้งอยู่ใจกลางมหานครนิวยอร์ก
- โดดเด่นด้วยวิวอย่าง Central Park และมหาสมุทรแอตแลนติก
- ราคา 9 ล้านบาท/ตร.ม.
- ปี 2014 อาคารแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นที่พักอาศัยที่สูงที่สุดในซีกโลกตะวันตก
- เคาน์เตอร์ครัวทำด้วยหินอ่อนจากอิตาลี พื้นทำจากไม้โอ๊ค
- พร้อมการออกแบบภายในจากสุดยอดสถาปนิคในนิวยอร์ก
คุณอาจสนใจเรื่องราวของโครงการที่ถือเป็น milestone ของแสนสิริ ที่รวบรวมจากข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คลิก