Pre-season Tournament: เพื่อเงินหรือเพื่อทีม

Pre-season Tournament: เพื่อเงินหรือเพื่อทีม

ท่านผู้อ่านคุ้นๆ กับชื่อทัวร์นาเมนต์ฟุตบอล Barclays Asia Trophy หรือ Emirates Cup บ้างไหมครับ อาจจะยังไม่เคลียร์ แต่ถ้าผมบอกว่าทั้งสองถ้วยนี้ก็คล้ายๆ กับ True Super Trophy ที่เพิ่งจัดในบ้านเราไปน่าจะพอนึกออกนะครับ ใช่ครับ ผมกำลังพูดถึงทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลประเภทอุ่นเครื่องหรือ exhibition match ที่เป็นที่นิยมของบรรดาสโมสรต่างๆ ในยุโรปในช่วงที่กระแสฟุตบอลเติบโตอย่างมากใน 20 กว่าปีที่ผ่านมา ในระยะหลังเมื่อฤดูกาลแข่งขันทางฝั่งยุโรปจบลง เค้าจะมีทัวร์นาเมนต์หรือเกมการแข่งขันอยู่ 2 ประเภทที่เรียกได้ว่าเกือบทุกทีม (ที่มีทุนหนาหน่อย) จะต้องเดินหน้าแข่งขันกันต่อไป ก็คือ post-season tour และ pre-season tour ทั้งสองอย่างมีความแตกต่างกันในเชิงวัตถุประสงค์และความเข้มข้น แต่ก็เป็นอันรู้กันว่าทั้งสอง tour นี้ก็ไม่ค่อย popular สำหรับนักฟุตบอลเองหรือว่าโค้ชและผู้จัดการทีมเสียเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละทีมมีนโยบายอย่างไร และพอใช้คำว่า tour แล้วล่ะก็ แน่นอนต้องมาพร้อมกับการเดินทาง จะเดินทางใกล้หรือไกลก็แล้วแต่นโยบายของแต่ละทีม สำหรับปีนี้ทีมในพรีเมียร์ลีกที่เดินทางเป็นระยะทางมากที่สุดได้แก่ Liverpool ครับ นักเตะที่ร่วมเดินทางกับทริปนี้จะสะสมไมล์ได้ทั้งสิ้นกว่า 24,000 ไมล์เลยทีเดียว เริ่มจากมาเยี่ยมประเทศไทย ไปต่อออสเตรเลีย มาเลเซีย และไปจบที่ฟินแลนด์ ทีมที่สะสมไมล์ได้รองลงมาได้แก่ Manchester City ได้กันไปทั้งสิ้นกว่า 21,000 ไมล์ ส่วนทีมที่ผมดูจากตารางการทัวร์แล้วน่าจะสบายที่สุดคือ Norwich City กับ West Ham United ที่มีโปรแกรมทั้งหมดอยู่ในสหราชอาณาจักรและยุโรปเท่านั้น

04B1E03C00000514-0-image-a-22_1423003511921 dailymail.co.ukภาพแฟนบอลที่ออสเตรเลียต้อนรับทีมลิเวอร์พูล (ภาพจาก www.dailymail.co.uk)

ถ้าพูดถึง post-season tour ก่อน โดยมากก็จะเป็นการเดินทางไปแข่งนัดกระชับมิตรหรือ exhibition กับทีมเจ้าบ้านในทวีปที่มีฐานแฟนบอลเยอะ และแน่นอนก็เป็นแม็ทช์การแข่งขันที่ไม่มีผลกับอะไรทั้งสิ้น แต่จะเป็นคล้ายๆ ทริปพักผ่อนมาเตะบอลเล่นกันเสียมากกว่า และในปีนี้เราก็มีบุญได้เห็น Chelsea Liverpool และ Everton รวมถึงทีมระดับรองอย่าง Reading และ Leicester City มาแข่งที่ประเทศไทยก็คงทำให้แฟนบอลของทุกทีมดังกล่าวแฮปปี้กันไป ซึ่งก็คงเห็นได้ชัดเจนว่านักเตะเองก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรกับเกมมากนักเพราะมีรูปที่ทั้งไปเที่ยวกลางคืน เดินช็อปปิ้ง ฯลฯ ที่น่าตกใจมากกว่านั้น (กรณี Leicester City)

article-2361555-1AC77FD0000005DC-59_634x363 dailymail.co.uk

ภาพจาก www.dailymail.co.uk

แม้ว่าบางครั้ง post-season จะถูกอ้างว่าเป็น tour หลอมพฤติกรรมและสร้างความสัมพันธ์ในทีมให้ดีขึ้น แต่ในมุมมองของนักเตะและผู้จัดการทีม post-season tour เป็นอะไรที่พวกเค้าน่าจะอยากหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสโมสรในพรีเมียร์ลีก ที่ไม่มีช่วงพักเบรคฤดูหนาวเหมือนลีกอื่นๆ เมื่อฤดูกาลจบลงน่าจะเป็นเวลาที่เค้าได้พักผ่อนกับครอบครัวและชาร์จแบตเตอร์รี่หลังจากผ่านงานหนักมาหลายดือน แต่สุดท้ายก็จะโดนความจำเป็นทางพาณิชย์ที่ทีมมองเห็นว่าสำคัญ ต้องยกขบวนกันมาทั้งหมด สาเหตุสำคัญก็คงทราบอยู่แล้วสำหรับ post-season tour ก็คือเหตุผลเชิงพาณิชย์สำหรับสโมสรต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่หลายสโมสรโดน take over ด้วยนักธุรกิจต่างชาติในราคาที่แสนแพงและมีค่าใช้จ่ายต่อปีทั้งค่าตัวนักเตะ ค่าเหนื่อย เงินเดือนนักเตะและผู้จัดการในหลักหลายล้านปอนด์ต่อสัปดาห์ มูลค่าตั๋วของคนในท้องที่ที่ซื้อเข้าดูการแข่งขันอย่างเดียวจะไปพออะไรสำหรับการบริหารสโมสร ซึ่งในระยะหลังเป็นที่รู้กันว่าตลาดเอเชียเป็นตลาดใหญ่ที่หลายๆ ทีมให้ความสำคัญกันมากในการสร้างฐานแฟนและเปิดตลาด ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่หลายต่อหลายทีมจะรวมเอาเอเชียเป็นทวีปหนึ่งที่ต้องมา รายได้ที่จะเป็นผลมาจากการออกทัวร์ก็ตั้งแต่ค่าตัวทีมในการเดินทางไปแข่งโชว์ ส่วนแบ่งจากค่าตั๋ว ซึ่งก็อีกนั่นแหละครับ ไม่ใช่จำนวนมากพอเท่ากับผลพลอยได้ที่จะตามมาจากค่าลิขสิทธิ์ merchandising สินค้าต่างๆ ทั้งเสื้อ ชุดแข่ง เสื้อยืด ตุ๊กตา พวงกุญแจ ฯลฯ รวมทั้งเม็ดเงินที่จะได้จากบรรดาแบรนด์ local ที่จะวิ่งเข้าหาเพื่อเป็นพันธมิตรด้วยในระดับในประเทศเนื่องด้วยเห็นถึงความนิยมและ exposure ที่จะเกิด ยกตัวอย่างก็บรรดาบัตรเครดิต ธนาคาร เครื่องดื่ม ฯลฯ ที่เราเห็นกันในประเทศเรานี่แหละครับ ซึ่งถึงแม้สปอนเซอร์เหล่านี้จะไม่ได้มีมูลค่าสูงเหมือน global sponsor แต่ลองนึกดูครับว่าถ้าหากมีซัก 4-5 รายใน 1 ประเทศ ได้หลายๆ ประเทศก็เยอะอยู่นะครับ 141224B3X43060 siamsport.co.th

ภาพจาก www.siamsport.co.th

ไม่พอครับ commitment ที่นักเตะจากทีมในลีกยอดนิยมอย่าง พรีเมียร์ลีก จะต้องทำไม่ได้มีแค่ post-season tour เท่านั้น จบจากแม็ทช์อุ่นเครื่องเพื่อสร้างฐานความนิยมและหารายได้เข้ากระเป๋าแล้วก็จะเป็นช่วงของ pre-season tour กันต่อ ในอดีตแม็ตช์แข่งขัน pre-season จะเป็นการอุ่นเครื่องของจริงและเป็นการทดสอบความฟิตของนักเตะและทดสอบผู้เล่นใหม่ที่มาร่วมทีมด้วยภายหลังที่หยุดพักกันไปยาว (ซึ่งปัจจุบันแทบไม่ได้พักเลย) และมักจะจัดแข่งกับทีมในละแวกใกล้เคียงหรืออย่างน้อยก็อยู่ในทวีปยุโรปเหมือนกัน แต่ปัจจุบันเห็นได้จากตารางการแข่งขัน pre-season tour ของทีมใน พรีเมียร์ลีก จะเห็นได้ว่าไปเกือบทุกทวีปเลยทีเดียว สำหรับทีมหัวแถวของพรีเมียร์ลีกก็เห็นจะเป็น Arsenal นี่แหละครับที่โชคดีที่สุดเพราะมีแค่มาแข่ง post-season แม็ทช์เอาใจแฟนๆ เอเชียที่สิงคโปร์สองนัดแล้วบินกลับ ที่เหลือก็เป็นการอุ่นเครื่องที่บ้านของตัวเองแล้วและน่าจะได้ภาษีดีที่สุดเพราะไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทางมากเท่าคนอื่น

LONDON, ENGLAND - JULY 12: Dan Crowley, Chris Willock and Alex Iwobi of Arsenal on the Emirates plane at Stansted Airport on July 12, 2015 in London, England. (Photo by David Price/Arsenal FC via Getty Images)

ภาพจาก www.telegraph.co.uk

อย่างไรก็ตาม การแข่งขัน pre-season นั้นบางครั้งก็ไม่ใช่จะเกิดผลดีเสมอไปกับทีมและนักเตะเอง เพราะหลีกเลี่ยงไม่ได้แม้จะตั้งใจเป็นการอุ่นเครื่องจริงๆ แต่ก็ยังคงอดไม่ได้ที่จะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ทางธุรกิจในการสร้างความนิยมและฐานแฟนบอลที่เพิ่มขึ้นในต่างประเทศ ดังนั้นสิ่งแวดล้อมของเกมการแข่งขันบางทีก็เลือกไม่ได้และไม่ใช่สภาพแวดล้อมในอุดมคติสำหรับทีมเสียเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นเกมการแข่งขันในบางแห่งที่ก็ต้องเล่นบนสนามหญ้าเทียม หรือเล่นในสภาพอากาศที่ร้อนชื้นและแตกต่างจากสภาพอากาศในยุโรปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งก็มิได้ส่งผลให้เพิ่มประสิทธิภาพต่อ performance ของนักเตะแต่อย่างใด นอกจากนี้แล้วในเกมอุ่นเครื่องเหล่านี้ก็เป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการบาดเจ็บอีกด้วยอย่างกรณี Frank Lampard และ Wayne Rooney ตอนที่มาแข่งที่ไทยเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งบางครั้งอาจเป็นเรื่องเล็กๆ ที่มองข้าม แต่ด้วยสภาพสนาม ความนุ่มของหญ้า หรือความเหนื่อยล้าจากการเดินทางหลายสิบชั่วโมง บางครั้งอาจทำให้การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อผิดไปได้และส่งผลต่ออาการบาดเจ็บได้ไม่ยากนะครับ dailymail.co.uk

Wayne Rooney ตอนมาไทย ภาพจาก www.dailymail.co.uk

ดังนั้นเวลาเรามีทีมที่ชอบมาเล่นให้ดูกันถึงที่ ไม่ต้องลุ้นให้เค้าส่งตัวสำคัญลงมาเล่น หรือลุ้นให้เค้าเล่นเกินร้อยหรอกครับ เพราะมันไม่คุ้มถ้าจะเชียร์สนุกกัน 1 วันแต่ทั้งฤดูกาลต้องนั่งเซ็งเพราะทีมรักมีแต่ผู้เล่นที่ไม่สมบูรณ์หรือบาดเจ็บกันนะครับ