มูลค่า

มูลค่าของสโมสรฟุตบอล หรือ คุณค่าของเกมฟุตบอล

เมื่อพูดถึงคำว่า “มูลค่า” สิ่งที่วิ่งเข้ามาในหัวเราก็คือเรื่อง เงินๆ ทองๆ และเมื่อพูดถึง “มูลค่า” ในบทสนทนาที่เกี่ยวกับฟุตบอลก็ไม่น่าจะหลีกพ้นเรื่องของ ค่าตัวนักฟุตบอล ที่แต่ละ transaction ตอนนี้มีมูลค่าหลายพันล้านกันไปแล้วประมาณนี้ แต่ถ้าเราพูดกันในระดับของเรื่องสโมสร “มูลค่า” ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากเช่นกัน เพราะในแต่ละปีบริษัทที่ปรึกษาระดับโลกที่ชื่อว่า Brand Finance จะมีการทำรายงานออกมาว่า สโมสรฟุตบอลใดมีมูลค่าสูงที่สุดในโลก

ทีนี้ เรามาดูกันก่อนว่าการตีความ “มูลค่า” ดังกล่าว มาจากอะไร จากรายงานเป็นการคำนวณมูลค่าจากยอดขายสินค้าและค่า royalty ต่างๆ ที่แต่ละสโมสรคาดว่าจะทำได้ในปีนั้นๆ รวมถึงมูลค่าประมาณการของทีมถ้าหากจะมีการซื้อขายเปลี่ยนมือเกิดขึ้นมาเป็นปัจจัย ซึ่งถ้าดูจากรายงานแล้วแน่นอนเดากันไม่ผิดก็ต้องเป็นสโมสรที่มาจากทวีปยุโรปที่ติดอันดับต้นๆ กันเสมอมา และก็หนีไม่พ้นที่จะเป็นลีกยอดฮิตอย่าง พรีเมียร์ลีก ลาลีกา บุนเดสลีกา กัลโช่ซี่รี่อา และห้อยท้ายด้วย ดิวิชั่น 1 ของฝรั่งเศสด้วยนิดนึง

ไม่แปลกที่ลีกในทวีปยุโรปจะติดอันดับทีมที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก เพราะอะไรครับ แน่นอน ประวัติศาสตร์ของฟุตบอลและความเข้มข้นของการแข่งขันและการทำการตลาดเป็นส่วนสำคัญ แต่ต้องยอมรับด้วยว่าส่วนหนึ่งของแฟนบอลที่จะสร้างมูลค่าให้กับทีมฟุตบอลต่างๆ นอกเหนือจากแฟนตัวเองในแต่ละประเทศแล้วนั้นอยู่ในทวีปเอเชียเสียส่วนมาก ส่งผลให้ระยะห่างระหว่างเวลาของสองทวีปช่างเหมาะเจาะเหลือเกินสำหรับการถ่ายทอดการแข่งขันช่วงบ่ายวันสุดสัปดาห์ที่ยุโรปจะเป็นช่วงค่ำของที่เอเชียซึ่งถือเป็น prime time ของเวลาการดูโทรทัศน์เลยก็ว่าได้ ยกตัวอย่างไทยเรานี่แหละครับ ตารางประจำพรีเมียร์ลีกคือบ่าย 3-4 โมงซึ่งก็คือ 3-4 ทุ่มบ้านเรา ลองถามคนในวงการทีวีดูก็ได้ว่านี่คือสุดยอดของเวลา prime time แล้วครับ และก็ไม่แปลกที่ทีมจากพรีเมียร์ลีกจะได้เปรียบทีมจากลาลีกาสเปน เพราะลาลีกามีตารางการเตะที่หลากหลาย บ่ายโมง 4 โมง 2 ทุ่ม หรือ 4 ทุ่ม ซึ่งก็คือตี 2 หรือตี 4 บ้านเรา คนถ่างตารอดูก็น้อยลง

ทีนี้เราลองมาดูกันว่า top 10 ของสโมสรที่มีมูลค่าสูงสุดมีใครกันบ้าง อันดับแรกคือ Man U เลยครับ โดยเขี่ยบาเยิร์นฯ ลงจากบัลลังค์ โดยประเมินว่า Man U มีมูลค่าด้านแบรนด์สูงถึงกว่า 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และถือเป็นแบรนด์สโมสรแรกที่ก้าวข้าวเพดาน 1,000 ล้านเหรียญได้เป็นครั้งแรก โดยก้าวกระโดดจากปีที่แล้วถึงเกือบ 500 ล้านเหรียญหรือกว่า 63% เลยทีเดียว

table 1

แต่จากการดูรายละเอียดลึกๆ จะเห็นว่าปัจจัยสำคัญไม่ใช่เรื่องของความสำเร็จในการซื้อขายนักเตะหรือจากการแข่งขันแต่อย่างใด แต่เป็นผลโดยตรงจากการประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดครั้งล่าสุดที่มูลค่าสูงมากจนลีกอื่นอิจฉา

ผลอีกอันที่เห็นชัดเจนคือมีทีมจากพรีเมียร์ลีกติด top 10 ถึง 6 อันดับด้วยกันประกอบด้วย แมนฯยู แมนฯซิตี้ อาร์เซนอล เชลซี ลิเวอร์พูล และสเปอร์ห้อยท้าย ในขณะที่มี 2 ทีมจากลาลีกาสเปนคือรีลมาดริดและบาร์เซโลน่า และแถมบาเยิร์นและ PSG อย่างละทีมจากเยอรมันนีและฝรั่งเศส

นั่นคือในแง่ของมูลค่าสโมสรที่มาจากการทำวิจัยและวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์อย่างมีหลักการสนับสนุนชัดเจน แต่คำถามที่ผมถามตัวเองก็คือ ฟุตบอล สำหรับผม มันสำคัญที่ตรงไหน มูลค่า ของสโมสร ของค่าตัวนักเตะ หรือ คุณค่า ของเกมที่ถูกถ่ายทอดผ่านแทคติกของโค้ชแต่ละสโมสรและเทคนิคของนักเตะแต่ละคน คนที่ทำธุรกิจอย่างเราอยู่กับตัวเลข มีมูลค่าทางธุรกิจที่ต้องคอยกังวล ซึ่งทำให้ผมเข้าใจได้ว่าสำหรับเจ้าของสโมสรต่างๆ ที่เข้าไปลงทุนแน่นอนผลตอบแทนเชิงธุรกิจย่อมต้องสำคัญ มูลค่าของสโมสรและนักเตะหมายถึงเลขศูนย์อีกหลายตัวที่เพิ่มตามมาเวลารายงานผลประกอบการ ซึ่งนั่นอาจนำมาซึ่งแทคติกการเล่นที่ตอบโจทย์รักษาอันดับเพื่อได้เล่นแชมเปี้ยนส์ลีกปีหน้าเพราะจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกมาก หรือการซื้อนักเตะมาเพื่อหวังผลการขายเสื้อที่มีชื่อเค้าติดด้านหลัง

2013-06-03_NEYMAR_90.v1370275881

ภาพจาก fcbarcelona.com

การบริหารทีมเชิงพาณิชย์กำลังทำให้สเน่ห์ของฟุตบอลลดลงไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราเห็นกันมานักต่อนักสำหรับทีมที่ปลุกปั้นนักเตะขึ้นมาจากทีมเยาวชนและฟอร์มกำลังพีค สร้างสีสันให้กับเกมของทีมต้นสังกัดได้อย่างน่าสนใจก็เพียงเพื่อให้ถูกสโมสรยักษ์ใหญ่ซื้อตัวไปทดลองปรับตัวให้เข้ากับทีม ได้ลงบ้างไม่ลงบ้าง เทคนิคของนักเตะและแทคติกของโค้ชกลายเป็นสินค้า commodity อย่างหนึ่งที่ต้องมีการปรับ package และ relaunch อยู่ตลอดเวลาเพื่อสร้าง มูลค่า ให้กับทีมและตนเอง เป็นการปรับตัวตามคำแนะนำของที่ปรึกษา เอเจนต์ ฯลฯ ที่มาพร้อมกับผลตอบแทนไม่ว่าจะเป็นค่าเหนื่อยที่เพิ่มขึ้นหรือค่าตัวในการย้ายทีมครั้งต่อไป

ผมว่าคำพูดคลาสสิคที่บอกว่า football is a beautiful game คือประโยคที่สร้างความเชื่อมโยงให้กับแฟนบอลอย่างผมได้อย่างดีที่สุด ผมให้น้ำหนักกับ “คุณค่า” ของเกมฟุตบอลมากกว่า “มูลค่า” และผมเชื่อว่าแฟนบอลส่วนมากก็เห็นตรงกับผม ถ้าตัวนักเตะและทีมถูกประเมินและตีตราผ่าน “มูลค่า” ทางการเงิน ผมว่าแรงกดดันที่ตามมาจะไม่ช่วยผลักดันให้ฟุตบอลเป็น a beautiful game ยิ่งคุณมี “มูลค่า” สูง ความผิดเล็กน้อยก็ถูกมองว่าทวีคูณตาม “มูลค่า” ของคุณ และคุณอาจไม่เลือกก้าวข้าม comfort zone เพื่อทำสิ่งใหม่ๆ หรือสร้างสรรค์อะไรเพิ่มเติมเพราะกลัวไปหมด แต่สำหรับผมแล้วผมเลือกที่จะเห็นนักเตะลองทำอะไรในเกมที่คาดไม่ถึงเพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับเกมแล้วเกิดความผิดพลาดมากกว่าที่เห็นนักเตะทำตัวเป็นหุ่นยนต์เล่นตามแทคติกที่วางไว้เพื่อสถิติในเกมจะได้ออกมาสวยหรู ผมเลือกที่จะเห็นนักเตะทั้งทีมเล่นด้วยแรงจูงใจบางอย่างที่ลึกไปกว่าชัยชนะที่มาพร้อมกับคำพูดที่ว่า “คุ้มค่าตัวที่ซื้อมา” ผมมีความสุขมากกว่าเวลาดูฟุตบอลที่จบด้วยความยินดีจากชัยชนะและและความละอายจากการพ่ายแพ้ที่มันที่ออกมาจากจิตวิญญาณของนักเตะจริงๆ การตกชั้นไม่ได้ถูกมองว่าเป็นการสูญเสียรายได้แต่เป็นการนำความทุกข์มาให้กับเพื่อนร่วมทีมและแฟนบอลในเมือง

bale

ท่านผู้อ่านลองสังเกตดีๆ สิครับแล้วลองบอกตัวเองว่าสีหน้าของนักเตะของทีมอย่างรีลมาดริด โดยเฉพาะ กาเรธ เบลล์ เวลาจบเกมด้วยชัยชนะมันเป็นสีหน้าของคนที่โล่งใจที่ justify “มูลค่า” ของตัวเองและเพื่อนร่วมทีมได้หรือเป็นสีหน้าของคนที่รู้สึกได้ว่าสร้าง “คุณค่า” ให้กับ a beautiful game ตลอด 90 นาทีที่ผ่านมา

Related Articles

ฟรีวีซ่า เปิดรับนักท่องเที่ยวจีน

ฟรีวีซ่า เปิดรับนักท่องเที่ยวจีน

ในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่เป็นหุ้นส่วนของประเทศและมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจได้ผ่านภาวะวิกฤติมาหลายระลอก หลังจากที่ได้เห็นแผนการกระตุ้นธุรกิจท่องเที่ยว ดีใจที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้ความสำคัญกับจังหวัดรองอย่าง สตูล จันทบุรี ระนอง ตราด จากเดิมมองแค่ ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ กรุงเทพฯ ผมมองว่าคุณภาพของนักท่องเที่ยวสำคัญ เน้นเรื่องการมาอยู่ยาว หรือลองสเตย์ ที่มาเมดิคัลเวลเนส ทำให้ระยะเวลาในการอยู่เร็วขึ้น ทำให้ใช้จ่ายเงินเยอะขึ้น จากปีนี้ที่ต้องเป้าไว้ว่าจะได้นักท่องเที่ยว 10

มิติด้านสิ่งแวดล้อม ของ ESG กับภาคธุรกิจไทย

มิติด้านสิ่งแวดล้อม ของ ESG กับภาคธุรกิจไทย

แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน หรือ ESG ซึ่งย่อมาจาก environment (สิ่งแวดล้อม) social (สังคม) และ governance (บรรษัทภิบาล) ปัจจุบันได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางทั้งจากบริษัทจดทะเบียน นักลงทุน และผู้บริโภค จึงเป็นเรื่องที่ใครก็หลีกเลี่ยงไม่สนใจไม่ได้ในตอนนี้ จากทั้ง 3 มิติดังกล่าว นักวิเคราะห์บางคนบอกว่าถ้ามองในมุมที่จับต้องได้แล้ว มิติด้านสิ่งแวดล้อม

tax, ภาษี

To tax or not to tax ?

ที่ประเทศอังกฤษตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงหาเสียงของตัวแทนจากพรรคอนุรักษนิยม 2 คน ที่จะมาเสียบเก้าอี้นายกฯ แทน นายบอริส จอห์นสัน ซึ่งประกาศลาออกไปเมื่อไม่นานมานี้ หนึ่งนโยบายหลักที่ทั้งนาง Liz Truss และ นาย Rishi Sunak ยกขึ้นมาถกเถียงกันเพื่อชิงคะแนนนิยมก็คือ เรื่องการปรับโครงสร้างภาษีนั่นเอง คนหนึ่งเสนอมาตรการลดภาษีทั้งนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาให้ต่ำลง ในขณะที่อีกคนหนึ่งบอกว่าการปรับลดภาษีอาจไม่ใช่ทางออกสำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะยาว ประเด็นภาษีนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจในบริบทของประเทศไทยด้วยเช่นกัน