“เลือก โรงเรียนในกรุงเทพ อย่างไรจึงจะใช่ที่สุด?”
เมื่อการวางแผนครอบครัวไม่ได้จบแค่การมีบ้านที่อบอุ่น แต่ยังหมายถึงคุณภาพชีวิตของสมาชิกใหม่ในครอบครัว จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมพ่อแม่ยุคใหม่ล้วนใส่ใจกับการมองหาพื้นที่การเรียนรู้ที่ดีสำหรับลูก แสนสิริเชื่อเช่นกันว่าโรงเรียนคือบ้านหลังที่สองที่บ่มเพาะให้เด็กๆ เติบโตขึ้นอย่างมีศักยภาพ ด้วยเหตุนี้เราขอแบ่งปันไกด์ไลน์การเลือกโรงเรียนคุณภาพด้วย 4 คำถามที่จะช่วยคัดเลือกโรงเรียนที่ตรงใจคุณและตอบโจทย์การเรียนรู้ของลูกได้ดีที่สุด
คุณคาดหวังอะไรจากโรงเรียนของลูกบ้าง ?
นับเป็นคำถามที่สำคัญที่สุดสำหรับทุกครอบครัว เพราะแต่ละครอบครัวมีความคาดหวังต่อการเรียนในห้องเรียนไม่เหมือนกัน อีกทั้งโรงเรียนแต่ละแห่งย่อมมีคุณภาพหลักสูตร กิจกรรมและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันไปด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กมักแนะนำให้พ่อแม่สังเกตบุคลิกภาพ และความถนัดของลูก เพื่อนำไปสู่การเลือกโรงเรียนที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะกับการเรียนรู้ พร้อมด้วยหลักสูตรที่จะสามารถพัฒนาศักยภาพส่วนตัวของลูกได้ดีที่สุด เด็กบางคนอาจมีความถนัดด้านดนตรี พ่อแม่อาจจะส่งเสริมทักษะของเขาด้วยการเลือกโรงเรียนที่มุ่งเน้นการเรียนการสอนดนตรีและสื่อการสอนที่ครบครัน ในขณะเดียวกัน ภาษาอังกฤษกลายเป็นทักษะสำคัญอันดับต้นๆ พ่อแม่สมัยใหม่จำนวนมากจึงสนับสนุนให้ลูกเข้าเรียนในโรงเรียนนานาชาติชั้นนำ
สังคมในโรงเรียนแบบไหนที่ใช่สำหรับการเรียนรู้ ?
การเลือกโรงเรียนเท่ากับการเลือกเฟ้นสังคมให้เด็กๆ สังคมที่ดีและสอดคล้องกับอุปนิสัยใจคอของเด็กจะช่วยหล่อหลอมให้เด็กเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ครูและบุคลการในโรงเรียนที่มีความสามารถจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่เด็กๆ ส่วนสังคมในห้องเรียนที่มีความหลากหลายของนักเรียนอย่างโรงเรียนนานาชาติจะมีโอกาสเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับผู้คนต่างชาติเชื้อชาติ ต่างวัฒนธรรมตั้งแต่ยังเด็ก เป็นการส่งเสริมให้เด็กมีความฉลาดทางอารมณ์ พร้อมทั้งรู้จักปรับตัวเข้ากับโลกกว้างได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต
โรงเรียนที่เลือกเดินทางสะดวกแค่ไหน?
อีกหนึ่งคำถามสำคัญที่พ่อแม่คำนึงถึงมากที่สุด สอดคล้องกับแนวคิดการศึกษาในประเทศชั้นนำทั่วโลกอย่างฟินแลนด์และญี่ปุ่นที่สนับสนุนให้เด็กเรียนโรงเรียนใกล้บ้านที่สุด คงจะดีไม่น้อยหากลูกสามารถไปโรงเรียนด้วยการเดินเท้าเพียงไม่เกิน 10-15 นาที หรือโรงเรียนตั้งอยู่ในเส้นทางที่พ่อแม่สามารถแวะส่งลูกที่โรงเรียนตอนเช้าก่อนเวลาทำงานได้สะดวกรวดเร็ว โดยเฉพาะในเมืองที่มีการจราจรคับคั่งอย่างกรุงเทพฯ ครอบครัวจำนวนไม่น้อยจำเป็นต้องตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อหลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งให้ลูกๆ ไปถึงโรงเรียนได้ทันเวลา อีกทั้งการเดินทางไกลนำมาซึ่งค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นไปด้วย ในขณะที่ความสะดวกสบายในการเดินทางช่วยให้เด็กๆ รู้สึกตื่นตัวพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ตลอดวัน
ชีวิตรอบรั้วโรงเรียนเป็นอย่างไร ?
เพราะ โรงเรียนคือบ้านหลังที่สองของเด็กๆ สภาพแวดล้อมของโรงเรียนจึงสำคัญไม่แพ้สภาพแวดล้อมของบ้าน แม้โรงเรียนที่ติดถนนใหญ่จะสะดวกสบายกว่า แต่อาจต้องเสี่ยงกับปัญหามลภาวะทางอากาศและทางเสียงมากกว่า จึงส่งผลต่อสุขภาพของเด็กในระยะยาว พ่อแม่อาจแก้ปัญหาโดยการเลือกโรงเรียนที่มีสิ่งแวดล้อมที่ดีซึ่งแม้จะไม่ติดถนนใหญ่ แต่ยังคงเดินทางสะดวก สภาพแวดล้อมรอบ โรงเรียนในกรุงเทพ ยังหมายถึงชุมชนโดยรอบได้อีกด้วย หากโรงเรียนอยู่ในละแวกที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมด้วยร้านอาหารคุณภาพ และมีพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจหลังเลิกเรียนที่น่าเชื่อถือ เด็กๆ ย่อมเติบโตอย่างมีคุณภาพ อีกทั้งพ่อแม่สามารถไว้วางใจให้ลูกพบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ หลังเลิกเรียน
ในพื้นที่ของ T77 Community มีโรงเรียนนานาชาติ Bangkok International Preparatory and Secondary School (บางกอกเพรพ) ที่จะขยายแคมปัสสำหรับระดับมัธยมมาตั้งไว้ที่นี่โดยมีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคมในปีหน้า เป็นโรงเรียนคุณภาพใกล้บ้านอีกแห่งหนึ่งที่นอกจากจะโดดเด่นในทางการศึกษาอย่างรอบด้าน ครบครันด้วยสื่อการเรียนรู้ที่ทันสมัย บางกอกเพรพยังตอบโจทย์เรื่องการเดินทางอันสะดวกสบายโดยไม่ต้องกังวลกับชั่วโมงเร่งด่วนในทุกๆ เช้า จึงช่วยประหยัดเวลา แถมเพิ่มความอุ่นใจให้การรับ-ส่งลูกๆ ด้วยตัวเองได้ถึงรั้วโรงเรียน อีกทั้งยังเป็นคอมมูนิตี้นานาชาติที่เต็มไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ชั้นนำ ร้านอาหารนานาชาติ และพื้นที่กิจกรรมน่าสนใจอีกมากมาย T77 จึงพร้อมสำหรับทุกการเติบโตของทุกคนในครอบครัว
ทำความรู้จักทุกแง่มุมของ T77 Community ได้ที่นี่ คลิก www.t77community.com