ในวันที่อะไรๆ ก็ดูจะซื้อง่ายขายคล่อง แถมสินค้ายังหน้าตาเหมือนกันไปหมด ใครต่อใครต่าง
งัดสารพัดวิธี “ปล่อยของ” กันออกมา จึงไม่แปลกที่งานลด แลก แจก แถม จะมีให้เห็นอยู่ทั่วไป
หากแต่สิ่งสำคัญที่หลายคนมักจะมองข้ามและเป็นเหมือนกุญแจสำคัญที่จะกุมหัวใจของลูกค้าไว้ได้
กลับไม่ใช่แค่โปรโมชั่นสุดคุ้ม ไม่ใช่รูปลักษณ์สวยงาม หรือฟังก์ชันล้ำสมัย
แต่เป็นเรื่องของ “การบริการ” ล้วนๆ!
ในยุคนี้ แม้แต่คนทั่วไปอย่างเราก็สามารถลุกขึ้นมาเป็นเจ้าของธุรกิจในฝันกันได้ไม่ยาก แค่มีสินค้าที่ต้องการจะขาย แล้วสร้าง Facebook Page กันสักหน่อย พ่วงด้วย account บน Instagram อีกนิด เท่านี้ก็พร้อมปล่อยของกันได้แล้ว แต่เรื่องตลก (ร้าย) คือการมีสินค้าหน้าตาคล้ายๆ กัน คุณภาพใกล้เคียงกันเต็มท้องตลาด “การบริการ” หรือ “Service” จึงกลายมาเป็นปัจจัยสำคัญที่จะชี้ชัดว่าแบรนด์นั้นจะอยู่หรือไป จะเหนือหรือด้อยกว่าแบรนด์อื่น และจะเป็นที่รักหรือที่ชังของลูกค้ากันแน่ เพราะลูกค้าทุกคนก็ต่างคาดหวังว่าจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีตามความต้องการของตนเองกันทั้งนั้น
แบรนด์ต่างๆ ทั่วโลกจึงหันมาพัฒนาการบริการของตัวเองแบบไม่มีใครยอมใคร อย่าง Apple แบรนด์ยักษ์ใหญ่ด้านไอทีที่ติดอันดับ Top 10 แบรนด์ที่มีบริการดีที่สุด ซึ่งนอกจากจะโดดเด่นด้วยพนักงานหน้าร้านที่แสนเป็นมิตรและพร้อมให้คำปรึกษาทุกเรื่องแล้ว บริการหลังการขายก็ไม่น้อยหน้า เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเกิดปัญหากับอุปกรณ์ Apple คู่ใจ ทางทีมงานซัพพอร์ตก็พร้อมที่จะเข้ามาช่วยเหลือทันทีผ่านศูนย์บริการช่วยเหลือออนไลน์ ที่มีทั้งคู่มือคำแนะนำในการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น หรือเราสามารถแจ้งเบอร์โทรทิ้งไว้แล้วให้พนักงานติดต่อกลับภายใน 2 นาที แต่สำหรับใครที่สะดวกจะแชทเค้าก็มีบริการด้านนี้เช่นกัน นอกจากนี้ ทาง Apple ยังมีศูนย์ซ่อมและให้บริการที่กระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลก หรือหากอยากได้ประกันเพิ่มเติมให้อุ่นใจ เค้าก็มีบริการประกันแบบรายปีหรือ Apple Care ให้ซื้อเพิ่มเติมได้อีกด้วย
Apple จึงถือเป็นแบรนด์ที่เรียกได้ว่ามีบริการดูแลลูกค้าครบทุกองศา ทั้งก่อนการซื้อและหลังการขาย ครบเครื่องครอบคลุมทุกเรื่องอย่างแท้จริง
และอีกหนึ่งแบรนด์ที่จะขอยกมาเป็นตัวอย่างก็คือ Marriott International เครือธุรกิจโรงแรมที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก ที่นอกเหนือจากการดีไซน์ที่โดดเด่นแล้วยังให้ความสำคัญในเรื่องของการบริการและการต้อนรับอย่างอบอุ่นมาเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยการเทรนพนักงานของโรงแรมอย่างจริงจังในทุกๆ วัน ให้พร้อมบริการแขกและอำนวยความสะดวกสบายตลอดระยะเวลาที่เข้าพัก
ด้วยการยึดถือความพึงพอใจของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) จึงทำให้ Marriott กลายเป็นเครือโรงแรมที่ครองใจใครหลายๆ คน
แต่หากพูดถึงสินค้าอย่างอสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโด ที่มีมูลค่าสินค้าสูงกว่า Gadget ของ Apple สักชิ้นด้วยซ้ำ คนส่วนใหญ่กลับไม่คิดถึงเรื่องของ “การบริการ” ที่ตนควรจะได้รับสักเท่าไหร่ แต่มักพุ่งเป้าไปที่การดีไซน์ ทำเล ราคา ฟังก์ชันการใช้งาน และสิ่งอำนวยความสะดวกเป็นหลัก ทั้งๆ ที่สำหรับบางครอบครัวแล้ว การซื้อบ้านสักหลังอาจเป็นโอกาสครั้งเดียวในชีวิต แล้วทำไมการจะเลือกซื้อบ้านทั้งที เราถึงไม่มองให้ครบทุกด้านล่ะ
“แล้วการบริการที่ว่า จะต้องประกอบไปด้วยอะไรบ้าง” นี่คงเป็นคำถามที่เกิดขึ้นตามมา เมื่อเราเริ่มคิดว่าโครงการที่เราจะซื้อต้องให้บริการอะไรกับเราบ้าง ลองมาอัพเดทสิทธิขั้นพื้นฐานที่คนคิดอยากจะซื้อบ้านอย่างคุณพึงจะได้รับกับ 5 การบริการพิเศษของแสนสิริ ที่พร้อมบริการคุณตั้งแต่ก้าวแรกที่คุณเดินเข้ามายังสำนักงานขาย ไปจนถึงก้าวสุดท้ายที่คุณตัดสินใจเข้ามาเป็นลูกบ้านของเรา เพราะแสนสิริยึดถือความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลักและเราเข้าใจถึงความต้องการ รวมถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับคุณทั้งในระหว่างการซื้อและการอยู่อาศัย เราจึงมีบริการเพื่อการอยู่อาศัยครบทุกด้านและตอบทุกโจทย์ความต้องการของคุณ
1. มีเจ้าหน้าที่ดี ก็เหมือนมีที่ปรึกษาส่วนตัว
เมื่อคุณตัดสินใจก้าวเข้ามายังสำนักงานขายของเราแล้ว ให้มั่นใจได้เลยว่า คุณจะได้พบกับการต้อนรับที่แสนอบอุ่นจากทีมพนักงานขายของเราที่พร้อมจะให้ทุกข้อมูลที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ โปรโมชัน รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่คุณจะได้รับ และการบริการของแสนสิริไม่ได้หยุดอยู่แค่เมื่อคุณตัดสินใจซื้อเท่านั้น แต่เรายังส่งหน้าที่ต่อให้กับเจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์ หรือ Customer Relations มาคอยดูแลและให้คำปรึกษากับคุณทั้งเรื่องการเงิน และช่วยเตรียมเอกสารร้อยแปดพันอย่าง จะไม่มีทางทิ้งให้คุณต้องงุนงงและวุ่นวายเองไม่รู้จบอย่างแน่นอน อีกทั้งยังคอยให้คำแนะนำด้านสินเชื่อ การโอนกรรมสิทธิ์ การตรวจรับบ้าน ไปจนถึงการให้ข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับโครงการและการย้ายเข้าอยู่ เพื่อให้ประสบการณ์การอยู่อาศัยในแต่ละขั้นตอน กลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับลูกบ้านทุกคน
2. บ้านที่ปลอดภัย ช่วยเพิ่มความอุ่นใจในระยะยาว
เมื่อมีที่ปรึกษาและมีคนดูแลสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้คุณแล้ว จะขาดทีมผู้พิทักษ์ที่จะดูแลความสงบเรียบร้อยให้บ้านของเราไปไม่ได้! เพราะความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอ ให้เป็นหน้าที่ของ Sansiri Security System ระบบดูแลรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานได้เลย เพราะเจ้าหน้าที่ทุกคนของเราผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีจากเจ้าหน้าที่ SSI จนได้มาตรฐานของแสนสิริ
แต่เดี๋ยวก่อน พวกเขาไม่ได้มาตัวเปล่า! เพราะทีมนี้เขายังมาพร้อมเทคโนโลยีตัวช่วยสำหรับเสริมระบบรักษาความปลอดภัยให้ลูกบ้านได้อุ่นใจยิ่งกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น Smart Access-QR Code ระบบจัดการการเข้า-ออกด้วย QR code ที่ทั้งปลอดภัยและช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านคอนโด เพราะถ้าเพื่อนมาหาเมื่อไหร่ ก็แค่ส่ง QR Code ไปให้ เพื่อสแกนขึ้นมาหาคุณได้เลย ไม่ต้องกด Pause ซีรีส์เรื่องโปรดแล้วเดินลงไปรับให้เสียเวลาเลย
หรือให้ล้ำๆ ไปกว่านั้น ก็ต้อง CCTV Analytic ที่ไม่ใช่กล้องวงจรปิดธรรมดาๆ ทั่วไป แต่เป็นกล้องวงจรปิดที่สามารถตรวจจับสิ่งผิดปกติได้อย่างอัตโนมัติ เมื่อมีสิ่งผิดปกติก็จะส่งการแจ้งเตือนไปยัง Smart Command Centre ศูนย์ควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยและระบบปฏิบัติการอย่างเต็มรูปแบบ ราวกับศูนย์บัญชาการของเหล่า Avengers อย่างไรอย่างนั้น และยังมีคนคอยตรวจตราดูแลพื้นที่ส่วนกลางและแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย
3. ถนัดเรื่องซ่อม พร้อมทุกเรื่องป้องกัน
ถ้าซื้อบ้านทั้งที ต้องคอยวุ่นวายกับการบำรุงรักษาเองไม่รู้จบ ไม่ว่าจะปัญหาเล็กหรือปัญหาใหญ่ ก็ต้องคอยเสิร์ชอินเทอร์เน็ตหาเบอร์ช่างเองจนปวดหัว แถมถ้าเจอช่างที่ไม่ชำนาญก็อาจจะต้องซ่อมแล้วซ่อมอีกไม่รู้จบ หากคุณเป็นลูกบ้านของแสนสิริ ก็ตัดปัญหากวนใจเหล่านี้ออกไปได้เลย! เพราะบริการ Home Care ของเราจะช่วยดูแลบ้านของคุณทั้งก่อนและหลังการเปลี่ยนแปลง ชนิดที่เรียกได้ว่าทั้งป้องกันและรักษาไปพร้อมๆ กัน
เพราะเรามีทั้ง Preventive Care โปรแกรมบริการที่ช่วยตรวจตราและดูแลบ้านให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ รวมถึงคู่มือดูแลบ้าน (Maintenance Guide) ใน Home Service Application ที่รวบรวมวิธีการดูแลรักษาอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านเบื้องต้นให้คุณสามารถจัดการได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง แถมยังมาพร้อมฟีเจอร์ช่วยแจ้งเตือนเมื่อใกล้ครบกำหนดวันบำรุงรักษาอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมี Maintenance Care หรือบริการที่ช่วยซ่อมแซมบ้านหรือคอนโดของคุณให้เหมือนใหม่อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลในระยะประกันหรือหลังหมดระยะประกันด้วยทีมช่างผู้ชำนาญการจากแสนสิริ แต่หากบ้านของคุณหมดประกันแล้วก็ไม่ต้องกังวล! เพราะแสนสิริกำลังจะเปิดให้บริการแพคเกจการประกันแบบรายปีเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้อีกด้วย
4. ไม่ใช่แค่ดูแลบ้าน แต่เราดูแลคุณด้วย
เมื่อคุณตัดสินใจที่จะครอบครองบ้านหรือคอนโดและเข้ามาเป็นลูกบ้านของแสนสิริอย่างเต็มตัวแล้ว คุณก็จะถือเป็นหนึ่งในสมาชิกคนสำคัญของครอบครัว Sansiri Family ที่นอกจากสิทธิพิเศษมากมายที่เราคัดสรรมาเป็นอย่างดีแล้ว แสนสิริยังมีบริการอื่นๆ ที่จะมาเติมเต็มการใช้ชีวิตของลูกบ้านเพิ่มเติม เพื่อมอบประสบการณ์อันน่าประทับใจให้ลูกบ้านไม่ขาดสายอีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็น Moving Service บริการช่วยขนย้ายเพื่อให้ลูกบ้านก้าวเข้าสู่บ้านใหม่ได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ต้องกังวลว่าข้าวของจะเสียหายหรือสูญหายไประหว่างการย้ายบ้าน หรือถ้าใครคิดไม่ออกว่าจะแต่งบ้านยังไงให้เก๋ไก๋เป็นสไตล์ของเรา ก็สามารถใช้บริการ Design Service จากทีมที่ปรึกษาด้านการออกแบบภายในได้ เพื่อให้ภาพของบ้านในฝันออกมาตรงใจคุณที่สุด นอกจากนี้ เพื่อทำให้บ้านยังคงเป็นบ้านที่อบอุ่นอยู่เสมอ แสนสิริยังมี Cleaning Service ที่เป็นอีกหนึ่งบริการที่จะตอบโจทย์ชีวิตคุณได้เป็นอย่างดี ด้วยทีมงานที่จะช่วยทำความสะอาดบ้านให้เรียบร้อยไม่มีที่ติ วางใจได้เลยว่าการใช้ชีวิตในบ้านหลังนี้จะราบรื่นและได้รับการดูแลอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
5. จะขายหรือปล่อยเช่า ก็มีคนจัดการให้
เดี๋ยวนี้การซื้อบ้านสักหลัง หรือซื้อคอนโดสักห้อง หลายคนไม่ได้มองแค่เพื่อการอยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว แต่หันมาซื้อเพื่อการลงทุนด้วย ดังนั้นสำหรับใครที่อยากซื้อขายหรือปล่อยเช่า ก็แน่นอนว่าบริการผู้ช่วยจัดการด้านอสังหาริมทรัพย์ (Property Management) ก็เป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ ที่แสนสิริ เรามีการให้บริการร่วมกับพลัส พร็อพเพอร์ตี้ (Plus Property) ในการช่วยหาผู้ซื้อ หรือผู้เช่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงยังสามารถให้คำปรึกษาด้านการซื้อขายอสังหาฯ และการดูแลความเรียบร้อยของทุกส่วนต่างๆ ในห้องให้สวยงาม พร้อมเข้าอยู่เสมอ
“การบริการ” ก็เปรียบเสมือนเพื่อนคนหนึ่ง ที่จะคอยดูแลกันไปในทุกๆ วัน ไม่ละทิ้งหรือหนีหายกันไปกลางทาง “แสนสิริ” เราเป็นทั้งเพื่อนและที่ปรึกษา ที่จะอยู่เคียงข้างคุณด้วยบริการที่ดีที่สุดตั้งแต่ก่อนการซื้อและหลังการขาย รวมไปถึงช่วงของการอยู่อาศัย เพื่อทำให้ทุกเรื่องการอยู่อาศัยของคุณเป็นเรื่องง่าย และเติมเต็มประสบการณ์การใช้ชีวิต ให้คุณได้ “บ้านที่ได้มากกว่าบ้าน”
