ทำการตลาดด้วยภาพถ่ายกับกลยุทธ์ Photo Marketing

การถ่ายภาพเพื่อส่งเสริมการตลาดคือเรื่องของจิตวิทยาที่เกี่ยวกับการมองเห็น ภาพหนึ่งภาพสามารถสร้างความรู้สึกให้คนอยากซื้อ เพราะสิ่งที่ซ่อนอยู่ในภาพผ่านการมองเห็นคือการโน้มน้าวใจ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องของภาพถ่ายจะไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับยุคนี้ ซึ่งคุณเกียรติชัย หงส์วิเศษ ช่างภาพอาชีพ และเจ้าของเพจ Snappix ได้นำความรู้ดีๆ มาเล่าให้ฟังในหัวข้อ Photo Marketing ในงาน Creative Talk Conference 2018 นี้ด้วย

 

คุณเกียรติชัย หงส์วิเศษ ช่างภาพอาชีพ และเจ้าของเพจ Snappix

UI และ UX เป็นเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่หลักการถ่ายภาพเพื่อส่งเสริมการตลาดจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงเพราะในวงการโฆษณาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุปันก็ใช้หลักการเดียวกันและสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงคือความต้องการของมนุษย์

นอกจากนี้ต้องสื่อโฆษณาให้ตรงเป้าหมาย , เขียน Content ให้โดน , มีงบประมาณในการโฆษณาให้ตรงใจและตรงเป้าหมายเพราะมุมมองเรื่องราคาของมนุษย์ “ถูก- แพง  ไม่มีจริง มีแต่คุ้มหรือเปล่า“

Business Marketing Strategy คือกระบวนการแลกเปลี่ยนซื้อขาย Product ด้วยการตลาดหรือการโฆษณา ในปัจจุบันการตลาดจะแข่งขันดุเดือดมาก งานสื่อโฆษณาที่ใช้ในการตลาด Base On Sensory ของมนุษย์ ดังนั้น Photography Advertising For Entrepreneur ในการโฆษณา มีหลักๆหลายสื่อ อาทิ VDO , สื่อการเขียน ฯลฯ แต่ภาพถ่ายเป็นหนึ่งในสื่อที่มีความพิเศษมากกว่าสื่ออื่นเพราะภาพถ่ายถูกใช้งานมาตั้งแต่ยุคก่อนหน้านี้ซึ่งก็คือ 3 ยุคที่เกิดขึ้นในวงการโฆษณา

  • ยุค Print เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โปสเตอร์ ป้ายโฆษณา
  • ยุค Pre-Digital เช่น โทรทัศน์ อีเมลล์ เว็ปไซต์ ฯลฯ
  • ยุค Digital เช่น Twitter, Mobiles APPS. , Facebook, Youtube , Instagram ฯลฯ

สำหรับยุคของ Photo Marketing นั้น การทำการตลาดจะไม่ใช่แค่ประกาศว่าคุณขายอะไร

แต่ในยุคนี้ต้องมีการขายความเท่ ขายความรู้สึกว่าคนเป็นส่วนหนึ่งของแอดโฆษณา พอเห็นภาพโฆษณาปุ๊บแล้วรู้สึกว่าใช่เลยโดยมโนสำนึก การโฆษณาเกิดมาเพื่อทำให้คนเชื่อว่านี่คือความจริงที่เกิดขึ้นในชีวิตเพื่อเชื่อมต่อความรู้สึกที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภค หลังจากนั้นภาพที่ถูกนำมาใช้โฆษณาจะเริ่มเป็น 3D ภาพถ่ายเริ่มมีมิติ ซึ่งเรื่องของแอดโฆษณานั้นถูกเปลี่ยนไปตามยุคสมัย

สำหรับยุคนี้จะแค่เอาขวดมาตั้งถ่ายรูปแล้วก็ขายของนั้นจะไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว เราเชื่อว่ามันเป็นเรื่องของความรู้สึกที่สื่อถึงอารมณ์มากขึ้น โดยกระบวนการเหล่านี้เกิดจากการรับรู้ของมนุษย์เป็นกระบวนการที่เห็นแอดโฆษณาภาพหนึ่งแค่เพียงเสี้ยววินาทีแล้วเกิดการโน้มน้าวใจ ขอเรียกว่า R.E.I.C.A Flow

  • R : Reach                     ภาพถูกเผยแพร่แล้วเข้าถึงความรู้สึกคน
  • E : Eye Catching         การออกแบบที่สะดุดตาหรือเตะตา
  • I  : Interesting              แอดที่สามารถทำให้คนหยุดดูได้เพราะน่าสนใจ
  • C : Convince                การโน้มน้าวใจที่เกี่ยวข้องกับคนมากพอเพราะถูกดีไซน์ให้เข้าถึง
  • A : Action                     หากแอดโฆษณาดีพอและโดนใจคน จะเกิด Action เช่น มีคนกด like , กด share ฯลฯ

การรับรู้ของกลุ่มลูกค้ามีเรื่อง Value ของสินค้าเข้ามาเกี่ยวข้องซึ่งหมายถึงเป็นสินค้าที่คนให้คุณค่าและยอมจ่าย ทุกวันนี้ถ้าหากเราซื้ออะไรซ้ำๆ เป็นประจำนั่นหมายความว่าสินค้านั้นตอบโจทย์เรา ตรงกับความจริงที่ว่า  “สินค้า” ไม่ได้มีความรู้สึก แต่ “คนซื้อ” มีความรู้สึกเสมอ ภาพโฆษณาที่ลูกค้าดูแล้วเชื่อ ดูแล้วโดนใจ ดูแล้วซื้อ แสดงว่าภาพถ่ายโฆษณาของสินค้านั้นๆ มี Value ที่สามารถโน้มน้าวใจลูกค้าได้

 

สามารถชมวิดีโอย้อนหลังได้ที่ คลิก

 

Related Articles

MICRO INFLUENCER 2018
“ไว้เนื้อ เชื่อใจ”
แรงขับเคลื่อนยุคใหม่
ผ่าน INFLUENCER

กระแสที่กำลังมาในปี 2018 คือการทำแบรนด์โดยคำนึงถึงความหลากหลายทั้งชาติพันธุ์ ชนชั้น สีผิวหรือศาสนา หรือก็คือ “inclusivity” โดยปัจจัยสำคัญที่จะทำให้แบรนด์มีความ Inclusivity คือ การนำ Micro Influencer เข้ามาเป็นตัวเชื่อมระหว่างแบรนด์กับกลุ่มลูกค้า เนื่องจาก Micro Influencer นั้นมาจากคนหลากหลายกลุ่ม เมื่อแบรนด์สามารถเข้าถึง Micro Influencer

เทคนิคการเขียน Content ให้มัดใจคนยุคใหม่ในปี 2018 ได้อยุ่หมัด

What’s Next for Social Contents สำหรับปี 2018 นี้ ได้ 4 เจ้าของเพจดังอย่าง คุณภูศณัฏฐ์ การุณวงศ์วัฒน์ เจ้าของเพจ “เทพลีลา” และคุณพ่อผู้โด่งดังจากเพจ “Little Monster”, คุณทิตยา เฮงนุกูล