เทคนิคการเขียน Content ให้มัดใจคนยุคใหม่ในปี 2018 ได้อยุ่หมัด

What’s Next for Social Contents สำหรับปี 2018 นี้ ได้ 4 เจ้าของเพจดังอย่าง คุณภูศณัฏฐ์ การุณวงศ์วัฒน์ เจ้าของเพจ “เทพลีลา” และคุณพ่อผู้โด่งดังจากเพจ “Little Monster”, คุณทิตยา เฮงนุกูล จากเพจ “เรียนเถอะ อยากสอน”, คุณสุรศักดิ์ เหลืองอุษากุล จาก “BrandBaker” และคุณปิยนันต์ ชวเลยยางกูร จาก “Thai Live Stream” มาร่วมบอกเล่าและแชร์ประสบการเกี่ยวกับการทำ Social Contents ที่ดูซับซ่อนสำหรับมือใหม่ให้เข้าใจและเห็นภาพกันมากขึ้น

 

เคล็ดลับการทำ Content

คุณทิตยา เฮงนุกูล (เรียนเถอะ อยากสอน)

สำหรับ เพจเรียนเถอะ อยากสอน คุณทิตยามีเคล็ดลับ 3 ข้อ ทั้ง ก. ข. และ ค. ในการทำ Content ที่ยังสามารถปรับใช้ได้กับทุกอย่าง ไม่ใช่แค่การสอนเท่านั้น

. กระชับ เพราะคนที่เรียนมักจะขี้เบื่อ การตัดต่อคลิปจึงต้องทำให้คนเหล่านั้นไม่มีเวลาเบื่อทัน

. เข้าถึงง่าย เริ่มต้นอย่าคิดว่าตัวเองเป็นคุณครู แค่เป็นคนคนหนึ่งที่อยากสอนผู้อื่น รวมทั้งตัวคลิปเองก็อยู่บน Facebook ซึ่งเป็นช่องทางที่ช่วยให้คนเข้าถึงได้ง่าย

. ครอบคลุม ในแต่ละคลิปจะจัดทำแบบครอบคลุมเนื้อหาสำหรับการแก้ไขปัญหาเป็นเรื่องๆ โดยจบในคลิปเลย

คุณภูศณัฏฐ์ การุณวงศ์วัฒน์ (เทพลีลา)

ส่วนเพจให้ความบันเทิงอย่าง เพจเทพลีลา คุณภูศณัฏฐ์บอกว่า ในเมื่อตัวเองหน้าตาไม่หล่อเหลา และไม่ใช่คนอายุน้อยๆ แล้ว การจะอยู่บนโลก Social ให้คนจำเราได้จึงต้องนำความปัญญาอ่อนมาขาย โดยจะนำเรื่องที่สะกิดใจหรือโดนใจคนมาเล่น ซึ่งบางครั้งก็เป็นการสอดแทรกสิ่งเตือนใจคนไว้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการเป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่พยายามเป็นในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้เป็น เพราะเราไม่ใช่นักแสดง

คุณปิยนันต์ ชวเลยยางกูร (Thai Live Stream)

ด้าน Agency อย่าง Thai Live Stream มีเคล็ดลับคือ เริ่มจากการตั้งโจทย์ก่อนว่า Content จะสื่อถึงใคร และต้องการผลลัพธ์อย่างไร เพราะไม่ใช่ว่าทุก Content จะควรใช้ Live เสมอไป คำถามคือจะรู้ได้ไงว่า เพจควรทำ Live หรือไม่? คำตอบก็คือ ให้นำ Audience เป็นตัวตั้ง และวัดดูจากแต่ละ Content อีกสิ่งที่สำคัญคือ เราจะต้องมีเทคนิคเรียกคนเข้ามา ไม่ใช่ว่าลุยเลยอย่างเดียว เพราะไม่แน่ว่าอาจจะเจอการ Live แล้วคนดูน้อยมากๆ ก็ได้

คุณสุรศักดิ์ เหลืองอุษากุล (BrandBaker)

ส่วนสตาร์ทอัพ BrandBaker ที่มีเรื่องการขายของเขามาเกี่ยวข้อง มีเคล็ดลับในการทำ Content คือ การคำนึงถึง “ใจลูกค้า” หรือ “ใจคนดู” ว่าทำ Content แบบไหนแล้วจะไปทำอะไรกับใจคนดูบ้าง นอกจากนี้ในการขายสินค้าใดๆ มี 3 เรื่องที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องในการใช้คิด Content คือ เราอยากขายอะไร ลูกค้าสนใจอะไร และสังคมกำลังสนใจอะไร โดยเฉพาะสิ่งที่สังคมสนใจนี้ เราก็มักจะเห็นหลายแบรนด์นำเข้ามาใช้ประโยชน์เช่นกัน โดยเฉพาะกระแสดราม่าจากดารา

Content แบบไหนที่คนสนใจมากที่สุด?

ทุกคนต่างเห็นตรงกันว่า Content ในรูปแบบ VDO มีคนสวนใจมากที่สุด แต่อาจต้องดูด้วยว่าตอนนั้นๆ รูปแบบไหนกำลังมา แต่ถ้าตอนนี้ก็ต้องยกให้ Short VDO รวมทั้ง VDO ที่มีลูกเล่นก็น่าสนใจเช่นกัน

“หนังจะยาว ตอนจะเยอะ คนก็ดู” แปลว่าเวลาไม่ใช่เรื่องสำคัญหรือเปล่า?

สำหรับระยะเวลาในการเสพ Content ของคนขึ้นอยู่กับว่าคนเหล่านั้นกำลังทำอะไรอยู่ในช่วงไหน โดยคนทั่วไปมีการเข้าถึง Content 3 แบบ

On the go : การเสพ Content ระหว่างเดินทาง เช่น เดินทางช่วงเช้า สิ่งที่เสพก็จะมีลักษณะสั้น หรือก็คืออยู่ในรูปแบบ Short form

Lean forward : การเสพ Content ระหว่างนั่งรอแฟนเข้าไปใน Sephora ที่อาจทำให้คนเลือกเสพ Content ได้นานขึ้น หรือประมาณ 10-15 นาที

Lean Back : การเสพ Content ระหว่างนอน ที่สามารถเสพ Content แบบยาว หรือมีลักษณะเป็น Long form ได้

นอกจากนี้ การเสพ Content แบบ On the go ก็ทำไลฟ์ได้เช่นกัน ขึ้นกับว่าเราจะทำอะไรให้ผู้ชมดู เพราะคนไม่ได้ต้องการความชัดเสมอไป

ทำเพจก็ต้องมีสปอนเซอร์ แล้วอย่างนี้ โฆษณาแบบ Tie-in หรือขายตรงๆ ดีกว่ากัน?

  • คุณทิตยามองว่าสิ่งสำคัญคือการโฆษณานั้นๆ ต้องไม่ขัดกับธรรมชาติของเพจซึ่งผูกติดอยู่กับความคาดหวังของคนที่เข้ามา เพราะโดยปกติ คนจะคลิกเข้าไปดูเพจ เขามีความคาดหวังบางอย่างอยู่แล้ว แต่ถ้าไปเจอสิ่งที่ขัดกับธรรมชาติที่เขาหวัง Engagement ก็อาจลดลงได้
  • ส่วนคุณภูศณัฏฐ์มีการพิจารณาว่าโฆษณานั้นๆ มีลักษณะอย่างไร เหมาะกับเพจเทพลีลา หรือไม่ หรือเหมาะกับเพจ Little Monster มากกว่า
  • คุณสุรศักดิ์เองก็เชื่อว่าเราต้องดูที่ธรรมชาติของคนขายว่าเป็นคนแบบไหน สามารถขายอะไรให้น่าสนใจได้บ้าง ส่วนวิธีการโฆษณาก็ไม่ตายตัว ต้องดูว่า ณ ขณะนั้นลูกค้าต้องการอะไร และเราจะขายอะไร แต่วิธีพบว่าเวิร์คที่สุดสำหรับตัวเองก็คือการขายตรงๆ มากกว่า
  • ในขณะที่คุณปิยนันต์จะมีแพลตฟอร์มหนึ่งให้ลูกค้าในลักษณะ Online Ticket หรือเป็น Content บนโลกออนไลน์ ที่เน้นการขายของโดยตรง

ซึ่งมติเอกฉันท์ที่เห็นพ้องต้องกันหนึ่งเรื่องคือความเป็นธรรมชาติหรือคาแรคเตอร์ของเพจที่ต้องชัดเจนมากที่สุด

จุดแข็งของเพจที่ทำคนติดตามไม่มีลดลง

ตัวตนของเพจที่ไม่เปลี่ยน และไม่หนีไปจาก Positioning ที่ตั้งไว้คือสิ่งที่ดึงดูดให้คนติดตามอย่างเหนียวแน่นไม่ไปไหน ตามด้วยการรู้ให้รอบ รู้ให้มาก และตามให้ทันตลอดเวลา ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ต้องมีความสม่ำเสมอในการทำสิ่งต่างๆ ซึ่งแม้ว่าจะยังไม่เวิร์คในช่วงแรก ก็ต้องค่อยๆ เรียนรู้ไป

ทิ้งท้ายกันด้วยข้อสรุปที่ช่วยให้ Content ที่คิดขึ้นมากระจายสู่โลกโซเชียลมีความน่าสนใจ คงหนีไม่พ้นเรื่องของคาแรคเตอร์ความเป็นตัวตนที่ช่วยดึงดูดความสนใจได้ในแว๊บแรก ซึ่งต้องมาพร้อมด้วยเนื้อหาที่เข้าใจง่ายและกระชับเพื่อความไม่น่าเบื่อ และอย่าลืมที่จะเข้าใจว่าผู้ที่เรากำลังส่งสารต้องการอะไร เพียงเท่านี้ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี และสามารถต่อยอดไปยังเพจที่มีคุณภาพต่อไปได้

สามารถชมวิดีโอย้อนหลังได้ที่ คลิก

 

Related Articles

ทำการตลาดด้วยภาพถ่ายกับกลยุทธ์ Photo Marketing

การถ่ายภาพเพื่อส่งเสริมการตลาดคือเรื่องของจิตวิทยาที่เกี่ยวกับการมองเห็น ภาพหนึ่งภาพสามารถสร้างความรู้สึกให้คนอยากซื้อ เพราะสิ่งที่ซ่อนอยู่ในภาพผ่านการมองเห็นคือการโน้มน้าวใจ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องของภาพถ่ายจะไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับยุคนี้ ซึ่งคุณเกียรติชัย หงส์วิเศษ ช่างภาพอาชีพ และเจ้าของเพจ Snappix ได้นำความรู้ดีๆ มาเล่าให้ฟังในหัวข้อ Photo Marketing ในงาน Creative Talk Conference 2018 นี้ด้วย   UI

MICRO INFLUENCER 2018
“ไว้เนื้อ เชื่อใจ”
แรงขับเคลื่อนยุคใหม่
ผ่าน INFLUENCER

กระแสที่กำลังมาในปี 2018 คือการทำแบรนด์โดยคำนึงถึงความหลากหลายทั้งชาติพันธุ์ ชนชั้น สีผิวหรือศาสนา หรือก็คือ “inclusivity” โดยปัจจัยสำคัญที่จะทำให้แบรนด์มีความ Inclusivity คือ การนำ Micro Influencer เข้ามาเป็นตัวเชื่อมระหว่างแบรนด์กับกลุ่มลูกค้า เนื่องจาก Micro Influencer นั้นมาจากคนหลากหลายกลุ่ม เมื่อแบรนด์สามารถเข้าถึง Micro Influencer