Green Book

"ภาษาหนัง" ง่ายกว่า "ภาษารัก"
และไม่ยากเท่า "ภาษาจีน"

ถ้ากุมภาพันธ์เป็นเวลาประกาศรางวัลของ “บันเทิงอเมริกัน” เดือนมีนาคม ก็คือโมงยามของรางวัลบ้านเรา…

คนทำงานในแวดวงดนตรี ละครทีวี หรือวรรณกรรม จะคึกคักก็เดือนนี้ แต่ที่ครึกครื้นสุด น่าจะเป็นคนในแวดวงภาพยนตร์ เพราะสามสำนักใหญ่ สุพรรณหงส์ทองคำ  คมชัดลึกอวอร์ดส รวมไปถึงชมรมวิจารณ์บันเทิงของสายนักวิจารณ์ มักจะประกาศเดือนนี้กัน

สุพรรณหงส์
ภาพยนตร์เรื่อง “มะลิลา” ภาพยนตร์ที่คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในงานประกาศรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 28 ปี 2562 ภาพจาก MGR ONLINE

ตัวผมเองเคยเป็นกรรมการทั้งสามสำนัก แต่พอ “เนชั่นฯ” สั่งให้ออกมาช่วยกันตั้งรางวัล “คม ชัด ลึก อวอร์ดส” การเป็นผึ้งงานตัวหนึ่ง ทำให้ถอนตัวออกจากที่อื่นๆ โดยปริยาย ช่วงกลางเดือนมีนาคม หนังไทยยอดเยี่ยมหลายสาขา จะถูกประกาศออกมา ผมเพิ่งลงคะแนนไป และเก็บ “ผล” ไว้ในปาก

คณะกรรมการแต่ละสำนักในบ้านเรา ปีนี้เหมือนจะเลือกหนังที่เข้าชิง “ค่อนข้างคล้ายกัน” เลยมีคนถามว่า เวลาลงคะแนน นอกจากบทดี แสดงดี กำกับดีแล้ว ยังมีอะไรเป็น “คะแนนสำคัญ” อีก คำถามนี้ดีนะครับ และก็เรียนได้เลยว่า ที่เหลือก็คือ ชั้นเชิงของหนัง ชั้นเชิงในการเล่าเรื่อง

หรือที่เรียกว่า “ภาษาหนัง”

“ภาษาหนัง” เป็นอย่างไร?…แล้วบอกอะไร?

ภาษาหนัง เป็นได้หลายอย่างเลยครับ เสื้อผ้า ทรงผม ชื่อคน สิ่งของ เสียงต้นไม้สายลมพัด หรือแม้แต่คำพูดในปากของตัวละคร ที่อาจจะเป็น subtext คือมีนัยยะแฝงเร้นอยู่

ภาษาหนัง
Anthony Perkins ในหนังเรื่อง Psycho ภาพจาก IMDb

ยกตัวอย่างง่ายๆเลย ในหนัง Psycho พอนางเอกเข้าไปในโรงแรมของพระเอก เธอเห็นฝ่ายชายสตาฟสัตว์ปีกต่างๆ ไว้ในห้อง แถมเหตุการณ์เกิดในเมืองฟีนิกซ์ นางเอกชื่อ Marion Crane ฝ่ายชายชื่อ Norman Bates

จะเห็นว่า สัตว์ปีกที่ถูกสตาฟนั้น เป็นภาษาหนังที่บอกถึง ความน่ากลัวของพระเอกอยู่แล้ว แต่สถานที่คือ ฟีนิกซ์ ก็คือชื่อนก รวมทั้งชื่อนางเอก มาเรียน เครน ก็ชื่อนก ส่วนนามสกุลฆาตกรคือ Bates พ้องกับคำว่า bait ที่แปลว่า “เหยื่อ”

ชื่อคน สถานที่พวกนี้คือ “ภาษาหนัง” ที่บอกอะไรอยู่อ้อมๆ…

อีกตัวอย่างหนึ่งที่ใกล้ตัวคือ หนัง Green Book ซึ่งเป็นงานพวก predictable คือดูแล้วเดาได้ทั้งเรื่อง เป็นหนังสูตรที่มุ่งเน้นความประทับใจ feel good ให้คนดู หนังแบบ “สมุดปกเขียว” ฝรั่งเรียกว่า Road Movie, Odd Couple ที่คู่ตัวละครต้องขัดแย้งกัน ไม่ลงรอยกัน แต่ต้องมาเดินทางร่วมกัน ก่อนจะถอยกันคนละก้าว และลงเอยอย่างสวยงาม

ถ้ารัก Green Book ลองดู Driving Miss Daisy เมื่อ 30 ปีที่แล้ว

Green Book
Viggo Mortensen และ Mahershala Ali ในหนังเรื่อง Green Book ภาพจาก IMDb

Green Book ใช้ภาษาหนังตั้งแต่ตัวโปสเตอร์เลยครับ สองตัวละครผิวขาวกับผิวสี ถูกวางให้นิสัยใจคอต่างกัน ทัศนคติ ชนชั้น วิธีมองชีวิต ต่างกัน… จะเห็นว่าในโปสเตอร์เขียวอมฟ้า ตัวละครผิวสีนั่งหลังรถ ฝังตัวอยู่กรอบโครงรถมุม background ขณะที่คนขับผิวขาว …เขานั่งอยู่ตรงกับช่องหน้าต่างรถ โปร่ง โล่ง ว่าง ดูสบายตา

นี่คือ “ภาษาหนัง”

คนขับผิวขาวเป็นคนสบายๆ ไม่มีกฏเกณฑ์อะไร อยากทำอะไรก็ทำ จนบางทีคล้ายไม่มีกาลเทศะ character ที่สบายๆของเขา จึงอยู่ใน position ของโปสเตอร์ที่ดูว่าง โล่ง…และแน่นอนว่า คนผิวสีที่มีกฏกติกาละเอียดยิบ มีกำแพงกั้นตัวเอง จึงไปอยู่ในมุมอับหลังตัวรถ

Hugh Grant และ James Dreyfus ในหนังเรื่อง Notting Hill ภาพจาก IMDb

ภาษาหนังมีมากมายเลยครับ ในหนังรัก Notting Hill ปี 1999 เปิดฉากมา พี่ Hugh Grant ก็ใส่เสื้อสีฟ้า ปล่อยชายเสื้อเดินในตลาด ส่วน Julia Roberts ใส่ชุดดำแทบตลอดทั้งเรื่อง สีฟ้ากับสีดำ ก็บอกบุคลิกคนใส่หมดแล้ว

เป็นคนสบายๆ กับเป็นคนปกปิด, เป็น nobody แบบ วิลเลียม กับเป็น somebody หรือคนหนึ่งอยู่ Notting Hill อีกคนอยู่ Beverly Hills …หนังเล่นคู่ขนานตรงข้าม ไปตลอดทั้งเรื่อง

Julia Roberts ในหนังเรื่อง Notting Hill ภาพจาก IMDb

หนังที่มี “ภาษาหนัง” มากที่สุดในโลก!

ผมเคยไปบรรยายเรื่องหนังตามองค์กร มหาวิทยาลัย บริษัท หลายครั้ง คำถามหนึ่งที่เจอเสมอๆ ก็คือ แล้วหนังเรื่องอะไร มี “ภาษาหนัง” มากที่สุดในโลก

The Graduate ครับ

หนังเรื่องนี้สร้างในปี 1967 ผ่านมา 52 ปี ยังคงเป็นหนังชั้นครู และทันสมัยตลอดเวลา จนผมต้องซื้อเก็บไว้ถึง 5-6 แผ่น เพราะเวลาไปสอน นักศึกษาหรือคนเรียน ชอบยืมกลับไปดูที่บ้าน 555

นี่คือหนังเรื่องเดียวในโลก ที่ตลอดทุกวินาที ทุกฉากตอน มีภาษาหนังเต็มไปหมด ตอนสอนที่จุฬา คณะอักษรฯ กับที่แบงก์ชาติ คนเรียนสามารถเข้าใจชั้นเชิงของหนัง ได้ง่ายๆ จากการดูหนังเรื่องนี้ในสองชั่วโมง

ภาษาหนัง
Katharine Ross และ Dustin Hoffman ในหนังเรื่อง The Graduate ภาพจาก IMDb

ท่ามกลางภาษาหนังมากมาย สิ่งหนึ่งที่โผล่มาตลอดคือ กรอบหรือเฟรม

กรอบรถ กรอบกระจก กรอบประตู กรอบหน้าต่าง กรอบบันไดบ้าน …มันอยู่บนจอหนังตลอดเวลาเพื่อบอกถึงการที่ เบนจามิน ตัวเอกถูกจองจำ กักขัง โดยความคิดผู้ใหญ่ นอกจากกรอบแล้ว เพลงประกอบอันแสนไพเราะของ ไซมอน & การ์ฟังเกล ก็เป็นภาษาหนัง ที่ถูกใช้สอยอย่างเต็มที่ (โดยเฉพาะเพลง Mrs. Robinson)

ภาษาหนัง
Dustin Hoffman และ Anne Bancroft ในหนังเรื่อง The Graduate ภาพจาก IMDb

พ้นจากเรื่อง เพลง ฉากหลัง และอื่นๆ อีกมากมายแล้ว เสื้อผ้าที่ตัวละครใส่ ก็เป็นภาษาหนังที่ชัดเจน เช่น ชุดสูทของ เบนจามิน และชุดลายเสือดาวของ มิสซิส โรบินสัน ตัว เบนจามิน เปลี่ยนเสื้อผ้า 3 ครั้ง ล้วนมีนัยยะแฝงทั้งสิ้น

ในหลายๆ ปีมานี้ หรือจะว่าไป 27 ปีที่เขียนวิจารณ์หรือเป็นกรรมการลงคะแนนสำนักรางวัลหรือในเทศกาลหนัง

ถ้าหนังมีดีสูสีกัน กรรมการจะดูที่การใช้ภาษาหนัง หรือชั้นเชิงของหนัง เป็นคะแนนที่วัดผล
ชั้นเชิงยังเป็นเสน่ห์เสมอ แม้จะเล่าเรื่องเดียวกัน

คุณผู้หญิงลองคิดว่าจะเลือกใคร ถ้าวันเกิดคุณ แล้วมีผู้ชายสองคนมาเอาใจ

คนแรกให้เงิน บอก อยากได้อะไรไปซื้อ
อีกคนขับรถทั้งวัน เพื่อหา “ของขวัญ” มาเซอร์ไพรส์คุณ…

Related Articles

ปิดร้านคุย! ร้านโปสเตอร์หนังดีสุดของไทย

 ไม่ใช่เพียงนักข่าวสาวของ “วอชิงตัน โพสต์” จะบุกไปที่บ้านของเขา นักข่าวหนุ่มของ “เนชั่นกรุ๊ป” ก็ยังแอบไปปิดร้านคุยกับ “เขา”ผู้เป็น “เจ้าของพื้นที่” ร้านโปสเตอร์หนังที่ดีที่สุดของไทย ผู้ชายคนนี้มีชื่อว่า สันติ ตันติภัณฑรักษ์…เขาแฝงตัวและหลบเร้นชีวิตอย่างเรียบง่าย ด้วยการเปิดร้านซอกหลืบกว้าง 1 เมตร ยาว 4 เมตร ในสยามสแควร์

Minority ใน “วัฒนธรรมป๊อป”

ถ้าวัดกันอย่างหยาบๆ คำว่า Fanatic ถูกใช้ในวงการหนังแบบ “ติดปาก” กับหนัง Star Wars เป็นเรื่องแรกๆ ความหมายของมันคือ ลัทธิหรือสาวก แต่ไม่ใช่สาวกแฟนคลับในแบบ Harry Potter เหตุผลประการหนึ่งเพราะว่า ด้วยเนื้อหาของผลงาน จอร์จ ลูคัส นั้น มีความสลับซับซ้อนในตัวละครมากมาย

Tenet-Sansiri Blog 05

ถ้า Tenet ไม่ได้เงิน นี่คือ 5 เหตุผลสำคัญ!

มีเด็กนักเรียนนักศึกษากลุ่มหนึ่ง นั่งคุยกันว่า พวกเขาอยากนัดกันไปดูหนัง Tenet ของ “เสด็จพ่อโนแลน” ด้วยกิตติศักดิ์ร่ำลือ ถึงความลึก ล้ำ และเท่ ของผู้กำกับคนนี้ หลายพูดกันว่า คริสโตเฟอร์ โนแลน คือคนทำหนังที่ “แนว” สุดแล้วในตอนนี้ แต่จะว่าไปไม่น่าใช่ เพราะหนังแนวๆ นี้ที่แจ้งเกิดให้กับเขา