ดูเหมือนว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์หรือเรื่องราวช็อคโลก… คนเราจะมักจะจดจำได้ว่า ตัวเองทำอะไร หรือกำลังอยู่ที่ไหน
Pelé บอกว่าวันที่บราซิลแพ้นัดชิงฟุตบอลโลกในบ้านตัวเองปี 1950 เขาเห็นพ่อตัวเอง นั่งร้องไห้หัวใจสลายตรงบันไดบ้าน Oliver Stone ผู้กำกับบอกว่า เขาไม่เคยลืมว่าตัวเองทำอะไรอยู่ ตอนที่รู้ข่าว John F. Kennedy ถูกยิงเสียชีวิต เหมือนที่นักบาส อย่าง LeBron James บอกว่า นาทีที่ทราบข่าว Michael Jackson ตาย เขาอยู่ไม่ไกลจากสนามบาสเกตบอล
พอนึกถึง อะไรแบบนี้บ้าง ผมก็จำได้ว่า ตอนที่เพื่อนโทรมาบอกเรื่อง 9/11 ผมอยู่ในรถไฟฟ้าที่กำลังจะเทียบชาน “สุรศักดิ์”
ยอดชายนายกัมพ์ กับผ้าใบ “เปลี่ยนโลก”
หากจะมี “ใครสักคน” ที่ไม่จดจำ ไม่นึกถึงอะไรแบบนี้ ใครคนนั้นน่าจะเป็น Forrest Gump ผู้ชายไอคิวต่ำกว่า 70 อยู่ในนิยายของ Winston Groom ก่อนจะมาเป็นหนังดังคว้าออสการ์ปี 1994
ผมเขียนถึง “ยอดชายนายกัมพ์” วันนี้ เพราะฮอลลีวูดประกาศแล้วว่า จะนำกลับมาทำใหม่ ซึ่งก็น่าสงสัยว่า ใครจะมาแบก Character ที่คลาสสิคแบบนี้ได้ อย่างที่ Tom Hanks เคยเป็นกัมพ์
เวลาพูดถึง Forrest Gump สิ่งที่คนรุ่น “เห่อลูก” รุ่น Babyboomer มาจนถึงรุ่น Gen X จำได้อีกอย่างคือ รองเท้าผ้าใบรุ่น Nike Cortez สีขาวคาดโลโก้แดงแถบน้ำเงิน (สามสีครบธงชาติอเมริกันพอดี)
ในหนังเรื่องนี้มีสัญลักษณ์ซ่อนไว้ 5 อย่าง และ 1 ใน 5 คือ Nike Cortez!
คงจำได้นะครับว่า สิ่งที่ทำให้นายกัมพ์โด่งดังขึ้นมา เพราะเขาวิ่ง “เปลี่ยนโลก” วิ่งข้ามประเทศ 3 วัน 3 คืน จนเกิดเทรนด์ เกิดกระแสวิ่งตามจากคนในโลก พอมีคนไปถามว่าวิ่งทำไม กัมพ์บอก ไม่รู้เหมือนกัน “…รู้แต่ว่า ใครมาสั่งให้วิ่ง ผมก็วิ่ง”
คนที่สั่งเขามีหลายคน ตั้งแต่แฟนสาวเจนนี โค้ชฟุตบอล ไปจนถึงผู้บังคับบัญชาตอนเป็นทหาร ที่กัมพ์บอกว่า ใครสั่งให้วิ่งเขาก็วิ่ง ความหมายที่ถูกนำมาตีความ (Interpretation) คือ
คนเราอย่าไปตั้งคำถามกับชีวิตเยอะ อย่าไปมีข้อสงสัยทุกเรื่อง บางทีปล่อยชีวิตไปตามสายลม ตามยถากรรม ตามชะตากรรม เสียบ้าง …อาจจะเป็น “ผู้รอดชีวิต” ก็ได้
สัญลักษณ์อีกอย่าง ที่ถูกใช้แทนความหมายนี้ ก็คือ “ขนนก” ซึ่งโผล่ตั้งแต่ฉากแรก มันลอยมาตามลม ก่อนตกลงที่นายกัมพ์ – และลองคิดต่อมั้ยว่า ถ้านายกัมพ์คือ “ขนนก” เสียแล้ว เจนนี ผู้หญิงที่วิ่งเล่นมากับเขาจะเป็นอะไร
ถ้าไม่ใช่ “ขนนก”
ทั้ง กัมพ์ และ เจนนี มีแบ็คกราวน์ที่ต่างกันแม้เติบโตมาในย่านเดียวกัน กัมพ์ มีแม่ที่รักเขา บ้านที่ร่มรื่น ขณะที่ เจนนี มีพ่อเลี้ยงที่พร้อมระบายความใคร่ในบ้าน เจนนี จึงเหมือน “นก” อยากบินหนีนรกในบ้าน หนีพ่อ หนีความหลัง เธอบินตลอดเวลา ไม่ว่าจะบินถลาหรือบินลืมรัง
โดยมี กัมพ์ ที่รักเธอ แสดงตัวตลอดเวลาว่า เป็น “ขนนก”
Run, Forrest, Run!
กัมพ์รักเจนนี ไม่ตั้งคำถาม ไม่ว่าโดนกระทำอะไรจากเธอ ถูกทิ้งไป วิ่งกลับมา แล้วจากไปอีกหลายครั้ง
ที่เขาไม่เคย “ตีโพยตีพาย” เพราะอย่างที่เขาเป็น เขาไม่ตั้งคำถามกับอะไรทั้งสิ้น ชีวิตมีมา และผ่านไป เขายอมรับ
แต่ไม่ “ยอมจำนน”
ฉะนั้นเวลามีคนมาสั่งให้เขาวิ่ง เขาก็วิ่ง… และเท้าของเขา ก็วิ่งอยู่บนรองเท้าจดชื่อฝรั่งว่า Nike Cortez ซึ่งเป็นรองเท้าวิ่งที่ดังที่สุดของ Nike แถมยังเป็นรุ่นแรกที่ Popular เพราะนอกจากจะดังในหมู่นักกีฬาแล้ว มันยังถูกออกแบบโดย Bill Bowerman ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Nike นี่เอง
หนัง Forrest Gump ออกฉายปี 1994 แต่ Nike Cortez วางขายตั้งแต่ปี 1972
บิล บอกว่า เขาแค่อยากออกแบบรองเท้าวิ่งที่ “เบาเหมือนขนนก” เลยทดลองเอา แผ่นรองใน ที่หนา ไปสอดวางในรองเท้าที่เบา สุดท้ายก็ได้รองเท้าที่ลงตัว กลายเป็น Sneaker ที่ฮิตมาก ไม่ใช่นักกีฬาที่ใส่ แม้แต่ดาราหนังก็เอามาใส่ (หนึ่งในนั้นคือ นางฟ้าชาลี หรือซีรีย์ดัง Charlie’s Angels)
เคยมีคนถามว่า ทำไมลวดลายดีไซน์ของ Nike Cortez มันเหมือนกับ Onitsuka Tiger Cortez แบบเป๊ะ ต้องเล่าว่า ก่อนที่จะเป็น Nike ชื่อที่ถูกใช้มาก่อนคือ Blue Ribbon และแบรนด์นี้ ทำรุ่น Cortez กับ Onitsuka จากญี่ปุ่น ก่อนที่จะแตกคอ และแตกวง แยกย้ายกันไป
ฟ้องศาลกันไปมา Nike ชนะได้ใช้ชื่อ Cortez ส่วน Onitsuka ใช้ Corsair (แต่สีเหมือนกัน)
Nike ยอมรับว่า การที่รองเท้ารุ่นนี้ยังคงอยู่ในตลาดมาจนถึงปีนี้ เพราะมันถูกใส่โดยคนดังหลายแวดวง แต่มากกว่านั้น มันเคยเบาสุดในยุคสมัยของเขา “…มันเบาเหมือนวิ่งบนขนนก ลอยในสายลม”
ในหนังของกัมพ์ รองเท้ารุ่นนี้ จึงถูกจดจำคู่กัน ไม่แพ้ที่ Bruce Lee ถูกจดจำว่าใส่ ไทเกอร์สีเหลืองในหนัง Game of Death ยุค 70s ว่ากันว่า นับจากหนัง E.T. the Extra-Terrestrial ปี 1982
Forrest Gump คือหนังที่คนอเมริกันรักทั้งประเทศ อย่างเป็นเอกฉันท์
เพราะแม้ว่า เราจะรู้ดีว่า ผู้ชายแสนดีไอคิวต่ำแบบกัมพ์ จะไม่เคยมีในโลก
แต่ในที่สุด – เขาทำให้เจนนี่ ได้รู้ว่า ถึงจะเป็น “นก” ที่อยากบินหนีอะไร ไปแค่ไหน
ถ้าคนอยากมีรัก นกก็ต้องมี “รัง”
และเรียนรู้ที่จะ “สร้างรัง” …