สำนักงานใหม่ทันสมัยรักษ์โลก
บนสถานีรถไฟเก่าแก่
ของ Google

ล่าสุดบริษัท Google ได้เปิดตัวสำนักงานใหม่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา แอบได้ยินมาว่าตึกนี้มีความทันสมัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และยังมีความสำคัญในประวัติศาสตร์อีกด้วย
ตึกนี้มีความพิเศษยังไงและประวัติศาสตร์จะน่าสนใจขนาดไหน Sansiri blog จะมาเล่าให้ฟังกัน

สำนักงานใหม่ล่าสุดของ Google ตั้งอยู่ในย่านแมนฮัตตัน เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ในอดีตสถานที่แห่งนี้เคยเป็นสถานีรถไฟที่เก่าแก่ในช่วงทศวรรษ 1930 แต่เดิมสถานีนี้มีชื่อว่า St. John’s Terminal เป็นอาคารสูง 12 ชั้น ถือเป็นสถานีรถไฟที่สำคัญในการขนส่งสินค้าและยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานอีกด้วย

 ต่อมาบริษัท Google ได้ซื้ออาคารดังกล่าวมาปรับปรุงใหม่ โดยได้เปลี่ยนสถานีรถไฟเก่าแก่เป็นสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ แต่ยังคงโครงสร้างเดิมไว้ ตึกนี้เป็นฝีมือการออกแบบของ COOKFOX Architects ซึ่งออกแบบให้มีการผสมผสานระหว่างสถานีรถไฟเก่าแก่กับความทันสมัยเข้าด้วยกันอย่างลงตัวและสวยงาม เช่น การใช้กำแพงอิฐกับแผงโลหะและกระจกสูงขนาดใหญ่ รวมถึงออกแบบให้มีระเบียงดาดฟ้าที่มองเห็นความสวยงามของแม่น้ำแมนฮัตตันทำให้ตึกนี้มีความทันสมัยเป็นยังมาก 

Picture credit : Google 

การออกแบบอาคารยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและนึกถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก โดย Rick Cook หนึ่งในผู้ออกแบบโครงการนี้ กล่าวว่า การออกแบบเช่นนี้ถือเป็นการสร้างระบบนิเวศขึ้นมาใหม่ อีกทั้งการนำโครงสร้างอาคารเดิมมาปรับปรุงเป็นตึกใหม่นั้น บริษัท Google คาดว่าจะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 78,400 เมตริกตัน เทียบเท่ากับรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษบนท้องถนน 17,000 คัน ในระยะเวลาหนึ่งปี ถือเป็นการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และคาดว่าจะสามารถลดขยะจากการก่อสร้างได้ถึง 77 % รวมถึงตึกนี้ยังมีพื้นที่ปลูกต้นไม้ 1.5 เอเคอร์ หรือประมาณ 4,000 ตารางเมตร ถือเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว โดยปรับให้เข้ากับระบบนิเวศในท้องถิ่นและอาคารนี้ยังติดโซลาร์เซลล์และมีกักเก็บน้ำฝนอีกด้วย ถือเป็นการสร้างตึกที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก 

Picture credit : Google 

บริษัท Google เห็นถึงความสำคัญของการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน จึงออกแบบให้มีความยืดหยุ่นและเหมาะกับการทำงานเป็นทีม โดยออกแบบให้มีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับนั่งทำงานทุกชั้น สวน ห้องสมุด ร้านกาแฟ ห้องครัว ระเบียง ฯลฯ ซึ่งคนในองค์กรสามารถเลือกพื้นที่ทำงานได้ตามความต้องการโดยไม่จำเป็นต้องนั่งอยู่ที่โต๊ะ อีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่ คือส่วนกลางเฉพาะที่พนักงาน Google ทุกคนสามารถเข้ามาใช้งานได้ ไม่ว่าจะทำงานอยู่ในสำนักงานใดก็ตาม

การที่บริษัท Google ปรับปรุงสถานีรถไฟเป็นสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการสร้างและการออกแบบอาคารโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม การเห็นคุณค่าของสถานที่เก่าแก่ในประวัติศาสตร์และคุณภาพชีวิตที่ดีในการทำงานของพนักงาน ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีในการสร้างตึกโดยไม่จำเป็นต้องสร้างขึ้นใหม่และทำให้โลกของเราน่าอยู่ยิ่งขึ้น


Sources

https://edition.cnn.com/2024/02/23/style/google-new-york-headquarters-st-johns-terminal/index.html 

https://blog.google/inside-google/life-at-google/google-nyc-st-johns-terminal-office/ 

https://designtaxi.com/news/426306/Google-Takes-Over-Defunct-Railway-Station-As-Its-Shiny-New-York-Headquarters/ 

Picture credit

Google

Related Articles

Loy Kratong 2567

ประเพณีลอยกระทง มรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า ที่ถูกเผยแพร่สู่สายตาชาวโลก

วันเพ็ญเดือน 12 น้ำก็นองเต็มตลิ่ง ถ้าได้ยินประโยคนี้ เนื้อเพลงที่ชวนให้นึกถึงค่ำคืนแห่งวันลอยกระทง ลอยกระทงเป็นประเพณีที่สำคัญของคนไทยที่มีมาอย่างยาวนาน และคนไทยทุกคนก็พร้อมใจสืบสานประเพณีลอยกระทงมาจวบจนทุกวันนี้ เพราะลอยกระทงเป็นประเพณีที่มีความงดงามและมีเอกลักษณ์ของไทย ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้ชาวต่างชาติอยากเดินทางมาเที่ยวเทศกาลลอยกระทงในประเทศไทย เพื่อสัมผัสกับความงดงามของประเพณีลอยกระทง  วันนี้ Sansiri Blog จะพาทุกท่านไปค้นพบว่าเหตุใดวัฒนธรรมการลอยกระทงจึงก้าวขึ้นเป็น Soft Power ของประเทศ และทำไมไทยถึงได้รับการจัดอันดับเป็นประเทศที่ร่ำรวยมรดกทางวัฒนธรรมอันดับ 8 ของโลก พร้อมแนะนำวิธีการร่วมสืบสานประเพณีนี้อย่างใส่ใจสิ่งแวดล้อมกันค่ะ

Moo Deng, หมูเด้ง

ปรากฏการณ์ “หมูเด้ง” พลังสื่อในยุคดิจิตอล สู่การครองใจคนทั่วโลก

นาทีนี้คงไม่มีใคร ไม่รู้จัก “หมูเด้ง” ฮิปโปโปเตมัสแคระ ที่เป็นกระแสในโลกโซเชียลและดังไกลไปทั่วโลก เรียกได้ว่า หมูเด้งเป็นซุปตาร์เมืองไทยที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ทำให้คนทั่วโลกอยากเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย แล้วทุกคนสงสัยไหมคะว่าทำไม หมูเด้ง ถึงมีคนรักและเป็นกระแสนิยมมากมายขนาดนี้  วันนี้ Sansiri Blog จะมาเล่าถึง ปรากฏการณ์ “หมูเด้ง” ฮิปโปโปเตมัสแคระ ที่ดังไกลไปทั่วโลก ความน่ารักของสัตว์

“ไทยแลนด์แดนเฟรนด์ลี่” เมื่อรอยยิ้มสยามกลายเป็นทรัพย์สินล้ำค่า

รู้มั้ยว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ในประเทศที่น่ารักที่สุดแห่งหนึ่งของโลกน ไม่ได้พูดเล่นๆ นะ เพราะนิตยสารดังอย่าง Condé Nast Traveller เพิ่งประกาศผล The friendliest countries in the world: 2024 Readers’ Choice Awards ออกมาหมาดๆ ลองทายว่าใครได้ที่