หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่ถือเป็นไอคอนนิคของประเทศฝรั่งเศส หนึ่งในลิสต์ที่ทุกคนพูดถึงคงหนีไม่พ้นพระราชวังแวร์ซาย และทุกคนรู้ไหมว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ใช้จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 ด้วยนะ ซึ่งสนามกีฬาแห่งนี้เป็นสนามกีฬาแข่งม้าที่สวยงามไม่แพ้กับสนามกีฬา Eiffel Tower Stadium หรือ Place de la Concorde ที่สร้างขึ้นมาเพื่อ ใช้ในการแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาดเลยนะ วันนี้ Sansiri Blog จะมาเล่าย้อนถึงประวัติของพระราชวังแวร์ซาย ดีไซน์การออกแบบพระราชวังแห่งนี้และสนามกีฬาแข่งม้าที่ใช้ในการแข่งขันโอลิมปิกกันค่ะ
พระราชวังแวร์ซายตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พระราชวังแห่งนี้ได้รับการขึ้นมรดกโลกจากองค์กร UNESCO ในปี ค.ศ. 1979 เพราะเป็นพระราชวังที่สวย หรูหรา สุดอลังการและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์
cr. รูป travelandleisure
ย้อนกลับไปพระราชวังแห่งนี้มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 เคยเป็นที่พักล่าสัตว์ชั่วคราวของพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 ต่อมาพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ได้ปรับปรุงให้เป็นที่ประทับหลัก พระราชวังแห่งนี้ถือเป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรปโดยใช้เวลาสร้างพระราชวังแห่งนี้ยาวนานถึง 30 ปี ใช้เงินในการบูรณะถึง 500,000,000 ฟรังก์ และคนงานถึง 3,000 คนกันเลยทีเดียว พระราชวังแวร์ซายเป็นที่ประทับของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14-16 แต่หลังจากเกิดการปฏิวัติฝรั่งเศสพระราชวังแวร์ซายไม่ใช่สถานที่ประทับของกษัตริย์อีกต่อไป ต่อมาในศตวรรษที่ 19 พระเจ้าหลุยส์-ฟีลิปที่ 1 แห่งฝรั่งเศส ได้มีคำสั่งให้พระราชวังแวร์ซายเป็นพิพิธภัณฑ์มาจวบจนปัจจุบันนั่นเอง
เนื่องจากการบูรณะพระราชวังใช้เวลายาวนานมากจึงใช้สถาปนิกถึง 3 คน คือ Louis Le Vau เป็นสถาปนิกคนแรกที่ปรับปรุงพระราชวังแวร์ซาย คนต่อมาคือ Charles Le Brun เป็นจิตรกรและมัณฑนากรชื่อดังในสมัยนั้นผู้ออกแบบตกแต่งภายในพระราชวังแวร์ซายและคนสุดท้ายผู้มารับช่วงต่อจาก Louis Le Vau คือ Jules Hardouin-Mansart เป็นสถาปนิกที่สร้างพระราชวังให้เสร็จสมบูรณ์นั่นเอง
พระราชวังแวร์ซายจะมีทั้งพระราชวังและสวนขนาดใหญ่ มีพื้นที่ทั้งหมดมากกว่า 8,000,000 ตารางเมตร ภายในประกอบด้วย The Palace (พระราชวังหลัก) The Gardens (สวน) The Estate of Trianon (เขตตริโอนอน) The Park (สวนสาธารณะ)
สถาปัตยกรรมของพระราชวังแวร์ซาย ตัวอาคารสร้างด้วยอิฐและหินอ่อนสีขาว ได้รับอิทธิพลมาจากสไตล์บารอกและรอคโคโคแบบชาวตะวันตก ซึ่งลักษณะเด่นของสถาปัตยกรรมสไตล์บารอกมีลักษณะเด่นคือความฟุ่มเฟือยในศิลปะ เช่น ภาพวาดหลอกตา การปิดทองและปูนเปียก ฯลฯ การสร้างพระราชวังแวร์ซายแห่งนี้ใช้เทคนิคหลอกตา สิ่งที่สังเกตได้คือมีการจัดเรียงแผนผังโครงสร้างเป็นรูปเรขาคณิตและมีการบิดเบือนบางส่วนให้รู้สึกกลมกลืนและดูเข้ากันนั่นเอง
ภายในพระราชวังแวร์ซายมีห้องมากกว่า 2,300 ห้อง มีการจัดแสดงภาพวาดและผลงานประติมากรรมแกะสลัก ซึ่งเป็นงานศิลปะที่แสดงให้เห็นถึงบุคคลสำคัญและเหตุการณ์ที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของประเทศฝรั่งเศส นอกจากนี้ยังมีหน้าต่างประมาณ 2,153 บาน เตาผิง 1,315 เตา บันไดประมาณ 67 ขั้น อีกทั้งยังประดับตกแต่งด้วยแชนเดอเรียเป็นจำนวนมาก
cr.รูป britannica
ไฮไลท์ที่สำคัญของพระราชวังแห่งนี้คือห้องกระจก ถูกสร้างขึ้นเพื่อทดแทนระเบียงขนาดใหญ่บริเวณหน้าพระราชวัง ซึ่งเป็นทางเชื่อมห้องพระมหากษัตริย์และพระราชินีของฝรั่งเศส ผู้ออกแบบห้องนี้เป็นสถาปนิกชื่อดังที่มีชื่อว่า Jules Hardouin-Mansart โดยห้องแห่งนี้ใช้เวลาสร้างยาวนานถึง 6 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 1678 -1684 ห้องนี้ความพิเศษคือมีกระจกขนาดใหญ่ และใช้หน้าต่างโค้งแบบ Floor to ceiling ซึ่งหน้าต่างห้องนั้นจะมองเห็นสวนด้านนอกพระราชวัง รวมถึงมีการใช้กระจก 357 แผ่น และกระจกสะท้อนเงาด้านนอกอีกประมาณ 17 บาน ซึ่งทำให้ห้องมีลักษณะกว้างขวางมากขึ้น สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นการสะท้อนเศรษฐกิจของประเทศฝรั่งเศสในสมัยนั้นว่ามั่งคั่งและรุ่งเรืองมาก เนื่องจากสมัยก่อนกระจกมีราคาค่อนข้างแพง รวมถึงมีภาพวาดบนเพดานถึง 30 ชิ้น ที่สะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งโรจน์ในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีห้องที่สำคัญอีกหลายห้อง เช่น ห้องนอนของพระมหากษัตริย์ ห้องนอนของพระราชินี ห้องพระราชวัง ห้องโอเปร่า ห้องสงคราม ฯลฯ
cr.รูป independent
อุทยานสวนแวร์ซายเป็นสวนสไตล์ฝรั่งเศส ที่รายล้อมอยู่รอบพระราชวังแวร์ซาย เป็นส่วนที่มีความสวยงามและมีขนาดใหญ่มีพื้นที่ครอบคลุมถึง 14,820 เอเคอร์ ออกแบบโดยนักแต่งสวนชื่อดังอย่าง André Le Nôtre มีสระน้ำเล็กๆ และทะเลสาบขนาดใหญ่ รวมถึงรูปปั้นสัตว์ต่างๆและรูปปั้นเทพเจ้ากรีกโบราณ มีการใช้ระบบน้ำแบบขุดคลองจากแม่น้ำเซนให้มาถึงพระราชวังแวร์ซาย ซึ่งเป็นระบบใหม่ในขณะนั้น ในส่วนของต้นไม้พืชพันธุ์ดอกไม้ต่างๆ จะปลูกไว้ตามฤดูกาล สวนแห่งนี้จึงเป็นสวนที่สวยมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้
cr.รูป paris 2024
นอกจากนี้ยังมีการจัดแข่งกีฬาโอลิมปิก หรือปารีส 2024 บริเวณพระราชวังแวร์ซายได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นสนามกีฬาแข่งม้าชั่วคราว โดยจะมีการแข่งขี่ม้า 3 ประเภท ดังนี้คือ ประเภทศิลปะการบังคับม้า ประเภทอีเว้นติ้ง และประเภทกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง รวมถึงปัญจกีฬาสมัยใหม่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าชาวฝรั่งเศสให้ความสำคัญกับพระราชวังแวร์ซาย์ไม่แพ้กับสถานที่อื่น จึงปรับพระราชวังแวร์ซายให้เป็นสนามกีฬาเพื่อใช้ในการแข่งขันโอลิมปิก ให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็นความสวยงามของพระราชวังแวร์ซายผ่านการแข่งขันกีฬานั่นเอง
พระราชวังแวร์ซายจึงไม่ได้เป็นเพียงแค่พระราชวังที่สวยงามและมีประวัติศาสตร์อันยาวนานที่ล้ำค่าของประเทศฝรั่งเศส แต่เป็นสถานที่ที่สำคัญเป็นแลนด์มาร์คของประเทศฝรั่งเศส ที่ต้องการให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็นและได้มาเยี่ยมชมนั่นเองค่ะ
Source
https://thestandard.co/paris2024-29072024-13/
https://whc.unesco.org/en/list/83/
https://en.chateauversailles.fr/discover/history#the-reign-of-louisxiv1638-1715
https://grazietravel.com/travel