ไทยแลนด์ประเทศที่กำลังก้าวสู่สังคมคนโสด

เราต้องรักตัวเองและเติมเต็มความสุขให้ตัวเอง
ไม่ว่าเราจะเป็นคนโสดหรือมีคู่ก็ตาม 

โสด โสด อยู่ทางนี้ ไหนใครโสดบ้างยกมือขึ้น รู้หรือไม่ปัจจุบันประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมคนโสดนะ

จากข้อมูลของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้สำรวจข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องภาวะสังคมในไตรมาสที่หนึ่งปี 2567 พบว่า ปัจจุบันคนโสดใน

ประเทศไทย มีประมาณ 1 ใน 5 ของประชากรทั้งหมดในประเทศ ซึ่งมีอายุระหว่าง 15 – 49 ปี และทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ซะเป็นส่วนใหญ่ แล้วทุกคนสงสัยไหมว่าทำไมคนไทยถึงครองตัวกันเป็นโสดมากขึ้น

อาจด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปทำให้หลายคนมองว่าการแต่งงานไม่ใช่ความสำเร็จในชีวิต ความสัมพันธ์ที่มีความมั่นคงมากกว่าที่จะทำให้เรามีชีวิตคู่ที่ยืนยาวและมีความสุข คนในยุคปัจจุบันจึงรอคอยความสัมพันธ์ที่มั่นคง นี่จึงเป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้หลายคนยังครองตัวเป็นโสด รวมถึงมองว่าการครองตัวเป็นโสดทำให้มีชีวิตอิสระและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างตามใจ

วันนี้เนื่องด้วยวันที่ 11 พฤศจิกายน ของทุกปีเป็นวันคนโสด Mental Life by Chanisara จะมาเปิดเหตุผลว่าทำไมคนรุ่นใหม่ถึงเลือกที่จะโสด เทรนด์คนโสดในยุคปัจจุบัน รวมถึงมาบอกวิธีการใช้ชีวิตโสดให้มีความสุขกันค่ะ

singles-day-in-thailand

ทำไมคนรุ่นใหม่ถึงเลือกที่จะ “โสด”

ทุกคนสงสัยกันใหม่ค่ะว่าทำไมคนรุ่นใหม่ถึงหวงความโสดนัก อาจจะเป็นเพราะ ค่านิยมที่เปลี่ยนแปลงไปของคนไทย หลายคนมองว่าการแต่งงานไม่ใช่การประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์ที่มั่นคงและยืนยาวมากกว่า ซึ่งจะส่งผลต่อความสุขของเราในระยะยาว (ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น) และไปให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตในด้านอื่นๆ มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา หรือหน้าที่การงาน คนรุ่นใหม่โดยส่วนมากมักมองว่าจะต้องเรียนจบและมีการงานที่มั่นคงก่อนที่จะแต่งงาน ทำให้พวกเขาไม่ได้รีบร้อนในการที่จะมีคู่ส่งผลให้หลายคนยังคงครองตัวเป็นโสดนั่นเองค่ะ 

การเป็นโสดทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ จะทำอะไร จะตัดสินใจอะไรก็สามารถตัดสินใจได้เลย แต่ต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่ว่าการมีคู่จะไม่ดีนะคะ ฉะนั้นหากใครอยากจะมีคู่หรืออยากแต่งงานก็สามารถทำได้เช่นกัน เพราะการโสดและกันมีคู่ก็มีข้อดีกันคนละแบบค่ะ 

เมื่อความโสดกลายเป็นที่นิยมของคนในปัจจุบัน

เทรนด์คนโสดในยุคปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก ค่านิยมและพฤติกรรมของคนโสดมีความหลากหลายทำให้คนโสดในยุคปัจจุบันสามารถแบ่งได้ดังนี้ 

 คนโสดที่เน้นซื้อความสุขให้ตัวเอง หรือที่เรียกว่า SINK  ย่อมาจาก Single Income, No Kids คนโสดกลุ่มนี้จะมีรายได้ดีแต่ไม่ต้องการมีลูก 

 คนโสดที่ชอบเปย์ลูก เปย์หลาน หรือที่เรียกว่า PANK ย่อมาจาก Professional Aunt, No Kids โดยส่วนมากจะเป็นกลุ่มผู้หญิงที่อายุ 30 ปีขึ้นไป ไม่มีลูก แต่มีรายได้ดี 

คนโสดที่รอคอยความรัก หรือที่เรียกว่า Waithood ยังไม่พร้อมจะมีใครหรือฐานะยังไม่มั่นคง  

ความต้องการของผู้หญิงยุคใหม่ 

ปัจจุบันนี้ผู้หญิงยุคใหม่มีความคาดหวังและความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้หญิงยุคใหม่ในปัจจุบันโดยส่วนมากต้องการเป็นทั้งแม่บ้านแม่เรือนและทำงานนอกบ้านควบคู่กันไป รวมถึงผู้หญิงแต่ละคนย่อมมีเงื่อนไขและความต้องการที่แตกต่างกันออกไป และเมื่อไม่ได้ตามที่คาดหวังพวกเขาจึงเลือกที่จะครองตัวเป็นโสด จากการสำรวจข้อมูลของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) พบว่า ในประเทศไทยมีผู้หญิงโสดถึง 42% แต่ผู้ชายโสดมีเพียง 25.7% เท่านั้น จึงสะท้อนให้เห็นว่าความคาดหวังของผู้หญิงที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตส่งผลให้มีผู้หญิงไทยที่ครองตัวโสดมากกว่าผู้ชายไทยที่ครองตัวเป็นโสดจำนวนมากค่ะ

ทำงานหนักไปอาจไม่มีคู่

เพราะอาจจะทำงานมากเกินไปจึงไม่มีคู่ ประเทศไทยเป็นประเทศที่ทำงานหนักมากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก ส่งผลให้ไม่มีเวลาออกไปพบปะผู้คน เจอเพื่อนฝูง ทำให้ในปัจจุบันประเทศไทยกำลังก้าวสู่สังคมคนโสดค่ะ

“How to” ใช้ชีวิตแบบโสดอย่างไรให้มีความสุข

การเป็นคนโสดที่มีความสุข คือ การใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบอย่างเพลิดเพลินและสนุกสนาน ซึ่งเราจะมาบอกเคล็ดลับ 10 วิธีที่ทำให้คุณเป็นคนโสดที่มีความสุขกันค่ะ

1. ไปเดทกับตัวเอง

พาตัวเองไปทำกิจกรรมที่ชอบ ให้เวลากับตัวเอง จะทำให้เรามีความสุขและไม่เหงาใจ

2. โฟกัสที่ตัวเอง ไม่เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น

จะเห็นได้ว่าการไม่เปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น ใช้ได้กับแทบทุกเรื่องที่เราได้เขียนไป อาจกล่าวได้ว่า การที่เราไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นเป็นพื้นฐานความสุขในชีวิตอย่างหนึ่ง เพราะหากเราไม่เปรียบตัวเรากับใคร เราก็จะไม่รู้สึกว่าตัวเองด้อย ซึ่งจะทำให้เรามีความสุขมากขึ้นนั่นเอง

3. ทำเพื่อผู้อื่น

การได้ทำเพื่อผู้อื่นจะทำให้เรามีความสุขเห็นคุณค่าของชีวิตตัวเอง รวมถึงเราจะเป็นคนโสดที่คนอื่นพึ่งพาได้ด้วยค่ะ

4. ดูแลสุขภาพกาย สุขภาพใจตัวเอง

เราต้องเป็นหนุ่มโสด สาวโสดที่รักตัวเอง ดังนั้นเราต้องดูแลสุขภาพกายและใจให้แข็งแรงค่ะ

5. อยู่กับครอบครัวและเพื่อน

ใช้เวลากับเพื่อนและครอบครัวให้มีความสุข ให้รู้ไว้ว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกแต่เรายังมีพวกเขาอยู่

6. ลดการใช้มือถือ

ลดการใช้มือถือและลองไปหากิจกรรมใหม่ๆ ทำ เพราะจะทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นและมีความสุขมากขึ้น รวมถึงทำให้เราเป็นสาวโสดที่ไม่เหงาอีกด้วยค่ะ 

7. ให้เวลาตัวเองได้ผ่อนคลาย

พาตัวเองไปผ่อนคลายความเครียดบ้าง อาจจะด้วยการไปเที่ยว ซึ่งจะทำให้ตัวเองมีความสุขและรู้สึกผ่อนคลาย มีความสบายใจ เพราะเราต้องเป็นคนโสดที่มีความสุขค่ะ

8. ขอบคุณตัวเอง

ขอบคุณสิ่งดีดีที่ทำให้กับตัวเอง จะทำให้เรารู้สึกเป็นสาวโสดที่พึ่งพาตัวเองได้ค่ะ 

9. ยิ้มให้ตัวเองทุกวัน

ลองยิ้มกับตัวเอง หน้ากระจกทุกวันจะทำให้มีความสุขมากขึ้น

10วางแผนสำหรับอนาคต

วางแผนสำหรับการใช้ชีวิตของตัวเองในอนาคต ไม่ว่าเราจะมีคู่หรือโสด ในอนาคตเราก็จะมีชีวิตที่ดีค่ะ 

การที่ประเทศไทยก้าวสู่สังคมคนโสด สะท้อนให้เห็นว่าค่านิยมของคนไทยในยุคปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก เพราะคนโดยส่วนมากอาจจะต้องการความสัมพันธ์ที่มั่นคงทำให้ไม่อยากแต่งงาน ไม่อยากมีลูก แต่ไม่ว่าเราจะโสดหรือมีคู่เราก็ต้องใช้ชีวิตอย่างมีความสุขนะคะ สุขสันต์วันคนโสดค่ะ 


Source 

https://www.bangkokbiznews.com/health/social/1128701

https://www.healthline.com/health/how-to-be-happy-alone#alone-vs-lonely 

https://vt.tiktok.com/ZSjktRCDA/ 

https://www.kriengsak.com/Single-Society 

 

Related Articles

half-year-resolution

Half-year resolution : บทเรียนชีวิตที่ได้จากครึ่งปีแรก

เราอาจไม่ได้ประสบความสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกที่ลงมือทำ แต่ถ้าเราพยายามทำต่อไปด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้  เราจะเดินถึงเป้าหมายได้ในที่สุด เผลอแป๊ปเดียวพวกเราทุกคนเดินทางผ่านมาครึ่งปีแล้ว ตอนต้นปีมีใครตั้งเป้าหมายอะไรไว้กันบ้างคะ? บางคนอาจเดินถึงเป้าหมาย บางคนกำลังเดินทางไปสู่เป้าหมายที่วาดไว้ แต่เราเชื่อว่า บางคนรู้สึกว่าเป้าหมายที่ตั้งไปในช่วงต้นปีอาจไม่ได้สำเร็จอย่างที่เราคาดหวังไว้หรือเป้าหมายที่เราตั้งไว้อาจเลือนรางเต็มที แต่ไม่เป็นไรเลย เพราะชีวิตคนเราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ  ทุกคนรู้ไหมคะการตั้งเป้าหมายใหม่อาจไม่ได้หมายความว่าต้องเริ่มจากศูนย์เสมอไป แต่เราอาจจะนำสิ่งที่เราทำและอาจจะไม่ประสบความสำเร็จ มาทบทวน พัฒนาและปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้เราเดินไปสู่เป้าหมายที่เราวางไว้ เพราะเราเชื่อว่าความสำเร็จอาจจะไม่ได้เกิดจากครั้งแรกที่ลงมือทำ แต่ถ้าหากเราพยายามต่อไปเรื่อยๆ ด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ เราจะเดินถึงเป้าหมายในที่สุดค่ะ คนเราทุกคนกว่าที่จะประสบความสำเร็จกับสิ่งที่เราตั้งเป้าหมายไว้

 ความจริง VS ความเชื่อเกี่ยวกับน้ำผลไม้ปั่นสมูทตี้ที่คนชอบกินสมูทตี้ต้องรู้ 

ไม่ต้องเลิก กินน้ำปั่น อย่างใครเขา งดเท่าที่เรานั้น จะงดไหว น้ำปั่นเราไม่ต้องหวานเท่าของใคร อย่ากินจนทำลายสุขภาพเท่านั้นพอ  “น้ำผลไม้ปั่น” หรือ ที่ใครหลายคนเรียกว่า “สมูทตี้” เป็นเครื่องดื่มที่หลายคนชอบกินมาตั้งแต่เด็กๆ ด้วยภาพลักษณ์ที่มีสีสันสดใสและเป็นผลไม้ที่ได้มาจากธรรมชาติ ทำให้ถูกมองว่าปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย มีคนมากมายชอบกินน้ำปั่นสมูทตี้ เพราะคิดว่า อร่อยและดีต่อสุขภาพด้วย ทำให้เป็นเครื่องดื่มยอดฮิตของกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน คนรักสุขภาพ

gentleness

เพราะความอ่อนโยนไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่เป็นสิ่งที่ช่วยปลอบประโลมหัวใจของมนุษย์

ความอ่อนโยน คือ สิ่งที่ช่วยโอบกอดและปลอบประโลมหัวใจ ให้กลับมามีจิตใจที่เข้มแข็งอีกครั้ง หากพูดถึง “ความอ่อนโยน” เราเชื่อว่าหลายๆ คนมีความอ่อนโยนซ่อนอยู่ในตัวเองและความอ่อนโยน คือ คุณสมบัติพิเศษที่แสดงถึงความเมตตา ความใจดีและความอ่อนไหวที่อยู่ในตัวของมนุษย์ หลายคนมักซ่อนความอ่อนโยนไว้ในก้นบึ้งที่ลึกที่สุดของหัวใจ  เพราะคิดว่าการแสดงความอ่อนโยนจะทำให้เราเป็นคนที่อ่อนแอ แต่แท้จริงแล้วความอ่อนโยน เป็นสิ่งที่ช่วยโอบกอดและปลอบประโลมหัวใจ ไม่ว่าจะเจอเรื่องเศร้า เรื่องทุกข์ใจขนาดไหน เมื่อเราได้สัมผัสความอ่อนโยนของใครบางคน ความทุกข์ความเศร้าในใจจะเบาบางลง และช่วยให้เรากลับมามีจิตใจที่เข้มแข็งอีกครั้งค่ะ