New Year’s Resolution 2026
ตั้งเป้าหมายแบบไม่กดดันตัวเอง

เป้าหมายที่ตั้งไว้จะไม่มีวันล้มเหลว
ตราบใดที่เราไม่ล้มเลิกความตั้งใจ

ใกล้จะเข้าปี 2026 กันแล้วนะคะทุกคน หลายคนเวลาที่ต้องเริ่มต้นปีใหม่เรามักตั้งเป้าหมายใหม่กันอยู่เสมอ หากถามว่าเวลาใกล้ปีใหม่หรือเริ่มต้นปีใหม่หลายคนทำไมต้องวางแผน New Year’s Resolution อาจจะเป็นเพราะ นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงตัวเอง

หลายคนวางแผนเริ่มต้นปีใหม่ แต่สุดท้ายกลับทิ้งความตั้งใจไว้กลางทาง เพราะสิ่งที่ทำอาจจะไม่ได้สำเร็จตามความตั้งใจ รู้สึกเหนื่อย ท้อ และไม่อยากทำสิ่งนั้นแล้ว หรือบางคน อาจจะกดดันตัวเองมากเกินไปซึ่งอาจจะทำให้ล้มเลิกเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้

แต่การตั้งเป้าหมายเล็กๆ หรือ สิ่งที่เราทำได้จริง นั้นจะทำให้เราไม่กดดันตัวเอง จะช่วยให้เราไม่ทิ้งเป้าหมายของเราไว้ระหว่างทาง เพราะการตั้งเป้าหมายเล็กๆ หรือการตั้งเป้าหมายที่สามารถมองเห็นและลงมือทำได้จริง จะทำให้เรามีกำลังใจในการทำตามเป้าหมายต่อไป เรายังเชื่ออีกว่า ทุกๆ เป้าหมายที่เราตั้งใจไว้และลงมือทำจะไม่มีวันล้มเหลวตราบใดที่ทุกคนไม่ล้มเลิกความตั้งใจ

วันนี้ Mental Life by Chanisara จะชวนทุกคนมาเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการไม่ทิ้งเป้าหมายไว้กลางทางกันค่ะ 

New Year’s Resolution 2026

เริ่มต้นใหม่ยังไงไม่ให้ทิ้งความตั้งใจไว้กลางทาง

เราว่าการเริ่มต้นใหม่ อย่างมีประสิทธิภาพและได้ผลในระยะยาว คือ การที่เราไม่กดดันตัวเองมากเกินไป ไม่หักโหม ไม่ทุ่มเทจนเกินกำลังของเราที่จะรับไหว เช่น เราอยากจะเลิกกินชาเขียว เราหักดิบตั้งแต่วันแรกโดยไม่กินเลยไป 7 วัน พอวันที่ 8 เราอาจจะกลับมากินเหมือนเดิมก็ได้เพราะทนไม่ไหว หรือเราอยากลดน้ำหนัก เราเริ่มวิ่งตั้งแต่วันแรก 10 โล แล้ววิ่งอย่างนั้นทุกวันเป็นเวลา 2 อาทิตย์ เราอาจหยุดวิ่ง เพราะ เราอาจจะรู้สึกเหนื่อย ท้อ หมดแพชชั่นในการลงมือทำ และทิ้งเป้าหมายไว้กลางทาง  

แต่ถ้าหากเราเริ่มต้นตั้งเป้าหมาย ด้วยเป้าหมายเล็กๆ เช่น กินชาเขียววันเว้นวัน หรือวิ่งวันแรก 2 กิโล และค่อยเพิ่มไปเรื่อยๆ พอเราทำได้เราจะรู้สึกมีกำลังใจในการลงมือทำ มีแพชชั่น และไม่อยากล้มเลิกกลางทางนั่นเองค่ะ 

เพราะความกดดัน อาจทำให้เราหมดกำลังใจในการลงมือทำ

หากเรากดดันตัวเอง จะบั่นทอนให้เราหมดกำลังใจในการลงมือทำ ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ อาจจะทำให้สภาพจิตใจของเราย่ำแย่และไม่อยากทำตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้อีกต่อไป เราจึงควรตั้งเป้าหมายเล็กๆ หรือเป้าหมายที่เราทำได้จริง เพื่อไม่ให้กดดันตัวเองมากจนเกินไปและหากเราทำเช่นนี้เราจะมีความสุขกับเป้าหมายที่เราตั้งไว้มากขึ้นค่ะ 

เป้าหมายที่ตั้งไว้จะไม่มีวันล้มเหลว ตราบใดที่เราไม่ล้มเลิกความตั้งใจ 

เพราะเราเชื่อเสมอว่าทุกๆ เป้าหมายที่เราลงมือทำ ต่อให้มันไม่ได้ดั่งใจในวันนี้ ตราบใดที่เรายังไม่ล้มเลิกที่จะทำสิ่งนั้น เป้าหมายที่เราตั้งใจจะไม่มีวันล้มเหลว เพราะไม่ว่าเราจะเจอกับอะไร เราจะพยายามและฝ่าฟันจนถึงเป้าหมายที่เราตั้งใจไว้แน่นอนค่ะ 

เป้าหมายที่เราตั้งใจไว้ เราอาจจะทำไม่ได้หรือล้มเหลวในครั้งแรกที่ลงมือทำก็ไม่เป็นไร หากเราไม่ยอมแพ้และเริ่มต้นใหม่ทุกครั้งที่ล้ม เราเชื่อว่าเป้าหมายที่เราตั้งใจไว้จะสำเร็จแน่นอน 

เพราะการตั้งเป้าหมายเพื่อเริ่มต้นใหม่ อาจไม่จำเป็นต้องมีเพียงครั้งเดียว หากเราล้ม ในวันนี้ พรุ่งนี้เราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เลย เพราะเราเชื่อว่าทุกคนสามารถเริ่มต้นใหม่ ได้ทุกวัน และความล้มเหลวคือจุดเริ่มต้นของการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงสิ่งที่เราจะทำให้ดีขึ้น และหากเราไม่ล้มเลิกความตั้งใจ เราจะสามารถเดินถึงเป้าหมายได้แน่นอนค่ะ 

วิธีพิชิต New Year’s Resolution แบบไม่กดดันตัวเอง 

ตั้งเป้าหมายใหญ่ และตั้งเป้าหมายย่อยพร้อมกัน จะทำให้เราไม่กดดันตัวเอง และค่อยพิชิตเป้าหมายย่อยไปเรื่อยๆ จนไปสู่เป้าหมายใหญ่ เช่น อยากเริ่มกินผัก จากที่ไม่กินเลย เราอาจจะเปลี่ยนเป็นกิน 1 มื้อในทุกวัน พอกินได้แล้วอาจจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เป้าหมายต้องทำได้จริงในทุกวัน แม้วันนั้นเราไม่อยากทำก็ตาม เช่น เราอยากอ่านหนังสือทุกวัน วันละ 1 บท แต่วันนี้ เราอาจจะเหนื่อยแล้วไม่อยากทำ เราอาจจะเปลี่ยนมาเป็น อ่าน 1 เรื่องย่อยแทน นั่นคือเป้าหมายที่เราทำได้ทุกวัน ถึงแม้ว่าเราจะไม่อยากทำก็ตาม

ใจดีกับตัวเอง เช่น วันนี้เรายังไม่อยากทำ ไม่ได้ทำ แต่พรุ่งนี้เราทำใหม่ได้ โดยไม่ตำหนิตัวเอง เพราะบางครั้งการตำหนิตัวเองอาจจะทำให้บั่นทอนกำลังใจ

ให้รู้ไว้ว่าการเริ่มต้นใหม่ไม่จำเป็นต้องเป็นปีใหม่ แต่เราเริ่มต้นใหม่ได้ทุกวัน และเมื่อเราเริ่มต้นทำใหม่เราจะใกล้เป้าหมายมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเองค่ะ

เพราะเราเชื่อว่าการตั้งเป้าหมายใหม่จะสำเร็จได้ โดยการไม่กดดันตัวเองค่ะ


Source

https://youtu.be/NIxPPUVAmQc?si=IRVGU6MGwnXFNu6v

https://journals.plos.org/plosone/article?id=10.1371/journal.pone.0234097 

https://greatergood.berkeley.edu/article/item/make_self_compassion_one_of_your_new_years_resolutions 

Related Articles

Self Investment

เริ่มต้นปีใหม่ด้วยการลงทุนกับตัวเอง จะเพิ่มโอกาสชีวิตและเปลี่ยนชีวิตไปตลอด

การลงทุนกับตัวเอง เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสที่จะเข้ามาในชีวิต สวัสดีปีใหม่นะคะทุกคนปีนี้เรามาเริ่มต้นปีด้วยกันลงทุนกับตัวเองกันดีกว่าค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการหาความรู้ใส่ตัว พัฒนาตัวเอง การดูแลสุขภาพ ดูแลร่างกาย การกินอาหารที่ดี การดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ การดูแลความรู้สึกจิตใจของตัวเอง การวางแผนการเงินให้ตัวเองเพื่อใช้จ่ายในอนาคต ฯลฯ เพราะการลงทุนเหล่านี้จะติดตัวเราไปเสมอไม่ว่าเราจะไปอยู่ที่ไหน และไม่มีใครขโมยไปจากเราได้ค่ะ เราเชื่อว่าการลงทุนกับตัวเองเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด เพราะมันอาจจะไม่ได้เห็นผลในวันนี้แต่เราจะเห็นผลในระยะยาวค่ะ เรายังเชื่ออีกว่าการลงทุนกับตัวเองคือ “การรักตัวเอง” อย่างหนึ่ง

Whole Food VS Processed Food

Whole Food VS Processed Food แค่เปลี่ยนการทาน ชีวิตก็เปลี่ยนได้

ทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่าการทานอาหารสำคัญกับมนุษย์เรามาตั้งแต่ไหนแต่ไร เพราะสุขภาพของเราจะเป็นเช่นไรขึ้นอยู่กับการทานอาหารของเรา ขอแค่เราเปลี่ยนการทาน ชีวิตของเราก็เปลี่ยนได้นะคะ  ทุกวันนี้เราคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เราแทบทุกคนทานอาหารแปรรูปกัน ถึงแม้ว่าจะรู้ว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพ หลายคนคงสงสัยว่าระหว่าง Whole Food กับ Processed Food คืออะไรและแตกต่างกันยังไงใช่ไหมล่ะคะ  Whole Food คือ อาหารที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการแปรรูป หรือแปรรูปน้อยที่สุด ทำให้สารอาหารและวิตามินยังอยู่ครบถ้วน

People Change

People Change : เพราะเราเปลี่ยนใครไม่ได้ นอกจากเปลี่ยนแปลงตัวเอง

เราอาจไม่สามารถเปลี่ยนคนอื่นได้ แต่เราสามารถเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้น และมีความสุขในชีวิตได้ ทุกคนคิดว่าเราสามารถเปลี่ยนแปลงใครบางคนได้ไหมคะ? หลายคนมักอยากเปลี่ยนแปลงคนที่เรารักเพื่อให้เขาเป็นคนที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว คนรัก เพื่อน ฯลฯ เพียงเพราะเราปรารถนาดีต่อเขา อยากให้เขาพัฒนา อยากให้เขาเป็นคนที่ดีขึ้นกว่านี้ หลายครั้งที่เราอาจจะอยากให้ใครบางคนเปลี่ยนแปลงตัวเองไปตามที่เราคาดหวัง เป็นในแบบที่ใจเราคิด หรือคิดว่าเขาคนนั้นอาจจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ในสักวัน  แต่ในความเป็นจริงการเปลี่ยนแปลงตัวเองเกิดขึ้นจาก ความคิดภายในจิตใจของบุคคลที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง พวกเขาถึงสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ เพราะหากเขาไม่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง เขาอาจจะเปลี่ยนได้ในช่วงเวลาหนึ่ง