sansiritreeday-ปลูกหนึ่งให้ถึงแสน-sansiri-sansiritreestory-ต้นไม้-ไม้ยืนต้น-ต้นไม้ใหญ่-tree_2

ต้นไม้ใหญ่
พลังมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ

ต้นไม้อันเปรียบเสมือนปอดของโลก ช่วยดูดซับสารพิษ กลืนรังสีที่เป็นอันตราย พร้อมปล่อยออกซิเจนออกมาให้เราได้หายใจ

sansiritreeday-ปลูกหนึ่งให้ถึงแสน-sansiri-sansiritreestory-ต้นไม้-ไม้ยืนต้น-ต้นไม้ใหญ่-tree_2

และ ‘ต้นไม้ใหญ่ยืนต้น’ ก็มีประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิต ทุกชนิด และสิ่งแวดล้อมเป็นทั้งที่อยู่อาศัย ป้องกันภัยธรรมชาติ ซึ่งการที่เราได้เห็นต้นไม้สีเขียวชอุ่มเพียงไม่กี่นาที ก็ทำให้เราจิตใจ สงบ ผ่อนคลาย พลังของธรรมชาติจากต้นไม้ใหญ่ ให้ประโยชน์กับเราที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้มากกว่าที่คิด…

พลังปล่อยก๊าซออกซิเจน

ในหนึ่งวัน มนุษย์ต้องการออกซิเจนสำหรับใช้ชีวิตมากถึงประมาณ 550 ลิตร* และแน่นอนว่าธรรมชาติที่ช่วยผลิตก๊าซอันมีค่าชนิดได้ ก็คือ ‘ต้นไม้’ นั่นเอง

โดยต้นไม้หนึ่งต้นนั้นสามารถผลิตออกซิเจนที่พอเพียงสำหรับ 4 คน ได้ในระยะเวลาตลอด 1 ปี  และจากการคำนวณหากคนทั้งโลกช่วยกันปลูกต้นไม้ให้ได้ 20 ล้านต้น ทั้งโลกและผู้คนจะได้รับออกซิเจนเพิ่มขึ้นมากถึง 260 ล้านตัน และยังสามารถกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 10 ล้านตัน

พลังสยบปรากฏการณ์ “เกาะความร้อน”

sansiritreeday-ปลูกหนึ่งให้ถึงแสน-sansiri-sansiritreestory-ต้นไม้-ไม้ยืนต้น-ต้นไม้ใหญ่-tree_2

เมื่อพื้นดินที่เคยถูกปกคลุมด้วยธรรมชาติจากต้นไม้ต้องหายไป ถนนทางเท้าและสิ่งก่อสร้างอื่นๆ จะดูดความร้อนจากดวงอาทิตย์ไว้มากกว่าที่ธรรมชาติเคยทำ และได้ส่งผลให้อุณหภูมิของพื้นผิวและอากาศบริเวณหนึ่งเพิ่มสูงขึ้น การสูญเสียพื้นที่สีเขียวได้ไปทำลายกระบวนการระบายความร้อนออกไปจากบริเวณทั้งส่วนที่ทำให้เกิดร่มเงา ซึ่งเป็นปรากฏการณ์เกาะความร้อน (Urban Heat Island) ที่มักจะเกิดขึ้นในเมืองใหญ่ทั่วโลก

ปรากฏการณ์นี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกฤดูกาลและทุกเวลา ดังนั้นหากเราช่วยกันทำให้เกิด ‘ต้นไม้ใหญ่’ กลับมาได้ บริเวณนั้นจะทำให้เกิดการระเหยของน้ำจากใบไม้และนำความเย็นกลับมาได้ เช่นเดียวกับการทำหลังคาสีเขียวก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยในการเพิ่มต้นไม้ ลดผลกระทบจากคลื่นความร้อนและยังลดอุณหภูมิบนดาดฟ้าได้มากถึง 3-4 องศาเซลเซียส

ซึ่งเคสนี้ Mr.Ashish Sharma นักศึกษา Postdoctoral ปริญญาเอก ณ University of Notre Dame ได้เผยในงานวิจัยของเขา* ไว้ว่า ถ้ามีตึกในเมืองจำนวน 25% ของทั้งหมดถูกติดตั้งด้วยหลังคาเขียว จะสามารถลดอุณหภูมิในเมืองลงได้ถึง 2 องศาเซลเซียส และถ้าทั้งเมืองนั้นถูกติดตั้งด้วยหลังคาเขียวทั้งหมด จะสามารถช่วยลดอุณหภูมิได้ถึง 8.3 องศาเซลเซียส

พลังช่วยลดอุณหภูมิ เพิ่มความร่มรื่น

sansiritreeday-ปลูกหนึ่งให้ถึงแสน-sansiri-sansiritreestory-ต้นไม้-ไม้ยืนต้น-ต้นไม้ใหญ่-tree_2

บ้านเรามีสภาพภูมิอากาศร้อนชื้น ซึ่งมีพื้นที่สีเขียวจากต้นไม้ขนาดใหญ่เป็นจำนวนมากนั้น จะช่วยลดความรุนแรงของอุณหภูมิอากาศในเวลากลางวันได้เป็นอย่างดี

เพราะต้นไม้จะใช้พลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์ในการดำรงชีวิต โดยดูดน้ำจากใต้ดินขึ้นมาแปลงสภาพให้เป็นไอน้ำผ่านออกทางปากใบ หรือที่เรียกว่า ‘กระบวนการสังเคราะห์แสง’ ที่จะต้องใช้พลังงานความร้อนประมาณ 2,200 บีทียู ให้น้ำ 1 ลิตร เปลี่ยนเป็นไอ ดังนั้นในช่วงเวลากลางวัน ถ้าหากต้นไม้ขนาดใหญ่ต้นหนึ่งสามารถดูดน้ำมาแปลงเป็นไอได้ประมาณ 65 ลิตรต่อวัน ต้นไม้หนึ่งต้นจะมีความสามารถในการลดความร้อนเทียบเท่ากับเครื่องปรับอากาศขนาด 1ตัน* เลยทีเดียว

ดังนั้นการปลูกต้นไม้ในเมืองจึงเป็นสิ่งสำคัญ ความร่มรื่นจะช่วยลดความร้อนและลดแสงสะท้อน นอกจากนี้ก็ยังช่วยรักษาสภาพพื้นดิน ลดการกระจายความร้อนและช่วยปกคลุมพื้นดินให้เกิดความร่มเย็น ในบริเวณที่มีอากาศแห้งมากก็ช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศได้ แถมยังประหยัดการใช้ไฟฟ้าให้กับเราด้วย

พลังฟอกอากาศและกรองฝุ่น

sansiritreeday-ปลูกหนึ่งให้ถึงแสน-sansiri-sansiritreestory-ต้นไม้-ไม้ยืนต้น-ต้นไม้ใหญ่-tree_2

อากาศเย็นแม้จะไม่ร้อน แต่ก็มาพร้อมฝุ่นร้าย PM 2.5 ในเมือง ถนนที่ไม่มีต้นไม้จะพบฝุ่นละอองมากถึง 10,000 – 20,000 อณูต่ออากาศ 1 ลิตร และเมื่อเทียบกับถนนสภาพเดียวกันในบริเวณใกล้เคียงแต่ร่มรื่นด้วยต้นไม้ จะนับละอองได้เพียง 3000 อณู ต่อ 1 ลิตรเท่านั้น*

การปลูกไม้ยืนต้นจะช่วยดูดซับผงฝุ่นและมลพิษจากอากาศในระหว่างการคายน้ำ พร้อมกันทั้งปล่อยออกซิเจนออกมาจึงช่วยทำให้มลพิษในอากาศเบาบางลง โดย ผิวใบ กิ่ง ก้าน ที่เป็นตัวจับและการคายน้ำยังจะช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ ทำให้ฝุ่นจิ๋วละอองเล็กๆ เกิดความชื้นและมีน้ำหนักจนตกสู่พื้นเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่ายังมีพื้นที่สีเขียวที่มีพุ่มไม้หรือใบไม้หนาแน่น จะสามารถกรองละอองอากาศได้ และทำให้ปริมาณฝุ่นละอองลดลงได้มากเช่นกัน

พลังป้องกันน้ำท่วม

sansiritreeday-ปลูกหนึ่งให้ถึงแสน-sansiri-sansiritreestory-ต้นไม้-ไม้ยืนต้น-ต้นไม้ใหญ่-tree_2

แม้ฝนจะเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่ความสำคัญสิ่งที่ตามมาจากฝนตกหนัก ‘น้ำท่วม’ เป็นสิ่งที่ป้องกันไม่ให้เกิดและลดความรุนแรงจากภัยธรรมชาตินั้นได้

ต้นไม้ใหญ่ป้องกันน้ำท่วมได้อย่างไร? เพราะต้นไม้มีกลไกจากแต่ละส่วนช่วยเก็บน้ำฝนที่ตกลงมาให้ไปอยู่ในรูปของน้ำใต้ดินโดยมีต้นไม้และดินเป็นตัวช่วยสำคัญ อย่างเช่น ใบไม้จะลดแรงกระแทกจากเม็ดฝนที่จะตกกระทบลงสู่พื้นดิน ทำให้ดินไม่อัดกันแน่นน้ำซึมผ่านดินได้ดี, กิ่งก้านลำต้นจะช่วยชะลอน้ำที่ไหลตามแนวดิ่ง, รากไม้จะช่วยชะลอน้ำที่ไหลมาจากที่อื่นให้มีเวลาซึมลงดินได้นานขึ้น และเมื่อฝนตกลงมา น้ำฝนจะไหลลงตามลำต้นลงสู่พื้นดิน ช่วยในการชะลอการไหลบ่าของน้ำ

มาร่วมกันช่วยเพิ่มต้นไม้ใหญ่ให้กับบ้านของเรา ตลอดเดือนสิงหาคมนี้ แสนสิริและพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ชวนทุกคนมาร่วมปลูกต้นไม้ไปด้วยกันกับกิจกรรม Sansiri Tree Day ปลูก ’หนึ่ง’ ให้ถึง ’แสน’

รับฟรี! กล้าไม้ 1 ต้น ที่ร้านต้นไม้ปองโย Sansiri Backyard
เฉพาะลูกบ้านแสนสิริ รับส่วนลดต้นไม้ สูงสุด 10%*
วันนี้ – 31 สิงหาคม 2565
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก https://siri.ly/FCHgap7

CONTRIBUTOR

Related Articles

จากเศษวัสดุก่อสร้าง สู่กระถางต้นไม้รักษ์โลก

การจัดการของเสียในพื้นที่ก่อสร้างของแสนสิริ เราทำมากกว่าการคัดแยก เพราะเรานำไปจัดการอย่างถูกวิธี เราให้ความสำคัญกับการนำของเสียที่ยังสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำหรือทำประโยชน์ต่อได้ อย่างเศษคอนกรีตมวลเบา (Q-CON) แสนสิริร่วมมือกับ SCG นำเศษคอนกรีตมวลเบาเหลือทิ้งจากการก่อสร้าง ส่งต่อไปยังชุมชนบางกระสั้น อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้รับการอบรมเรื่องการแปรรูปผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะ ใส่ความคิดสร้างสรรค์ ผลิตเป็นสินค้าดีไซน์สวยงามอย่างกระถางต้นไม้ นอกจากจะช่วยลดขยะในพื้นที่ก่อสร้างของแสนสิริเองแล้ว ยังสามารถนำกระถางต้นไม้แปรรูปนี้ กลับมาใช้เป็นวัสดุตกแต่งภายในโครงการได้อีกด้วย รวมถึงช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้เสริมให้กับชุมชนไปอีกทาง

world environment day

3 เทรนด์ตามกระแส ที่เราทำร้ายสิ่งแวดล้อมแบบไม่รู้ตัว

แค่จะตามเทรนด์ เพราะของมันต้องมี แต่เรากลับทำร้ายโลกไม่รู้ตัว? รู้ไหมว่าเทรนด์ตามกระแสที่เกิดขึ้นบางอย่างเป็นเรื่องน่าสนใจ และหลายคนก็มักจะทำตาม และอยากลองกัน แต่ในทางกลับกันบางเทรนด์ก็สามารถส่งผลกระทบต่อตัวเรา ต่อสังคม หรือกับสิ่งแวดล้อมได้เช่นเดียวกัน จนเรากลายเป็นผู้ร้ายต่อโลกแบบไม่รู้ตัว ในวันที่ 5 มิถุนายนของทุกปีนั้นเป็น วันสิ่งแวดล้อมโลก หรือ WorldEnvironmentDay แสนสิริเลยขอยก 3 เทรนด์ตามกระแสมาแรงไม่มีตก ที่คนไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาฮิตกัน

จากแสงตะวัน สู่แผงโซลาร์ แสงอาทิตย์เพื่อโลก

อะไรคือคำตอบเพื่อก้าวเข้าไปสู่อนาคตของการรักษ์โลก? แสงจากดวงตะวันคำตอบของพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อโลก เป้าหมายของแสนสิริไม่ใช่เพียงลดการใช้พลังงานไฟฟ้าและค่าไฟเพียงอย่างเดียว แต่ยังมุ่งส่งเสริมไลฟ์สไตล์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั้งภายในบ้านและนอกบ้าน ดังนั้นนอกจากการติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์แล้ว แสนสิริยังมีนวัตกรรมบ้านเย็น หรือจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และลงทุนกับนวัตกรรมอื่นๆ ที่เป็นพลังงานทางเลือกให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น แม้ว่าสิ่งนี้อาจดูเป็นเพียงพลังเล็กๆ แต่เราก็หวังให้คอมมูนิตี้ของแสนสิริ เป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่ช่วยขับเคลื่อนและส่งต่อไลฟ์สไตล์ของผู้คนในการช่วยรักษา และดูแลโลกใบนี้ อีกทั้งพร้อมส่งต่อเจตนาเหล่านี้สู่รุ่นต่อไป เพื่อให้โลกอยู่กับมนุษย์เราได้อย่างยืนยาว นำแผงพลังงานแสงอาทิตย์ มาใช้ในพื้นที่ ด้วยคุณค่าอันมหาศาลของแสงตะวันนี้เอง ทำให้แสนสิริที่หมายมั่นและมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้สร้างจุดเปลี่ยนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ตระหนักถึงการนำพลังงานจากแสงอาทิตย์ซึ่งเป็นพลังงานทดแทนที่สะอาดและปราศจากการก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม