โดย นันทขว้าง สิรสุนทร
ทวิตเตอร์ของ The Independent ช่วงต้นเดือนกันยายน ลงข่าวเล็กๆ ที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งว่า ผู้กำกับผิวสีที่เคยถูกทุนนิยมโรงงานฮอลลีวู้ดซื้อตัวอย่าง สไปค์ ลี กำลังจะมีหนังเรื่องใหม่คือ The BlacKkKlansman ซึ่งประกาศว่าคอนเซปต์เป็น Blaxploitation ยังไม่ต้องดู แค่ได้ยินชื่อ ก็น่ามาเล่าสู่กันฟังเสียแล้ว
โดยพล็อท คงเป็นเรื่องเกี่ยวกับตำรวจและคนนอก ซึ่งวนเวียนอยู่ในสังคมผิวสี อันเป็นทางถนัดของคนทำหนังคนนี้ (อย่างน้อย ก็ตั้งแต่งานแจ้งเกิด Do The Right Thing ปี 1989 ของเขา) แต่โดยทาง การเป็น Blaxploitation ที่มาจากการผสมสองคำด้วยกัน นั่นคือ Black กับ Exploitation นั้น น่านำมาคิดต่อ
การเป็น Blaxploitation นั้น แปลง่ายๆ เลยว่าเป็นหนังที่เน้นเข้มข้นจริงจัง เกี่ยวกับเรื่องราวของ “ผิวสี” ซึ่งจะว่าไปก็เกาะเกี่ยว ร่วมกระแสกับสังคมอเมริกันตอนนี้ เพราะ OscarSoWhite ก็ยังฝุ่นตลบ หรือบรรดา Black ของจริงใน NFL ก็ยังท้าตีท้าต่อยกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่เลิก
สรุปคือการเป็น Blaxploitation จึงไม่ได้มีเขตแดนอยู่แค่หนัง โดย sub-text ยังหมายถึง “อะไรๆ” ที่เกี่ยวกับเทรนด์ผิวสี คนดำ แน่นอนว่า “อะไรๆ” นี้ ถ้าชายตามองข้าม ท่อปล่องควันโรงงานฮอลลีวู้ดไป เราก็จะเห็นอะไรมากมาย ที่ทั้งกระเพื่อมและม้วนตัวทางเศรษฐกิจ จนกลายเป็น Black Power อย่างน่าตามติด
เอาเรื่องกลางเก่ากลางใหม่อย่างบอลโลกรัสเซียที่ผ่านมาก่อน หลังจากดูนัดชิงชนะเลิศในสนามเสร็จ วันรุ่งขึ้นผมรีบไปสนามบิน เช็คอินแล้วไล่ซื้อหนังสือพิมพ์แท็บลอย์ ดูว่าสื่อจะเล่นมุมไหนเกี่ยวกับแชมป์โลกฝรั่งเศส หลายฉบับลงรูป พอล ป๊อกบาเอย เอ็มปัปเป้เอย ยืนกางแขนขาประกาศศักดาแชมป์ฟุตบอลโลก แต่แทนที่จะลงข่าวว่า นี่คือโทรฟี่ครั้งที่สองของฝรั่งเศส สื่อฝรั่งกลับเล่นคำว่านี่คือชัยชนะของ Black Blanc Beur (ผิวดำ ผิวขาวและอาหรับ หรือทางผสม)
แตกต่างตรงกันข้ามกับตอนที่ เซเรน่า วิลเลียมส์ ทำลายสถิติต่างๆ ซึ่งสื่อบอกว่าเป็นชัยชนะของเฟมินิสต์สายดำ (ถ้าสายขาว ต้อง เอ็มม่า วัตสัน) แต่ดำแบบ เซเรน่านั้นมีสองชั้น ชั้นแรกคือชัยชนะของเพศหญิง ทว่า ชั้นที่สองมันส์กว่าลีโอ คือ ชุดแข่งดำๆ ที่ใส่ลงคอร์ทของเธอ คงนึกภาพออกนะว่าเธอใส่ชุดรัดรูปสีดำของแบรนด์ Nike ซึ่งเธอกัดตัวเองว่า เธอเหมือน Queen of Wakada ราชินีในหนังคนดำอย่าง Black Panther ซึ่งสร้างปรากฏการณ์รายได้เมื่อต้นปี ที่สำคัญเป็น Black Power ของจริง เพราะเดลี่ เทเลกราฟ ลงว่าในรายได้มากมายที่หนังได้ มาจากการออกจากบ้านไปดูของ “คนผิวขาว”ถึง 45%
Black Panther ไม่ได้ขย่มโลกบันเทิงและจบตรงนั้น นิตยสาร Time ช่วงบอลโลก เขียนโดย ริชาร์ด คอร์ลิส บอกว่าหนังเรื่องนี้ได้ทำให้เกิดการตลาด “ผิวดำกระเพื่อม” ทั้งซีรีย์ เพลง หนัง และแวดวงกีฬา พูดให้ง่ายก็คือ ผิวสีหรือ Black กลายเป็นเครื่องมือทางการตลาด และความชอบธรรมในการขายของ ผ่านเทรนด์ของคนดำ
ยกตัวอย่างที่หลายคนจำได้ คือ การที่คนผิวสีไปเข้าแถวต่อคิวซื้อเสื้อทีมชาติไนจีเรียที่เป็นลวดลาย hip hop (อันที่จริง มันคือ Naija Culture สะท้อนรากเหง้าของสังคมประเทศเขา) เคสนี้ที่เสื้อไนจีเรียหมด 3,200,000 ตัว ถ้าจะวิเคราะห์ลึกลงไป ไม่ได้เกี่ยวกับฟุตบอล ทว่า “พัวพัน” กับผิวสี มากกว่ามาก ! (โปรดสังเกตว่า ทำไมในงานเปิดตัวแวดวง sport ต่างๆ เสื้อบอล เสื้อกีฬา ถึงมักถ่ายคู่กับกางเกงขายาวแฟชั่น และมักมีนายแบบผิวสี ผิวขาว ปะปนคละเคล้า ยืนถ่ายร่วมกัน) นิตยสาร Time สรุปได้อย่างหนึ่งว่า ตอนนี้ตัวละครผิวดำกำลังขายดี (ยิ่งกว่าปลาทูน่าที่ตลาดปลา สึกิจิ ในโตเกียว) มือปืน คนนอก แม่บ้าน หรือซุปเปอร์ฮีโร่ ก็ต้องผิวดำ โดยเบื้องหลังการขายเหล่านี้ ผลิตโดย “ผิวขาว”
มีอีกหลายเหตุการณ์เรื่องราวในปีนี้ที่บอกเล่ากับเราว่า Black Power กำลังเป็นเสียงที่ดัง ผ่านช่องทางของหลายวัฒนธรรมป๊อป (ดังที่เขียนมาข้างต้น) แถมก่อนเขียนถ้อยคำแรกของบทความนี้ ผู้จัด French Open เพิ่งออกข้อห้าม ไม่ให้ชุดแข่ง Superhero สีดำของ เซเรน่า วิลเลียมส์ นำมาใส่ลงสนามเทนนิสอีก ไนกี้ถึงขนาดทวิตตอบโต้เบาๆ ว่า คุณอาจจะพรากชุด Superhero ของเธอได้ แต่ใครๆ ทำลายพลัง Superpower ของเธอไปไม่ได้! ถ้าเทนนิสถูกปักป้ายเป็นกีฬาของผิวขาว แน่นอนว่าแชมป์เยอะสุดอย่าง เซเรน่า ก็เป็นผิวดำ เชื่อเถอะว่า ยังจะมีการปะทะ อยู่เป็นระยะๆ ระหว่างขาวๆดำๆ อีกหลาย “พื้นที่” แน่นอน
หมายเหตุ : คำว่า Exploitation Film คือหนังตระกูลหนึ่ง (genre) ที่รุ่งเรืองมากในยุค 70s มักเกี่ยวกับเซ็กส์ ยาเสพติด คนนอก และความรุนแรง รูปรสกลิ่นเสียง จะคล้ายๆหนังเกรดบี เน้นความตื่นเต้น อารมณ์ร่วม มากกว่าจะเน้นคุณค่าทางสุนทรียะ สามารถกดใน youtube ดูหนังแนวๆ นี้ได้เช่น Grindhouse หรือ Death Proof งานของ เควนติน ตารันติโน่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว