ช่วงเดือนสุดท้ายของปี ถ้อยคำหนึ่งที่ถูกค้นใน Google มากที่สุดในระยะหลังๆ ก็คือ “Staycation” ที่เรารู้กันดีว่า มาจากการผสมคำ ระหว่าง “stay” กับ “vacation” แปลแบบง่ายๆ ก็คือ ท่องเที่ยวพักผ่อนแบบ “ใกล้บ้าน”
ไม่ต้อง vacation แล้วไปเที่ยวยุโรป อเมริกา หรือญี่ปุ่น ทว่า ลดทอนความยาก ยาวนานของทริปด้วยการเที่ยวง่ายๆ เชิงคุณค่า ด้วยสถานที่เที่ยวใกล้บ้าน ที่เราๆ ท่านๆ อาจจะ “มองข้ามไป” หรือเคยไม่สนใจ แต่เทรนด์ Staycation ไม่ได้อยู่ๆ ก็ล่องลอยมานะครับ ต้นทางมันเกิดจาก crisis ในอเมริกา ลุกลามมายุโรป พอคนมีปัญหาเรื่องการเงิน การลดไซส์ความฝัน ก็มาอยู่ที่การท่องเที่ยวใกล้บ้าน
(ใจ)ความหลักของ Staycation
โดยใจความแรก นี่คือ ความหมายของ Staycation แต่ “ความหลัก” ที่ “ปักป้าย” ไว้ และไม่ค่อยมีใครมองเห็นคือ “การสำรวจตรวจตรา” ในเชิงคุณค่า หาสิ่งที่แฝงอยู่ ณ สถานที่หรือในย่านนั้นๆ เช่นเราไม่เคยเอะใจว่า แท้จริงแล้ว ท่าเตียนเอย เจริญกรุงเอย ทรงวาดเอย เจริญนครเอย และอีกมากมายหลายแห่ง ก็มีของดีและคุณค่าในแบบที่เราเคย “นิยมยุโรป” นั่นเอง
Staycation เป็นเทรนด์ที่ไปไกลกว่า “แค่ไปเที่ยว” แต่มีแง่มุมของ “การสำรวจตรวจตรา” เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย มากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับจิตใจผู้สำรวจ
ที่น่าสนใจก็คือ เมื่อไม่นานมานี้ หนัง วรรณกรรม งานศิลปะแนวทางหนึ่ง ก็มีการนำเสนอ ให้ภาพของ Staycation ผ่านพล็อต งานเขียน ตัวละคร ที่มีลักษณะ “สำรวจตัวเอง” ทบทวนกลับไปยังวันคืนเก่าๆ หรืออดีตที่ “ติดค้าง” หรือเคยผิดพลาด…
เช่น Blue Jasmine ที่นางเอกสาว จัสมิน (เคท แบลนเชตต์) ตกจากชีวิตชั้นสูง บาดเจ็บ และมีโอกาสได้ Staycation คือสำรวจจิตใจตัวเอง ชีวิตตัวเอง ในเชิงคุณค่า ซีนง่ายๆ เลยคือ เธอชอบให้คนมองเธอแล้วชื่นชมภาพลักษณ์ใช้ของแพง ชีวิตไฮโซ พอบาดเจ็บ เธอก็ได้มีเวลามองตัวเอง มองคนอื่น มากขึ้น หรือเอาแต่พูด ก็ได้เป็นผู้ฟังบ้าง
หรือในหนังสือ The Double ของโปรตุเกสที่ได้ โนเบิล ไพรซ์ รวมไปถึงเด็กอย่าง ไรลีย์ ในหนัง Inside Out ก็เป็นตัวแทน พาคนดูไปสำรวจตรวจตรา “ชีวิตที่นำพา” ผ่านอารมณ์สีต่างๆ เทรนด์ Staycation จึงมีสองระดับความหมาย… อย่างแรก ท่องเที่ยวย่านต่างๆ แบบใกล้บ้าน ในประเทศเรา แบบเห็นคุณค่า
และอย่างที่สอง เป็นการ Staycation ทางจิตใจ ผ่านการดูหนัง อ่านหนังสือ ดื่มด่ำภาพวาด แต่ถ้าใครจะท่องเที่ยวในความหมาย Travel เฉยๆ ไม่ต้องก้าวไปถึง Journey อันนั้น ก็แล้วแต่…
เจ้าพระยา สถานีใหญ่ของ Staycation
ตลอดปี 2018 นี้ เทรนด์ Staycation ที่เฟื่องฟูมาก ป๊อปปูลาร์มาก นิยมมาก ก็คือ การเกาะอยู่ริมแม่น้ำ คูคลอง สายธาร ซึ่งเกิดกลุ่มคนทัพใหญ่ ที่รวมตัวกันไปนอนค้างในเชียงใหม่ เขาใหญ่ น่าน นครสวรรค์ ไหลลงมาถึงท่าเตียน และ 2-side riverside อย่างเจริญนคร-เจริญกรุง อย่างไม่เคยมีมาก่อน
ซึ่งต้องยอมรับว่า เอเชียทีค ได้เป็นหมุดไมล์สำคัญที่สุด ที่ทำให้เกิดวัฒนธรรมเที่ยวแบบนี้ ผมลองใช้เวลาหลายเดือนกับเทรนด์ Staycation ความหมายใหม่ นั่นคือ ในประเทศไทยได้เกิด กลุ่มเทรนด์เที่ยวริมน้ำ แบบนอนค้าง กินดื่ม เดินเสาะหา ดื่มด่ำความหมายกับเจ้าพระยา
จนปี 2019 ที่จะมาถึงนี้ เจ้าพระยาหรือ “Chaophraya Destination” กลายเป็นสถานีใหญ่สุดของนักท่องเที่ยว ทั้งต่างชาติและ Staycation ที่เจาะจงเลยว่า “ขอริมน้ำ”
น้ำหรือ “ริมน้ำ” นั้น มีบุคลิกเชื่อมโยงกับอดีต ย่านเก่า หรือในทางจิตวิทยา เป็นโลเคชันที่มีคุณค่าทางจิตใจของคนเรา (นักวรรณกรรมอย่าง นอร์แมน แม็คลีน ก็เคยเขียนมุมนี้ในหนังสือปี 1976 ชื่อ A River Runs Through It ที่ Robert Redford เคยมาทำเป็นหนังแนว Coming of Age ปี 1992 แล้วใส่สายน้ำเข้าไปในหนังจนดูสวย แต่เป็น “น้ำ” คนละความหมายกับสายฝน สายน้ำ ใน มหาลัยเหมืองแร่ หรือ Shadow ของ จางอี้โหมว)
แล้วทำไม เทรนด์ Staycation ต้องหันมานิยมริมน้ำ?
ก่อนหน้านี้ ได้มีเทรนด์ริมน้ำ ผุดพรายขึ้นมาทั้ง “คลื่น” และ “ฟอง” หลายระลอกแล้ว แถมทำได้ดีด้วย ไม่ว่าจะเป็น Urby Hostel, Amdaeng Bangkok Riverside Hotel, Lhong 1919, Asiatique the Riverfront, Prince Hostel, Narai Hotel, Arun Haveli และอีกมากมายหลายแห่ง
แต่ในระยะหลัง การสร้างมิติร่วมกันสองริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ได้สร้างคลื่นระลอกใหม่ที่ใหญ่ขึ้น ด้วยการเล่นความรู้สึกเกี่ยวกับ “น้ำ” ได้อย่างชุ่มชื่นหัวใจกว่า ผมชอบที่คุณชฎาทิพ จูตระกูล พูดว่า “อยู่กับน้ำ ต้องนอบน้อม” นั่นหมายความว่า
น้ำ มิใช่แค่ “แม่น้ำลำคลอง” หากแต่ น้ำ คือ สายเลือด ชีวิต สติปัญญา และเจ้าที่เจ้าทางที่ดูแลโอบอุ้มผู้คน หรือในทางหนึ่ง “น้ำ” คือ “เทพเจ้า”
เหมือนที่คนศิลปวรรณกรรมอย่าง อาจินต์ ปัญพรรค์, จิระ มะลิกุล, นอร์แมน แม็คลีน, โรเบิร์ด เรดฟอร์ด และจาง อี้ โหมว มักให้ภาพของ “น้ำ” เป็น “ตัวละครสำคัญ” ในงานของพวกเขา แม้แต่ครีเอทีฟไนกี้อย่าง Pete Hoppins ยังใส่ “น้ำ” ลงไปในเสื้อบอลในทีมกาลาตาซาราย (Galatasaray)…
เช่นนี้เอง น้ำในแม่น้ำ สายน้ำ ธารน้ำ ตลอดริมฝั่งหลายแห่ง จึงมี “story” และ “เสียง” ที่น่าฟัง
และในห้วงยามแห่ง Season celebrations นี้เอง
“เจ้าพระยา เดสติเนชัน” – ก็จะเริ่มเล่า “เรื่องราวนั้น”
ใครที่อยากตามรอยคุณนันทขว้าง สิรสุนทร พร้อมดื่มด่ำกับค่ำคืนพิเศษริมสองฝั่งน้ำเจ้าพระยา จอง Amdaeng Bangkok Riverside Hotel ได้ง่ายๆ ด้วย One Night App ที่คัดสรรโรงแรมสุดพิเศษมาให้คุณวางแผนและจองห้องพักได้แม้ในวินาทีสุดท้าย
https://www.facebook.com/54651330333/posts/10156002552885334/
คลิกเพื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน One Night สำหรับ IOS และสำหรับ Android