เมื่อข้อมูลไม่หลอกเรา
อะไรที่ท่านนายกฯ น่าจะลงมือทำ

เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาได้เจอพันธมิตรแพล็ตฟอร์มเทคโนโลยีอย่าง Google และ Twitter มาอธิบายให้เข้าใจถึงข้อมูลมหาศาลที่เค้ามีให้เรานำมาใช้ประโยชน์วิเคราะห์ได้มากมายหลายแง่มุม มีหลายเรื่องที่ผมเองก็ไม่เคยทราบมาก่อน ก็นับว่าเป็นการเปิดหูเปิดตาในระดับหนึ่ง จบจากการพูดคุยก็เลยรู้สึกว่าคนเราขอแค่ให้มีความ “อยาก” จะเข้าใจข้อมูลที่มันไม่หลอก และก็ต้องยอมรับว่าข้อมูลที่แสดงอาจไม่ตรงกับ “สิ่งที่เราอยากได้ยิน” แค่นี้เราก็สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีมากมายรอบตัวได้

ยังคุยกันเล่นๆ กับเค้าเลยว่าอยากให้ทีมเค้าได้มีเวทีในการแชร์เรื่องของข้อมูลที่เค้ามีให้กับท่านนายกฯ และทีมรัฐมนตรีของท่านเป็นประจำจังเลยครับ ข้อมูลพวกนี้ไม่หลอกใคร น่าจะมีแง่มุมให้ท่านและทีมวิเคราะห์ได้ตีความจากพฤติกรรมของประชากรได้เยอะแยะ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูลที่อาจบ่งบอกอุปสงค์ในแต่ละเรื่องแบบกลายๆ หรือข้อมูลการพูดคุยของคนบนแพล็ตฟอร์มเหล่านี้ ผมว่านะบรรดานโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังไม่เข็นกันออกมา เห็นข้อมูลพวกนี้อาจทำให้ท่านขยับเร็วขึ้นครับ

มีสัญญาณข้อมูลของ Google อันหนึ่งที่น่าสนใจคือ เห็นได้ชัดว่าผู้บริโภคยังค้นหาคำว่า “ที่อยู่อาศัย” “บ้าน” “คอนโดฯ” แบรนด์ต่างๆ (รวมทั้งของเราด้วย) มากขึ้นต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง นั่นแปลว่า อุปสงค์ ยังมีต่อเนื่องเหลือแค่มาตรการต่างๆ ที่ภาคประชาชนรอสัญญาณที่ชัดเจนจากรัฐบาลว่าจะสนับสนุนยังไง ถ้ายังจำกันได้ท่านนายกฯ ได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ประกอบการอสังหาฯ ตั้งแต่ 4 กันยายนที่ผ่านมา นี่ก็เดือนกว่าแล้ว เรายังไม่ค่อยเห็นอะไรเป็นรูปธรรมเลย

ก็อยากจะย้อนกลับมาถึงเรื่องที่ผมพูดถึงมาโดยตลอด ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลมีการออกมาตรการแจกเงินชิม ช็อป ใช้ มาอยู่เรื่อยๆ เหมือนฝนตกไม่ทั่วฟ้าเป็นแรงจูงใจระยะสั้นให้คนควักกระเป๋าซื้อในวันนี้แทน เพื่อเก็บโกยผลประโยชน์ที่รัฐแจกฟรีให้ในช่วงสั้นๆ ตัวคูณทวีของรายจ่ายหรือ Multiplier Effect ต่ำ ไม่สามารถคาดหวังได้ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตตามเม็ดเงินที่รัฐเอาภาษีประชาชนมาจ่ายไป ตรงกันข้าม กลับเป็นเงินที่มีต้นทุนค่าเสียโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนเสียด้วยซ้ำ จริงๆ แล้วเรื่องตัวคูณทวีของรายจ่ายผมพูดมากับรัฐบาลหลายชุดแล้วตั้งแต่ 10 ปีก่อน ลองไปหาดูได้ครับ มายุคนี้ผมก็ยังอยากพูดถึงอีกครั้ง ลองมองหาภาคธุรกิจที่มีตัวคูณทวีนี้สูงๆ นะครับ เช่น ท่องเที่ยว หรืออสังหาฯ แล้วออกนโยบายมาช่วยกระตุ้นเป็นรูปธรรมดีกว่าครับ ดีกว่าแจกเงินแน่นอน

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมจะต้องเจาะจงเป็นอสังหาฯ ที่จะช่วยกระตุ้นตลาด และการบริโภคได้ด้วยตัวคูณทวีของรายจ่าย นั่นก็เป็นเพราะธุรกิจอสังหาฯ มีความเกี่ยวเนื่องกับสินค้าอื่นๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ของตกแต่งบ้าน วัสดุก่อสร้างต่างๆ ซึ่งถ้าคิดง่ายๆ ก็คือธุรกิจอสังหาฯ ต้องใช้สินค้าเหล่านี้ และสินค้าเหล่านี้ก็มาจากการจ้างงานเพื่อผลิต ดังนั้นไม่ใช่เฉพาะซื้อบ้านหรือจ้างคนสร้างบ้าน แต่ส่งผลถึงการซื้อสินค้าชนิดอื่นและการจ้างคนผลิตสินค้าเหล่านี้ ซึ่งท้ายสุดแล้ว แรงงานเหล่านี้ก็นำรายได้มาใช้ในการอุปโภคและบริโภค กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศอีกต่อหนึ่ง

ผมต้องขออนุญาตอธิบายเรื่องตัวคูณทวีของรายจ่ายอย่างง่ายๆ ตรงนี้ เพราะผมเชื่อว่ายังมีประชาชนอีกมากที่อ่านข่าวแล้วไม่เข้าใจประเด็นที่ลึกลงไปของแนวนโยบายดังกล่าว สำหรับนักวิชาการและนักวิเคราะห์ที่ติดตามนโยบายรัฐบาล หลักการทางเศรษฐศาสตร์ดังกล่าวอาจไม่ใช่เรื่องยากที่จะตีความ แต่ผมคิดว่าควรที่ต้องมีการอธิบายหรือขยายความให้ชัดเจนให้ประชาชนทั่วไปทราบครับ

แล้วมาตรการอะไรบ้างที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดตัวคูณทวีของรายจ่าย สถานการณ์ตอนนี้ถามคำเถอะครับ ใครจะกล้าเสี่ยงเก็งกำไรกันบ้าง อยากเสนอให้ยกเลิก LTV ลดหย่อนภาษีบ้านหลังแรก ขยายเวลา leasehold ออกเป็น 99 ปี มาตรการแบบนี้เข็นออกมาครับ แล้วติดตามผลตัวเลขอย่างชัดเจน ผมเชื่อว่าน่าจะมีผลกระทบทางบวก แถมตัวคูณทวีของรายจ่ายที่จะเกิดขึ้นมีเยอะแน่นอน หรือถ้าเป็นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็ทำได้ เพราะเราจัดการโควิดได้ดี น่าจะพิจารณา Golden Visa สำหรับต่างชาติที่มาลงทุน ซื้อที่อยู่อาศัย ซื้อตราสารเงิน ฯลฯ อย่างโปรตุเกสเค้าก็มีแล้ว น่าจะเป็นอีกมาตรการหนึ่งที่เรานำมาใช้ คนพวกนี้ก็มีผลต่อตัวคูณทวีของรายจ่ายในประเทศเราเยอะนะครับ

เห็นไหมครับว่าข้อมูลมีไว้วิเคราะห์เพื่อออกแอคชั่น ถ้าไม่ลงมือทำก็ไม่มีประโยชน์ ผมเชื่อว่าท่านนายกฯ และทีมงานมีข้อมูลที่วิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงเพื่อออกมาตรการได้มากมาย รีบลงมือทำตอนนี้ก็มีทั้งได้และเสีย แต่ถ้าไม่ทำเลยรับประกันว่าจะมีแต่เสียกับเสียครับ

CEO OF SANSIRI PLC

Related Articles

ฟรีวีซ่า เปิดรับนักท่องเที่ยวจีน

ฟรีวีซ่า เปิดรับนักท่องเที่ยวจีน

ในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่เป็นหุ้นส่วนของประเทศและมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจได้ผ่านภาวะวิกฤติมาหลายระลอก หลังจากที่ได้เห็นแผนการกระตุ้นธุรกิจท่องเที่ยว ดีใจที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้ความสำคัญกับจังหวัดรองอย่าง สตูล จันทบุรี ระนอง ตราด จากเดิมมองแค่ ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ กรุงเทพฯ ผมมองว่าคุณภาพของนักท่องเที่ยวสำคัญ เน้นเรื่องการมาอยู่ยาว หรือลองสเตย์ ที่มาเมดิคัลเวลเนส ทำให้ระยะเวลาในการอยู่เร็วขึ้น ทำให้ใช้จ่ายเงินเยอะขึ้น จากปีนี้ที่ต้องเป้าไว้ว่าจะได้นักท่องเที่ยว 10

มิติด้านสิ่งแวดล้อม ของ ESG กับภาคธุรกิจไทย

มิติด้านสิ่งแวดล้อม ของ ESG กับภาคธุรกิจไทย

แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน หรือ ESG ซึ่งย่อมาจาก environment (สิ่งแวดล้อม) social (สังคม) และ governance (บรรษัทภิบาล) ปัจจุบันได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางทั้งจากบริษัทจดทะเบียน นักลงทุน และผู้บริโภค จึงเป็นเรื่องที่ใครก็หลีกเลี่ยงไม่สนใจไม่ได้ในตอนนี้ จากทั้ง 3 มิติดังกล่าว นักวิเคราะห์บางคนบอกว่าถ้ามองในมุมที่จับต้องได้แล้ว มิติด้านสิ่งแวดล้อม

tax, ภาษี

To tax or not to tax ?

ที่ประเทศอังกฤษตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงหาเสียงของตัวแทนจากพรรคอนุรักษนิยม 2 คน ที่จะมาเสียบเก้าอี้นายกฯ แทน นายบอริส จอห์นสัน ซึ่งประกาศลาออกไปเมื่อไม่นานมานี้ หนึ่งนโยบายหลักที่ทั้งนาง Liz Truss และ นาย Rishi Sunak ยกขึ้นมาถกเถียงกันเพื่อชิงคะแนนนิยมก็คือ เรื่องการปรับโครงสร้างภาษีนั่นเอง คนหนึ่งเสนอมาตรการลดภาษีทั้งนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาให้ต่ำลง ในขณะที่อีกคนหนึ่งบอกว่าการปรับลดภาษีอาจไม่ใช่ทางออกสำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะยาว ประเด็นภาษีนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจในบริบทของประเทศไทยด้วยเช่นกัน