“ครอบครัวอาจเป็นใครก็ได้ที่ทำให้เราอบอุ่นหัวใจ”
เข้าสู่เดือนเมษากันแล้วนะคะทุกคน เดือนนี้ทุกคนต้องแฮปปี้กันแน่นอน เพราะมีวันหยุดยาวเยอะมาก เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ เดือนที่คนส่วนมากจะเดินทางกลับบ้านไปใช้เวลาอันแสนวิเศษอยู่กับครอบครัวและทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเล่นน้ำสงกรานต์ สังสรรค์ เดินทางท่องเที่ยวหรือกลับไปหาพ่อแม่ปู่ย่าตายายคนที่คุณรักกันค่ะ วันนี้ Mental Life by Chanisara อยากชวนทุกคนย้อนคิดถึงความหมายของ “ครอบครัว”ที่ทำให้คุณอบอุ่นหัวใจกันค่ะ
“ครอบครัว” สำหรับ “คุณ” คืออะไร
หากพูดถึงครอบครัวทุกคนนึกถึงใครกันบ้างคะ บางคนอาจจะนึกถึงคนที่มีความผูกพันทางสายเลือดหรือคู่รักที่แต่งงานใช้ชีวิตร่วมกันอย่างคู่สามีภริยาหรือบางคนอาจจะนึกถึงพ่อแม่ปู่ย่าตายายคนที่มีสายเลือดเกี่ยวดองกัน แต่ในความคิดของเรา
“ครอบครัว” คือใครก็ได้ที่ทำให้เราอบอุ่นหัวใจ รู้สึกดีมีความสุข รู้สึกปลอดภัยเมื่อได้อยู่ใกล้ ช่วยเหลือซึ่งกันและกันและที่สำคัญเราจะเป็นตัวของตัวเองได้อย่างสบายใจ รวมถึงคอยโอบกอดเราไว้ในวันที่เราต้องการกำลังใจหรือเป็นพื้นที่ปลอดภัยในวันที่เราต้องการมากที่สุดนั่นเองค่ะ
“ครอบครัว” ที่เราสามารถออกแบบได้
หลายคนคงสงสัยว่าเราจะออกแบบครอบครัวได้อย่างไรใช่ไหมคะ คำตอบคือ พราะครอบครัวที่เราออกแบบได้ คือ คนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างในวันที่เรา เจอเหตุการณ์ที่ไม่ดี คอยเป็นกำลังใจ และพร้อมที่จะช่วยแก้ปัญหา ทำให้เราผ่านเหตุการณ์เหล่านั้นมาได้ หรือ เป็นคนที่เราสามารถบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตที่เกิดขึ้น โดยไม่ถูกตัดสิน เพราะฉะนั้น “ครอบครัว” อาจเป็นคนที่เกี่ยวข้องทางสายเลือดหรือไม่ใช่ก็ได้ อาจเป็นเพื่อน คนรัก หรือเป็นใครก็ได้ที่คุณอยู่ด้วยแล้วสบายใจ เป็นพลังชาร์จ้แบตในวันที่คุณอ่อนล้าและอาจเป็นคนที่ฮิวใจให้คุณ กลับมาสดใสดังเดิม
“ครอบครัว” ความอบอุ่นที่ไม่จำกัดเพศ
ในสังคมปัจจุบันมีการเปิดกว้างเรื่องเพศมากยิ่งขึ้น ทำให้เรามีโอกาสได้เห็นครอบครัวที่มีความหลากหลายทางเพศเพิ่มมากขึ้น คำว่า “ครอบครัว” ในยุคปัจจุบันจึงหมายรวมไปถึงกลุ่มของบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTQ+ อีกด้วย ภายในหนึ่งครอบครัวอาจจะประกอบไปด้วย “พ่อ พ่อ ลูก” “แม่ แม่ ลูก” หรือพ่อแม่ที่มีลูกเป็น LGBTQ+ ซึ่งจะเห็นได้ว่าบางครอบครัวอาจจะไม่ได้อยู่ในกรอบที่ผู้คนโดยส่วนมากของสังคมเป็นผู้กำหนด แต่ในยุคปัจจุบันคนในสังคม “เปิดใจ” ยอมรับมากขึ้นและตอนนี้ กฎหมายสมรสเท่าเทียมก็ได้ผ่านการลงมติจากในวาระ 2 วาระ 3 เรียบร้อยแล้ว หากกฎหมายสมรสเท่าเทียมได้ถูกบังคับใช้ พวกเขาสามารถจดทะเบียนสมรสกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เราคงจะเห็นครอบครัว LGBT+ เพิ่มขึ้นอีกมากแน่นอนค่ะ
ครอบครัวแบบไหนที่เป็น Safe Zone
เป็นเบาะรองนั่งในวันที่ยากลำบาก
ในวันที่แสนยากลำบาก ผิดหวัง หรืออะไรที่ไม่เป็นไปอย่างที่ตั้งใจ ในวันที่ล้มจะมีครอบครัวที่คอย support กันเสมอ
มีความรักให้กันอยู่เสมอ
แสดงความรักให้กันอยู่เสมอ ความรักที่มาจากหัวใจ สื่อให้เห็นได้จากการกระทำ โดยที่ไม่ต้องร้องขอ จะทำให้เราอุ่นใจว่ามีคนคอยอยู่เคียงข้างเสมอ
ไม่คาดหวังให้ใครเป็นอย่างที่เราต้องการ
ไม่คาดหวังให้ใคร “ทำอะไร” หรือ “เป็นอะไร”ในแบบที่เราต้องการ เช่น ต้องการให้ลูกเรียนหมอ เพราะการทำเช่นนั้นจะทำให้เขาอึดอัดและตีตัวออกห่างจากครอบครัว
คอยสนับสนุนในทุกเรื่องที่ทำ
การที่มีคนคอยสนับสนุน คอยเป็นแรงผลักดันให้เราเดินไปสู่เป้าหมายที่เราต้องการ จะทำให้คนคนนั้น มีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น เพราะเราเชื่อว่าการที่ใครคนหนึ่งจะประสบความสำเร็จได้ มักมีใครบางคนอยู่เบื้องหลังคอยเป็นลมใต้ปีกให้เสมอ
ให้กำลังใจเสมอ
ไม่ว่าเราจะเจอเรื่องอะไรก็ตามในชีวิต คนในครอบครัวจะเป็นกำลังใจที่สำคัญให้เราผ่านทุกเรื่องไปได้เสมอ
คอยรับฟังซึ่งกันและกัน
คอยรับฟังและปรับจูนเข้าหากันอยู่เสมอ เพราะไม่มีใครทำอะไรถูกใจใครไปทั้งหมด คนในครอบครัวต้องพูดคุยกันอยู่เสมอ
“ครอบครัว” อาจเป็นใครก็ได้ที่ทำให้เราอบอุ่นหัวใจ เป็นพื้นที่ปลอดภัยในเวลาที่แชร์เรื่องราว คอยโอบกอดและโอบอุ้มในวันที่เราต้องการกำลังใจจากใครสักคนมากที่สุด
Source
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=856788072479389&id=100044446118963&set=a.2380661278779523
https://thematter.co/social/siriwan-pornin-and-lgbtq-family-interview/146436
รูปภาพ : freepik