Floyd Mayweather

Floyd Mayweather Jr. นักกีฬากับความฟุ่มเฟือย รวยขึ้นอีกเกือบ 200 ล้านเหรียญ

ขอกล่าวถึง Floyd Mayweather Jr. อีกซักนิดเป็นการเก็บตกหลังจากที่จบการชกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาครับ จากที่ติดตามอ่านข่าวคงพอทราบกันว่าจบการชกนัดนี้แล้ว Mayweather Jr. รวยขึ้นอีกเกือบ 200 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่เราทุกคนก็ตาลุกโพลง และเชื่อว่าท่านผู้อ่านบางท่านคงทราบดีว่าเค้าก็เป็นนักกีฬาที่ทำรายได้สูงสุดอันดับที่ 1 ของปีที่ผ่านมาด้วยรายได้กว่า 105 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีโรนัลโด้จากสโมสร รีล มาดริด มาเป็นอันดับที่สองด้วยรายได้ประมาณกว่า 80 ล้านเหรียญสหรัฐ และจากข้อมูลเค้าบอกว่าหลังจากที่ Mayweather Jr. เริ่มขึ้นต่อยอาชีพในปี 1996 เค้าได้ค่าขึ้นชกมาแล้วเบ็ดเสร็จทั้งสิ้นกว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐ (12,000 ล้านบาท) เลยทีเดียว

floyd-mayweather210572533

Mayweather Jr. ขึ้นชื่อว่าเป็นนักกีฬาที่ใช้เงินได้ฟุ่มเฟือยมากที่สุดคนหนึ่งของโลก จากตัวอย่างที่ผมอ่านต้องถือว่าสุดยอดทีเดียวไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ อย่างเช่น ในแต่ละปีเค้าใช้เงินประมาณเกือบสองแสนบาทกับกางเกงชั้นในโดยเค้าใช้ครั้งเดียวทิ้งไม่ใส่ซ้ำ หรือจะเป็นที่เค้ามีฝูงรถหรูและซุปเปอร์คาร์ประจำอยู่ที่บ้านเค้าสองแห่ง โดยบ้านที่ไมอามี่จะเป็นรถสีขาวทั้งหมด ในขณะที่บ้านที่ลาสเวกัสจะเป็นรถสีดำทั้งหมด หรือจะเป็นเรื่องที่เค้าเคยพนันการแข่งขันการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลด้วยจำนวนเงินถึง 1 ล้านเหรียญ จำนวนเงินเหล่านี้เมื่อเทียบกับรายได้ที่เค้าทำได้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ไม่ยาก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า Mayweather Jr. จะสามารถใช้ชีวิตแบบนี้ได้ตลอดไป

เราเคยเห็นกรณีตัวอย่างของนักกีฬาหลายต่อหลายคนแล้วที่เคยทำเงินได้จำนวนมหาศาลจากความเก่ง ความสามารถ และการตลาดที่สร้างให้เค้าเหล่านั้นเป็น idol หรือ superstar ในวงการกีฬา แต่ในที่สุด ภายหลังจากที่จบอาชีพนักกีฬาลง จะด้วยเวลาที่เหมาะสมจากวัยอันแก่ตัว หรือ อุบัติเหตุจากการเล่นกีฬาที่ทำให้ต้องจบอาชีพลงเร็วกว่าที่คาดไว้  นักกีฬาเหล่านั้นกลายมาเป็นยาจกหรือแทบไม่มีอันจะกินภายในเวลาไม่กี่ปีให้หลัง

นักกีฬาดังคนหนึ่งที่เพิ่งเป็นข่าวก็คือนักบาสเกตบอลที่ชื่อว่า Allen Iverson ซึ่งเคยเป็นดาราดังให้กับทีมอย่าง Philadelphia 76ers โดนฟ้องจากร้านขายเครื่องเพชรว่าติดหนี้อยู่เกือบ 9 แสนเหรียญ และถูกพบเดินแบมือขอเงินค่าซื้อชีสเบอร์เกอร์หน้าสนามกีฬาแห่งหนึ่ง คำถามที่แฟนบาสเกตบอลถามก็คือ เกิดอะไรขึ้นกับนักกีฬาระดับนี้ที่เคยมีรายได้รวมจากการเล่นบาสเกตบอลกว่า 150 ล้านเหรียญหรือกว่า 4,500 ล้านบาท และมีเงินที่ได้จากสปอนเซอร์อีกกว่า 50 ล้านเหรียญในช่วงต้นทศวรรษ 2000 ในขณะที่นักบาสเกตบอลระดับตำนานอีกคนอย่าง Magic Johnson กลับไปได้สวยในการพลิกบทบาทเป็นนักลงทุนและนักธุรกิจที่มีมูลค่าธุรกิจกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ

ความแตกต่างหลักๆ ที่ผมอ่านจากพบจากบทสัมภาษณ์และเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนักกีฬาเหล่านี้ก็คือ ความคิดอ่านในเรื่องการใช้ชีวิตและใช้เงินอย่างมีวินัย และ การมองการณ์ไกลในเรื่องเงินๆ ทองๆ ของเค้านั่นเอง
floyd6038782844_172369861_n

Mayweather Jr. มีผู้ติดตามเป็นขบวนกว่า 50 คนในการเดินทางไปแต่ละที่ ไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ทุกคนอยู่บนค่าใช้จ่ายของเค้าทั้งสิ้น เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวอย่างน้อย 2 ลำถูกใช้ในการเดินทางแต่ละครั้ง เป็นของ Mayweather Jr. เองลำหนึ่ง อีกลำให้กับบรรดาบอดี้การ์ดของเค้า หรือการที่ Allen Iverson เคยใช้เงินคืนละเกือบ 1,500,000 บาทในการเอนเตอร์เทนเพื่อนฝูงและคณะติดตามเค้าในไนต์คลับเป็นประจำ สิ่งยั่วยวนเหล่านี้ยากที่จะหลีกเลี่ยงในขณะที่คุณอยู่จุดสูงสุดในอาชีพ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทั้ง Mayweather Jr. และ Iverson จะสามารถปั๊มเงินใช้ได้ไปตลอดชีวิต ในขณะที่ Magic Johnson เคยบอกว่ามันก็เป็นเรื่องยากที่จะต้องลดทอนความสะดวกสบายที่มอบให้กับผู้ที่มีส่วนร่วมหัวจมท้ายกับเค้ามาในช่วงสร้างตัว แต่เค้าหวังว่าเป็นสิ่งที่เค้าคิดไม่ผิดและมันก็ได้พิสูจน์เช่นนั้นจริงๆ จากที่เราเห็น ณ ปัจจุบัน

floyd-mayweather-instagram-elite-daily

กรณีทางด้านบนให้เห็นเป็นตัวอย่างว่าแม้กระทั่งนักกีฬาอาชีพที่เคยมีรายได้เป็นหลักร้อยล้าน พันล้านบาท ถ้าหากไม่สามารถมีวินัยในการใช้ชีวิตและลุ่มหลงไปกับสิ่งกระตุ้นรอบๆ ตัวในช่วงเวลาที่ทุกคนยังให้ความสนใจและชื่นชมในความสามารถและผลงานของคุณ บางครั้งกว่าจะรู้ตัวสิ่งที่ทุกท่านได้พยายามสร้างมาอาจมลายหายไปในระยะเวลาอันสั้นกว่าที่คาดคิดไว้อย่างไม่ทันรู้ตัว

กลับมามองที่บ้านเรา สำหรับนักกีฬา โดยเฉพาะนักฟุตบอลไทย เชื่อเหลือเกินว่าปัจจุบันวงการฟุตบอลไทยของเราได้พัฒนามาถึงจุดที่เรียกว่า ทำมาหากินด้วยลำแข้ง ได้อย่างเต็มปาก แต่ความสำเร็จ ชื่อเสียง และเงินทองทรัพย์สินที่ได้มาก็มีความสุ่มเสี่ยงต่อการถูกนำไปใช้อย่างไม่รอบคอบและไม่จำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งต่างๆ ที่คุณไม่เคยได้ก็จะวิ่งมาหาอย่างไม่ตั้งตัว

พูดกันตรงๆ ไม่ต้องเอ่ยชื่อเราก็ชี้ตัวกันได้อยู่ว่านักฟุตบอลไทยคนไหนที่ยังเป็น bad boy วนเวียนอยู่กับเรื่องไม่ดีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องติดการพนัน สุรา นารี ฯลฯ และไม่มีแนวโน้มว่าจะ ลด ละ เลิก ได้แต่อย่างใด ในขณะเดียวกันเราก็ทราบกันดีอยู่ว่ามีนักฟุตบอลไทยตัวอย่างหลายคนที่มีวินัยและใช้ชีวิตสมถะทั้งในขณะที่ยังค้าแข้งอยู่และแม้จะจบอาชีพนักฟุตบอลไปแล้วก็ยังคงใช้ชีวิตแบบที่เคยและเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับนักเตะรุ่นหลังๆ คนเหล่านี้ถามใครใครก็เอ่ยชื่อได้ แต่อาจเป็นเพราะวิถีสมถะของคนเหล่านี้ไม่มีความหวือหวาและตื่นเต้น ไม่เข้ากับภาพลักษณ์ของเกมฟุตบอลที่เป็น commercial มากในปัจจุบัน  เลยน่าเสียดายนะครับที่ตัวอย่างดีๆ มักจะถูกมองข้ามแทนที่จะถูกเอาอย่าง

Related Articles

The-Beach

The Beach บทเรียนที่สำคัญที่ต้องไม่ซ้ำรอย

อ่านข่าวช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว ก็น่ายินดีที่ประเทศไทยเรามีนโยบายการสนับสนุนส่งเสริมการสร้างภาพยนตร์ต่างประเทศในราชอาณาจักร โดยเป็นโอกาสหนึ่งในการดึงเงินลงทุนและสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนด้านการท่องเที่ยวได้หลายพันล้านบาท อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้แรงงานในวงการภาพยนตร์ไทยมีโอกาสได้รับการว่าจ้างจากผู้สร้างภาพยนตร์เหล่านี้ไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องนี้ถูกพูดถึงขึ้นมาก็อดนึกไปถึงกรณีของภาพยนตร์เรื่อง The Beach ที่มีการยกกองมาถ่ายทำที่หาดมาหยา บนเกาะพีพีเล จังหวัดกระบี่ เมื่อปี 2541 ไม่ได้ ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว กับสภาพแวดล้อมของหาดมาหยา และผลกระทบที่เกิดกับระบบนิเวศในบริเวณนั้น เป็นบทเรียนสำคัญเรื่องหนึ่งของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตื้นที่เปราะบาง การขุดขยายหาดให้กว้างขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับบทของภาพยนตร์

ai-Artificial intelligence

AI ปัญญาประดิษฐ์ นวัตกรรมเปลี่ยนโลก

เทคโนโลยีตัวหนึ่งที่ถูกพูดถึงกันมากในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา คือ ตัวปัญญาประดิษฐ์ที่ชื่อว่า ChatGPT (Chat + GPT ตัวย่อของคำว่า “generative pre-trainedtransformer” ซึ่งเป็นโมเดลประมวลผลทางภาษาประเภทหนึ่ง) ที่ถูกปล่อยออกให้คนทั่วไปได้ลองใช้ในโลกออนไลน์ อันนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ผมว่าเราทุกคนต้องทำความเข้าใจให้ดีๆ เพราะผมมองว่าเจ้าปัญญาประดิษฐ์มีโอกาสที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง องค์ประกอบหลายๆ อย่างทางเศรษฐกิจอย่างพลิกฝ่ามือได้เลยทีเดียว มองย้อนกลับไปในอดีต

ทรงอย่างแบด

ปรากฏการณ์ “ทรงอย่างแบด” : ความซับซ้อนของพฤติกรรมผู้บริโภคยุคปัจจุบัน

ปรากฏการณ์ “ทรงอย่างแบด” เป็นเรื่องที่ผมทึ่งกับวิถีสังคมของเด็กรุ่น Gen Millennials และ Alpha ที่ส่งอิทธิพลต่อมาถึงคนรุ่น Boomer และ X Y ได้อย่างน่าสนใจ ถ้าเราไม่ได้คุยกับเด็กรุ่นใหม่ หรือเอาตัวเข้าไปอยู่ในสื่อโซเชียลที่เด็กยุคใหม่คุยกัน ก็คงจะงงกันว่าประโยคนี้คืออะไร แล้วคำขวัญของผู้ว่าฯ มาจากไหน ถือเป็นตัวอย่างของช่องว่างทางความคิด สังคม