ความอ่อนแอ
คือ ตัวช่วยบำบัดจิตใจของมนุษย์

ไม่ต้องฝืนเข้มแข็งในทุกวินาที
เพราะความอ่อนแอ
เป็นตัวช่วยในการบำบัดจิตใจ
 และเติมเต็มความรู้สึก

ในความคิดของทุกคนเมื่อเราเกิดเป็นมนุษย์เราอ่อนแอได้ไหมคะ? หลายคนอาจจะคิดว่าคนเราต้องเข้มแข็งตลอดเวลา อ่อนแอไม่ได้ ร้องไห้ไม่ได้ แต่เราอย่าลืมนะว่าเราเป็นคนคนหนึ่งที่มีความรู้สึก มีความทุกข์ มีวันที่เหนื่อยมากๆ แล้วอยากจะระบายมันออกมา แต่ด้วยบรรทัดฐานของสังคมไทย โดยส่วนมากอาจจะมองว่าการเป็นคนที่อ่อนแอ ไม่เข้มแข็งหรือคนที่ร้องไห้ คือ คนที่ไม่เก่งและไม่ดีพอ

ทั้งที่ในความเป็นจริงความอ่อนแอเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดในชีวิตของมนุษย์ทุกคนยังหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากเราพยายามเข้มแข็งตลอดเวลาและพยายามกดความรู้สึกไว้ อาจทำให้เรารู้สึกเครียด และเหนื่อยล้า ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของเราได้ 

การยอมรับความอ่อนแอ การร้องไห้หรือแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา ไม่ได้แปลว่าเราอ่อนแอ ไม่เก่ง หรือไม่ดีพอ แต่เป็นการเยียวยาจิตใจและดูแลความรู้สึกของตัวเองนั่นเองค่ะ 

วันนี้ Mental Life by Chanisara จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับความอ่อนแอ ก็สามารถเป็นตัวช่วยในการบำบัดจิตใจ และเติมเต็มความรู้สึกของเราได้เช่นกันค่ะ

mental-weakness

ความอ่อนแอคือความเข้มแข็งที่แท้จริง 

ในทุกวันนี้ที่เราดำเนินชีวิตในแต่ละวันเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เราเจอความทุกข์มากกว่าความสุข แต่ที่เรามีความสุข เพราะเราอาจจะมองโลกในแง่บวก เพื่อไม่ให้เรารู้สึกทุกข์ แต่ในบางครั้งเราก็ไม่สามารถเข้มแข็งได้ตลอดเวลาใช่ไหมล่ะค่ะ เพราะในแต่ละวันเราจะเรื่องมากมาย ถ้าวันไหนเรารู้สึกไม่ไหวเราต้องอนุญาตให้ตัวเองอ่อนแอบ้างนะคะ เพราะโดยธรรมชาติแล้วเราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะอ่อนแอ และความอ่อนแอไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีหรือเป็นสิ่งที่ผิด มีคนกล่าวไว้ว่า ความอ่อนแอ คือ ก้าวแรกของความกล้าหาญและความเข้มแข็งที่แท้จริง หากวันใดเราอ่อนแอเราก็แค่ยอมรับมัน เข้าใจกับความรู้สึกของตัวเอง และแสดงความรู้สึกออกมา ไม่ว่าจะเป็นการระบายด้วยกันร้องไห้ เล่าให้ใครสักคนฟังหรือตะโกนออกมาดังๆ เพื่อเยียวยาจิตใจตัวเอง หากเก็บกดอารมณ์ไว้มากๆ จะเกิดปัญหาสุขภาพจิตตามมานะคะ เพราะความเข้มแข็งที่แท้จริงคือการยอมรับว่าตัวเองอ่อนแอค่ะ และเยียวยาจิตใจตัวเองให้กลับมาเข้มแข็งและดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างมีความสุขนะคะ

การกดอารมณ์ไว้ส่งผลเสียต่อสุขภาพจิต

การกดอารมณ์ไว้ส่งผลเสียต่อสภาพจิตใจของเรานะคะ เพราะหากปล่อยไว้นานอาจจะทำให้เกิดโรคซึมเศร้าและโรคเครียดตามมาได้ค่ะ เพราะฉะนั้นหากคุณรู้สึกอ่อนแออย่ากดอารมณ์ไว้นะคะ แสดงมันออกมาเพื่อเยียวยารักษาจิตใจตัวเองค่ะ แล้วค่อยกลับมาเข้มแข็งนะคะ

ทำไมผู้ชายถึงห้ามร้องไห้

อาจจะเพราะสังคมคาดหวังว่าให้ผู้ชายมีจิตใจที่เข้มแข็งมากกว่าผู้หญิง ทั้งที่ในความเป็นจริงผู้ชายก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีความรู้สึก มีอารมณ์ที่อ่อนไหว และอ่อนแอได้เหมือนกัน และการร้องไห้ก็เป็นเรื่องที่ปกติ แต่ในสังคมไทยมักจะได้รับการปลูกฝังมาว่า เป็นลูกผู้ชายห้ามร้องไห้ ห้ามแสดงความอ่อนแอ ต้องเข้มแข็ง ซึ่งการร้องไห้ เป็นการแสดงออกและจัดการกับอารมณ์ของตัวเองในรูปแบบหนึ่ง การกดดันไม่ให้ผู้ชายร้องไห้ เรียกว่า Toxic Masculinity หรือ ภาวะความเป็นชายที่เป็นพิษ ทำให้พวกเขาไม่กล้าที่จะแสดงความอ่อนแอออกมา ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตทำให้เกิดภาวะความเครียดและโรคซึมเศร้าตามมานั่นเองค่ะ  

ในทุกวันนี้มีอัตราการฆ่าตัวตายของผู้ชายมากกว่าผู้หญิงจากทั่วโลก โดยกรมอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ผู้ชายทั่วโลกเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายมากกว่าผู้หญิงถึงสองเท่าโดยอัตราการฆ่าตัวตายของผู้ชายอยู่ที่ 12.6% ต่อประชากร 100,000 คนขณะที่อัตราการฆ่าตัวตายของผู้หญิงอยู่ที่ 5.4% ต่อประชากร 100,000 คน  (ข้อมูลล่าสุดเมื่อปี ค.ศ. 2019) และข้อมูลจากกรมสุขภาพจิตพบว่าในประเทศไทยมีผู้ชายเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายสำเร็จถึง 80.4%  เลยทีเดียว (ข้อมูลล่าสุดเมื่อปี ค.ศ. 2018-2019)

การที่สังคมคาดหวังในตัวผู้ชายมากกว่าผู้หญิงในเรื่องที่ผู้ชายต้องมีความเข้มแข็งมากกว่าผู้หญิง ห้ามแสดงความอ่อนแอออกมา อาจเป็นปัจจัยหนึ่ง ทำให้พวกเขาไม่กล้าร้องไห้ แสดงความรู้สึก หรือขอความช่วยเหลือจากคนอื่น อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความกดดัน เพราะกดอารมณ์ไว้ไม่กล้าแสดงความอ่อนแอออกมา และอาจทำให้เกิดการปลิดชีพตัวเองในที่สุดค่ะ 

เราคิดว่าไม่ว่าคุณจะเป็นเพศชายเพศหญิงหรือเพศอะไรก็แล้วแต่ คนเราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะอ่อนแอ ไม่จำเป็นต้องเข้มแข็งตลอดเวลาหรือทุกวินาที แต่เราทุกคนสามารถที่จะยอมรับความอ่อนแอของตัวเอง ปลดปล่อยความทุกข์ออกมาเพื่อที่จะทำให้ตัวเองสบายใจ เพราะเราเชื่อว่าการที่ได้ร้องไห้หรือการที่ได้ระบายความทุกข์ออกมา เป็นการบำบัดจิตใจอย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้นต่อให้คุณจะเป็นผู้ชายก็สามารถอนุญาตให้ตัวเองอ่อนแอได้นะคะ

5 วิธีกล้ายอมรับความอ่อนแอของตัวเอง 

ยอมรับความรู้สึกตัวเอง

ว่าเรากำลังอ่อนแอและเผชิญหน้ากับมัน 

ยอมรับว่าโลกนี้ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ

 เราไม่สามารถมีความสุขได้ทุกวันและความอ่อนแอสามารถเกิดขึ้นกับเราได้

เข้าใจในอารมณ์ตัวเอง

เข้าใจว่าตอนนี้เรารู้สึกยังไง เราอยู่ในอารมณ์แบบไหน หากเรากำลังรู้สึกอ่อนแอเราแค่ยอมให้ตัวเองอ่อนแอได้บ้าง เพื่อปลดปล่อยอารมณ์ความรู้สึกออกมาและค่อยกลับมาเข้มแข็งใหม่

ให้เวลาตัวเองได้ทบทวนความคิด

ให้เวลาตัวเองในการตกตะกอนความคิด ความรู้สึก ว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ในสถานการณ์ไหน เพื่อที่จะทำให้เราเข้าใจความรู้สึกของตัวเอง

ขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเมื่อเรารู้สึกไม่ไหว

พึ่งพาคนอื่นบ้างในวันที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ไหว รู้สึกว่าตัวเองกำลังอ่อนแอ ร้องไห้ออกมาหรือไประบายความในใจให้ใครสักคนฟัง เชื่อเถอะการทำเช่นนี้จะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นค่ะ

คงไม่ใช่เรื่องผิดที่เราจะรู้สึกอ่อนแอและไม่เข้มแข็งบ้างในบางเวลา เพราะเราเป็นมนุษย์ที่มีชีวิตจิตใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศอะไรคุณก็มีสิทธิ์ที่จะอ่อนแอ ความอ่อนแอไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีเพราะในบางครั้งความอ่อนแอเป็นสิ่งบำบัดจิตใจให้เราได้ระบายความทุกข์และกลับมาเข้มแข็งในเร็ววันค่ะ


Source 

https://youtu.be/54_VDI583xs?si=QprvaMFrHZm1mrlp

https://youtu.be/ocNbRf75uKw?si=42fwGzQ7IGlcJOux

https://www.blackbirdsfeathers.com/stop-trying-to-be-strong/ 

https://peacepleasestudio.com/blog/men-dont-cry/ 

https://www.sdgmove.com/2021/06/23/suicide-worldwide-in-2019-who-estimates/?utm_source=chatgpt.com 

https://www.nationtv.tv/news/378742610?utm_source=chatgpt.com 

https://amarinbooks.com/7-วิธีคิดเพื่อรักตัวเองใ/?utm_source=chatgpt.com 

 

Related Articles

single

เพราะไม่ว่าเราจะเป็นโสด หรือ มีคู่เราจะต้องเป็นแสงสว่างที่นำทางชีวิตตัวเอง

ไม่ว่าจะโสดหรือมีคู่ เราต้องมีความสุขและเป็นเทียนที่ส่องสว่าง นำทางชีวิตตัวเองให้ได้  ทุกคนรู้ไหมว่าในปัจจุบันมีคนโสดทั่วโลกอยู่ประมาณ 2.12 พันล้านคน หรือราว 27% ของประชากรโลกเลยนะ และมีการคาดการณ์ว่าคนโสดจะมีสูงขึ้นเรื่อยๆ (ข้อมูลล่าสุด ปี 2023) ทุกคนคิดว่าการที่เป็นคนโสด เราต้องรู้สึกเหงาจริงหรือเปล่านะ มีหลายผลการวิจัยบอกว่าการเป็นโสดทำให้เหงากว่าคนมีคู่นิดหน่อย แต่ทำไมมีคนจำนวนไม่น้อยที่ยังเป็นโสดกันล่ะ อาจเป็นเพราะอยากอยู่คนเดียว ไม่ชอบออกจากบ้าน ชอบนอนดูซีรีส์

รู้ยัง! จิตแพทย์ VS นักจิตวิทยา แตกต่างกันยังไงนะ

พบจิตแพทย์ = การรักษา พบนักจิตวิทยา  =  พูดคุย ปรับความคิด ฟื้นฟูจิตใจให้กลับมาเข้มแข็ง ทุกคนรู้ไหมคะว่าการหาหมอจิตแพทย์กับการไปหานักจิตวิทยาต่างกันอย่างไร ทุกคนคงรู้ว่าทั้งจิตแพทย์และนักจิตวิทยา เป็นคนที่ช่วยดูแลใจของเราทั้งคู่ ทุกวันนี้มีผู้คนจำนวนมากที่หันมาใส่ใจและให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตมากขึ้น ถึงแม้ว่ายังมีคนบางส่วนที่ยังเข้าใจว่าคนที่ไปหาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา จะต้องเป็นคนที่ประสบปัญหาสุขภาพจิตค่อนข้างหนัก แต่แท้จริงแล้วการไปพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา ไม่ต้องประสบปัญหาด้านสุขภาพจิตก็สามารถไปพบได้ เช่น รู้สึกไม่สบายใจ กลุ้มใจ มีปัญหาทางด้านความรัก

5 เรื่องเกี่ยวกับกลโกง ลวง ให้ รัก ที่ทุกคนควรรู้เท่าทัน

ปัจจุบันการหลอกลวงผ่านโลกออนไลน์มีหลายรูปแบบทำให้คนที่โดนหลอกสูญเสียทรัพย์สินและของมีค่ามากมายมหาศาล หนึ่งในรูปแบบของการหลอกลวงนั้นคือ “Romance Scam” หรือ “การลวงให้รัก” ทุกคนรู้ไหมคะว่า การลวงให้รักนั้นถือเป็นการหลอกลวงรูปแบบหนึ่งผ่านทางโลกออนไลน์ที่สร้างความเสียหายอันดับต้นๆ ของไทยเลยนะ เพราะทุกวันนี้มีคนจำนวนไม่น้อยที่หาเพื่อนคุย หรือหาคนรักผ่านทางโลกออนไลน์ ทำให้มิจฉาชีพใช้จุดนี้เป็นช่องโหว่เพื่อหลอกเงินจากคนที่เป็นโสดและอยากตามหารักแท้  และที่สำคัญไปกว่านั้น การหลอกลวงเหล่านี้ มิจฉาชีพไม่ได้ทำเพียงคนเดียว แต่ทำเป็นขบวนการเฉกเช่นแก๊งคอลเซนเตอร์ การหลอกลวงให้รักไม่ใช่แค่หลอกลวงให้เสียทรัพย์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการหลอกลวงที่เข้าไปเล่นกับความรู้สึกในใจคน ทำให้บางคนเสียความรู้สึก เศร้าใจและเกิดบาดแผลในใจ