“Pebbling”
การแสดงความรักแบบนกเพนกวิน
: การกระทำเล็กๆ ที่มีคุณค่าต่อจิตใจ

เมื่อเราแบ่งปันความสุขเล็กๆ
ผ่านข้อความเพียงสั้นๆ หรือ ภาพที่คุ้นตา
นั่นคือ การแสดง “ความรัก” ที่เรียบง่ายและแสนพิเศษ

ในทุกวันนี้ชีวิตของทุกคนขับเคลื่อนกันด้วยโลกออนไลน์ซะเป็นส่วนใหญ่ บางคนเล่นโซเชียลแทบตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมา หลายคนมักจะหยิบจับโทรศัพท์ขึ้นมาเป็นอันดับแรก เพื่อส่องความเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์ เช็คข่าวสาร หรือส่งข้อความหาคนที่เรารัก ฯลฯ 

ใครเคยเจอแบบนี้บ้าง จะมีคนคนหนึ่งที่คุณรู้จักชอบส่งคลิปให้เรา ส่งมีม ส่งรูปภาพให้ทุกวัน แค่อยากส่งให้เพราะนึกถึง คลิปนี้ตลก คลิปนี้นิสัยเธอเลยอยากส่งให้ เราเชื่อว่าคนโดยส่วนมากต้องเคยเจอใครสักคนที่เป็นแบบนี้ อาจจะเป็นเพื่อน แฟน หรือคนในครอบครัวที่ใกล้ชิดกับเรา

หลายคนอาจจะสงสัยว่าส่งมาทำไมบ่อยๆ อาจจะรู้สึกรำคาญใจ แต่ทุกคนรู้ไหมว่าการกระทำเช่นนี้มีความหมายลึกซึ้งมากกว่าที่เราคิด เพราะถือเป็นการแสดงความรักอย่างหนึ่งของคนในสังคมปัจจุบันที่การสื่อสารเข้าถึงกันง่ายดาย 

ปรากฏการนี้มีชื่อเรียกว่า “Pebbling” คือ การแสดงความรักด้วยการกระทำเล็กๆ ที่เราอยากส่งต่อความรัก ความคิดถึงไม่ว่าจะเป็นการส่งมีม รูปภาพ สติกเกอร์ คลิปวิดีโอสั้นๆ ให้กับคนที่เรารัก เป็นการบอกว่าคิดถึงนะหรือเรายังอยู่ตรงนี้นะ

วันนี้ Mental Life by Chanisara อยากชวนทุกคนมาเข้าใจการแสดงความรักด้วยมีม ภาษารักของคนยุคนี้ที่มีความหมายลึกซึ้งกว่าที่คิด

Pebbling

“Pebbling” การส่งต่อความรักแบบเพนกวิน

หลายคนคงสงสัยว่า “Pebbling” คืออะไร? “Pebbling” คือการแสดงความรักของนกเพนกวิน นกเพนกวินได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ที่มีความโรแมนติกที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง เพราะเขาจะมีคู่ครองตัวเดียวไปตลอดชีวิต แต่ความพิเศษของนกเพนกวินสายพันธุ์เจนทูมีความแตกต่างออกไปจากนกเพนกวินสายพันธุ์อื่น คือ นกเพนกวินสายพันธุ์เจนทูจะคาบหิน หรือ ก้อนกรวดที่สวยที่สุดไปให้คู่ที่ตนแอบชอบ เพื่อแสดงความรัก เป็นการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ที่มีคุณค่าต่อจิตใจ เราจึงเรียกการกระทำของนกเพนกวินนี้ว่า“Pebbling” ซึ่งมาจากคำว่า“pebble” ที่มีความหมายว่า “ก้อนกรวด”  เป็นการกระทำที่เรียบง่ายและมีความหมายลึกซึ้ง

ในยุคปัจจุบันที่คนสามารถเข้าถึงโซเชียลมีเดียได้ เราจึงได้ให้คำนิยามถึงการแบ่งปันสิ่งที่เราชอบให้กับคนที่เรารักด้วยการส่งข้อความ รูปภาพ คลิปสั้นๆ สติ๊กเกอร์ ฯลฯ ว่า “Pebbling” เป็นการแสดงความรัก ความคิดถึง ที่ดูเหมือนจะเป็นการกระทำที่เล็กน้อย แต่มีคุณค่ากับจิตใจของเราอย่างมหาศาลค่ะ 

ดร. เอลิซซา กิฟฟอร์ด (Elissa Gifford) นักสังคมสงเคราะห์ จากสหรัฐอเมริกาได้บอกว่า “Pebbling” ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่เป็นการส่งภาษารักที่ใช้กันมานานมาก และเห็นผลกับกลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายทางระบบประสาท (Neurodivergent) เช่น คนที่สมาธิสั้น (ADHD)  คนที่มีภาวะออทิสติก คนที่ป่วยบนโลกดิสเล็กเซีย (Dyslexia) หรือ ผู้ที่มีปัญหาทางด้านการเรียนรู้ ด้วยวิธีการให้ของขวัญทำให้พวกเขารู้สึกว่าได้รับความรักนั่นเอง แต่ปัจจุบัน “Pebbling” นิยมใช้ในการแสดงความรักผ่านโลกออนไลน์ด้วยข้อความ คลิปตลก มีมต่างๆ ถือเป็นการบอกรักที่ไม่มีคำว่ารัก

การบอกรักที่ไม่มีคำว่ารัก

การส่งข้อความ ส่งวิดีโอตลก ส่งรูป ในการสื่อสารผ่านทางออนไลน์ให้คนที่เราใกล้ชิดหรือคิดถึงเป็น “Pebbling”อย่างหนึ่ง เป็นการบอกรักที่แสนเรียบง่ายแต่มีความพิเศษไหนแบบของตัวเอง เพราะนั่นเป็นการบ่งบอกว่า เรากำลังนึกถึงคุณ คิดถึงคุณ หรือเรากำลังอยู่ตรงนี้นะ โดยการศึกษาวิจัยจากงานวิจัยที่มีชื่อว่า  Do It for the Culture: The Case for Memes in Qualitative Research ทำให้ค้นพบว่า การส่งมีมเป็นการสร้างความสัมพันธ์ทำให้รู้สึกผูกพันกันมากขึ้นและมีมยังทำให้เราสังเกตนิสัยของคนที่เราจะส่งให้มากขึ้น จึงสะท้อนให้เห็นว่า การส่งมีมจึงถือเป็นการเสริมสร้างความผูกพันอย่างหนึ่ง เพราะคนที่ส่งให้นั้นจะดูว่าคนรับมีความชอบแบบไหน ชอบเสพคอนเท้นต์อะไรจะขำกับมุกแบบไหน หรือมีมไหนตรงกับชีวิตเขา สิ่งเหล่านี้คือการกระทำเล็กๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจต่อคนที่ได้รับถือเป็นการกระทำที่มีคุณค่าทางจิตใจมากเลยทีเดียว 

สวัสดีวันจันทร์แปลว่า ”ยังมีลมหายใจ”

ใครบอกว่าการส่งมีมฮิตแค่ในหมู่วัยรุ่น เราเชื่อว่าในหลายครอบครัวต้องมีพ่อแม่ หรือ ญาติผู้ใหญ่ที่ชอบส่งสวัสดีวันจันทร์ สวัสดีวันอังคารหรือข้อคิดธรรมะสอนใจให้ลูกหลานทุกเช้า ไม่ว่าจะในกลุ่มแชทครอบครัวหรือในห้องแชทส่วนตัว คุณยายแต้ว อุษา นักแสดงจากเรื่อง หลานม่า ได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้ในรายการ รอบวัน 2024 ว่าสำหรับผู้สูงอายุการส่งสวัสดีวันจันทร์นั่นหมายความว่า เขาคิดถึงและเขายังมีชีวิตอยู่ “ถ้าวันหนึ่งเขาไม่ส่งนั่นแปลว่าเขาไม่มีชีวิตอยู่แล้ว” คนแก่แค่เหงา เขาแค่อยากคุยกับลูกหลาน อยากรู้ว่าวันนี้เขาเป็นยังไงก็เท่านั้นเอง

นี่คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า ในโลกที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตของคนเราทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้น ถึงแม้จะอยู่คนละบ้าน คนละจังหวัดหรือคนละประเทศ ยังสามารถส่งความรัก ความคิดถึงให้กันได้ เหมือนว่ายังมีกันและกันอยู่ตลอด การส่งมีมคือการแสดงความรักอย่างหนึ่ง ที่อาจจะไม่ต้องสื่อสารออกมา แต่ทำให้รู้ว่าเรากำลังคิดถึงเธออยู่ ความคิดถึงที่ถูกส่งผ่านทั้งโลกออนไลน์ด้วยมีมนั่นเอง

คนเราบางทีนั้นอาจจะมองข้ามการกระทำเล็กๆ ของใครบางคนไป โดยหลงลืมไปว่าสิ่งที่เขาทำนั้นมีคุณค่ามากมายขนาดไหน เหมือนการ “Pebbling” ในยุคปัจจุบันที่มนุษย์สามารถส่งข้อความให้กันอย่างง่ายดาย จนบางทีอาจลืมไปว่า คนที่เขาส่งให้แค่อยากบอกรัก แค่คิดถึงคุณ หรือแค่ว่าเรายังมีลมหายใจนะ ก็เพียงเท่านั้นเอง ดังนั้นอย่าลืมใส่ใจคนที่เขาคิดถึงคุณนะคะ


Source

https://thestandard.co/life/meme-sharing-pebble-effect/ 

https://mappamedia.co/

https://www.today.com/life/relationships/Pebbling-love-language-peguins-rcna155876 

https://vt.tiktok.com/ZS2Ba784M/ 

Related Articles

Chronic Stress

Chronic Stress เครียดไม่รู้ตัว ภัยใกล้ตัวที่เราไม่ควรมองข้าม

ไม่ว่าเราจะเจอกับปัญหาอะไรในชีวิต ขอให้ตั้งสติและค่อยๆ คิดหาหนทางแก้ไข เพราะทุกปัญหามีทางออกเสมอ ในทุกวันนี้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย อาจจะทำให้เราเกิดความเครียด ความกดดัน  เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น บางสถานการณ์เป็นเรื่องที่เราไม่คาดคิดหรือควบคุมไม่ได้ เช่น ปัญหาน้ำท่วม ปัญหาสุขภาพ หรือปัญหาอะไรก็ตามที่เราเผชิญอยู่ในชีวิตประจำวัน เช่น ปัญหาการเงิน ปัญหาการงาน หรือปัญหาส่วนตัว ฯลฯ ซึ่งอาจจะทำให้เราเครียดไม่รู้ตัวจนอาจเกิดภาวะเครียดสะสม  แต่ไม่ว่าคุณกำลังเครียดกับปัญหาอะไรอยู่

Impostor Syndrome

เพราะเราทุกคนมีความเก่งในแบบฉบับของตัวเอง

เราไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร เพราะเราทุกคนล้วนมี “คุณค่า” และ “เก่ง” ในแบบฉบับของตัวเอง  คนเราทุกคนมีคุณค่าและเก่งในแบบของตัวเองไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร แต่จงภูมิใจในตัวเองที่ใช้ชีวิตและเติบโตมาได้อย่างงดงามจนถึงทุกวันนี้ ทุกคนล้วนผ่านอุปสรรคและความท้าทายในชีวิตของตัวเองมาด้วยกันทั้งนั้น ถึงแม้เราทุกคนจะมีประสบการณ์ในชีวิตที่แตกต่างกัน แต่เชื่อเถอะว่าเราทุกคนต้องเคยผ่านเหตุการณ์ที่เป็นบทเรียนในชีวิต เคยแตกสลาย แล้วกลับมายืนหยัดได้ด้วยตัวเองกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้น คุณเก่งและมีคุณค่าไม่แพ้ใครเลยนะ  วันนี้ Mental Life by Chanisara

Steps Toward Goals:

Steps Toward Goals: เพราะความฝันที่ยิ่งใหญ่สำเร็จได้ด้วยการลงมือทำ 

เราทุกคนอาจไม่ได้เกิดมาสมบูรณ์แบบ ไม่สำคัญว่าใครจะ “มอง” หรือ “ตัดสิน” เราว่าอย่างไร แต่สำคัญที่ว่าเราคิดและพาตัวเองไปถึง “เป้าหมาย”อย่างไรต่างหาก เพราะเราเชื่อว่าความฝันทุกๆ ความฝันที่คุณจะทำนั้นยิ่งใหญ่ ไม่ว่าความฝันของคุณจะเป็นเรื่องเล็กๆ หรือเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ก็ตาม เราเชื่อว่าความฝันหรือสิ่งที่คุณตั้งใจทำสามารถเป็นไปได้เสมอ ขอแค่ลงมือทำและมีเป้าหมายที่ชัดเจน ถึงแม้ว่าเราทุกคนไม่มีใครเกิดมาสมบูรณ์แบบและมีพร้อมทุกสิ่ง รวมถึงคงไม่มีใครสามารถเลือกเกิดได้ แต่สิ่งที่เราทุกคนทำได้คือการใช้ชีวิตให้มีความสุขกับสิ่งที่เราเป็น ไม่ว่าคุณจะเป็นใครคุณสามารถมีความฝัน ความหวัง และเป้าหมายในชีวิตได้ค่ะ