Say no to Racism

Say no to Racism ปัญหาเหยียดผิวในวงการกีฬา ถ้าไม่เจอกับตัวจะไม่รู้

Say no to Racism

เรื่องบางเรื่องถ้าเราไม่เจอเองเราจะไม่มีทางรู้เลยว่าคนที่โดนจะมีผลกระทบอย่างไร โดยเฉพาะความเจ็บช้ำที่มีผลกระทบต่อทางจิตใจเพราะจะไม่มีหลักฐานหรือร่องรอยของอาการให้เห็นผ่านทางร่างกายที่กล่าวมาดังนี้ก็เพราะผมอยากจะหยิบยกประเด็นทางสังคมและเกี่ยวข้องกับวงการกีฬาที่ได้รับการพูดถึงเรื่องหนึ่งมากที่สุดในสังคมตะวันตกแต่กลับไม่ค่อยได้รับความสนใจจากคนไทยเท่าไหร่ นั่นก็คือเรื่องของการเหยียดสีผิวและเชื้อชาติในวงการกีฬา

1473625_FULL-LND

ประเด็นทางสังคมเรื่องนี้ในวงการกีฬาเองก็ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใดมีมานานมากแล้วเพียงแค่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราได้เห็นกรณีตัวอย่างหลายๆ อันที่กระพือกระแสเรื่องนี้ผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียให้คนทั่วไปอย่างเรารับรู้มากขึ้น

ยกตัวอย่างในวงการฟุตบอล ในปี 2013 ระหว่างการแข่งฟุตบอลอุ่นเครื่องของทีม AC Milan กับทีมดิวิชั่น 4 ในอิตาลีก่อนเปิดฤดูกาล Kevin-Prince Boateng ผู้เล่นของ AC Milan ถูกแฟนบอลของอีกทีมตะโกนดูถูกเรื่องสีผิวจนเค้าฟิวส์ขาดในนาทีที่ 26 หยิบลูกบอลเตะขึ้นอัฒจรรย์และเดินออกจากสนามทันที หรือเมื่อปีที่แล้วผมเชื่อว่าทุกคนคงจำได้ถึงกรณี Dani Alves โดนแฟนบอลในสเปนปากล้วยใส่ และล่าสุดก็คือกรณีแฟนบอลเชลซีไปโชว์เก๋าแสดงกิริยารังเกียจและใช้ถ้อยคำเหยียดผิวพร้อมผลักชายผิวดำออกจากรถไฟฟ้าใต้ดินในกรุงปารีสระหว่างการแข่งขัน UEFA แชมเปียนส์ลีก เชลซี กับ ปารีส แซงก์แยร์แมงต์

-

ไม่ใช่ว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดในกลุ่มแฟนบอลเท่านั้น ในระดับผู้บริหารองค์กรสูงๆ ก็เช่นกันอย่างกรณีนาย Carlo Tavecchio ที่เคยกล่าวถึงนักฟุตบอลที่มีเชื้อสายอาฟริกันว่า “เป็นพวกกินกล้วย” ตอนหาเสียงสมัครตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลอิตาลี ซึ่งแม้จะเป็นเหตุการณ์ที่น่ารังเกียจในระดับสมาคมแต่เค้าก็ได้รับเลือกอยู่ดี จนสุดท้ายอื้อฉาวเกินไปจน FIFA แบนจากการรับตำแหน่งใดๆ ใน FIFA นาน 6 เดือน

กรณีเหล่านี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับวงการฟุตบอลระดับโลก ในการแข่งขันระดับประเทศ ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและสังคมจนกระทั่งหน่วยงานและองค์กรที่รับผิดชอบต้องเก้าอี้ร้อนออกมาร่วมประนามและกำหนดบทลงโทษกับผู้ที่กระทำผิด แม้จะเป็นแค่คนกลุ่มหนึ่งแต่หลายครั้งก็เดือดร้อนไปถึงสโมสรที่ตัวเองเป็นแฟนต้องถูกห้ามแข่งในบ้านหรืองดขายบัตรเข้าชมเพื่อเป็นการตัดรายได้ลงโทษด้วยเหมือนกัน แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีข้อเคลือบแคลงสงสัยในใจว่าผู้บริหารของหน่วยงาน สโมสร หรือองค์กรเหล่านี้มีความจริงใจแค่ไหนในการจัดการปัญหาเหยียดสีผิว หรือเป็นเพียงแค่การตามน้ำเพื่อสร้างภาพเป็นคนดีในสายตาสังคม

daniel-alves-abre

ผมจำได้ว่าเคยเห็นรายงานข่าวบอกว่าในการแข่งขันกีฬาระดับประเทศทุกรายการของปี 2014 มีเหตุการณ์เหยียดสีผิวเกิดขึ้น 89 ครั้งที่ได้รับการรายงานและร้องเรียนอย่างเป็นทางการ (ซึ่งคงมีอีกมากที่ไม่ได้ถูกรายงาน) โดย 80 ครั้งเกิดขึ้นกับกีฬาฟุตบอล ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าห่วงมากสำหรับวงการฟุตบอล ถ้าเอาตัวเลขสถิติอีกอันที่เค้ารายงานว่าในช่วงปี 2012-2014 มีเหตุการณ์เหยียดผิวและเชื้อชาติเกิดขึ้นภายในวงการฟุตบอลของรัสเซียถึงกว่า 200 ครั้งยิ่งน่าเป็นห่วง FIFA ขึ้นไปอีกเพราะนี่คือประเทศที่กำลังจะเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกในอีก 3 ปีข้างหน้านี้แล้วก็ได้แต่หวังว่าเราคงจะไม่เห็นภาพอันน่าเกลียดในฟุตบอลโลกครั้งหน้า

นอกเหนือไปจากแนวคิดหัวรุนแรงที่คิดว่าเผ่าพันธ์และเชื้อชาติตัวเองเหนือกว่าคนอื่น เค้าว่ากันว่าอีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้ปัญหาเหยียดสีผิวและเชื้อชาติในวงการฟุตบอลของยุโรปมีความรุนแรงมากมาจากการเจริญเติบโตของประชากรผู้ลี้ภัยอย่างถูกกฏหมายที่เข้ามาอยู่ในประเทศเหล่านี้ ทั้งแย่งอาชีพ แย่งสวัสดิการ ก่อให้เกิดความตึงเครียดและไม่พอใจของคนท้องถิ่น และก็เริ่มเห็นเชื้อชาติอื่นเข้ามามีบทบาทในวงการฟุตบอลยุโรปมากขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้ที่ย่ำแย่ประชากรท้องถิ่นดั้งเดิมยังลำบากในการดำรงชีวิต

มองย้อนกลับมายังประเทศแถบเอเชียโดยเฉพาะในประเทศไทย นับว่ามีบรรยากาศที่ดีมากสำหรับบรรดานักกีฬาต่างชาติที่เข้ามาเป็นนักเตะอาชีพในลีกของเรา เท่าที่ผ่านมาผมยังไม่เคยได้ยินกรณีมีการเหยียดผิวหรือเชื้อชาติในวงการฟุตบอลไทยของเรานะครับ ทั้งจากหน้าหนังสือพิมพ์หรือวงในหลายๆ ท่าน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากเพราะผมเชื่อว่าการยอมรับในความแตกต่างจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้เราได้เรียนรู้อะไรอีกหลายๆ อย่าง และจะทำให้วงการฟุตบอลของเราพัฒนาไปข้างหน้าโดยปริยาย ท่านผู้อ่านลองคิดดูสิครับว่าถ้าลีกเราเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ดึงดูดนักเตะต่างชาติหลากหลายที่อยากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตร นักเตะไทยก็จะได้มีโอกาสเจอกับผู้เล่นที่ไซส์ต่างกับเรา มีสไตล์การเล่นที่ต่างไป และมี mentality ที่ต่างไปจากประสบการณ์ที่เค้าเคยเล่นอยู่ในลีกอื่นๆ และแน่นอนย่อมมีส่วนเสริมสร้างทักษะและความรอบด้านให้กับนักเตะเรามากยิ่งขึ้น ยิ่งถ้าลีกเราพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ประสบความสำเร็จทั้งในเชิงผลงานและพาณิชย์มากขึ้นย่อมเป็นเป้าหมายหนึ่งที่พวกเค้าเหล่านี้อาจสมัครใจมาร่วมพัฒนาด้วยอย่างแน่นอน

Related Articles

ฟรีวีซ่า เปิดรับนักท่องเที่ยวจีน

ฟรีวีซ่า เปิดรับนักท่องเที่ยวจีน

ในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่เป็นหุ้นส่วนของประเทศและมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจได้ผ่านภาวะวิกฤติมาหลายระลอก หลังจากที่ได้เห็นแผนการกระตุ้นธุรกิจท่องเที่ยว ดีใจที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้ความสำคัญกับจังหวัดรองอย่าง สตูล จันทบุรี ระนอง ตราด จากเดิมมองแค่ ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ กรุงเทพฯ ผมมองว่าคุณภาพของนักท่องเที่ยวสำคัญ เน้นเรื่องการมาอยู่ยาว หรือลองสเตย์ ที่มาเมดิคัลเวลเนส ทำให้ระยะเวลาในการอยู่เร็วขึ้น ทำให้ใช้จ่ายเงินเยอะขึ้น จากปีนี้ที่ต้องเป้าไว้ว่าจะได้นักท่องเที่ยว 10

มิติด้านสิ่งแวดล้อม ของ ESG กับภาคธุรกิจไทย

มิติด้านสิ่งแวดล้อม ของ ESG กับภาคธุรกิจไทย

แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน หรือ ESG ซึ่งย่อมาจาก environment (สิ่งแวดล้อม) social (สังคม) และ governance (บรรษัทภิบาล) ปัจจุบันได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางทั้งจากบริษัทจดทะเบียน นักลงทุน และผู้บริโภค จึงเป็นเรื่องที่ใครก็หลีกเลี่ยงไม่สนใจไม่ได้ในตอนนี้ จากทั้ง 3 มิติดังกล่าว นักวิเคราะห์บางคนบอกว่าถ้ามองในมุมที่จับต้องได้แล้ว มิติด้านสิ่งแวดล้อม

tax, ภาษี

To tax or not to tax ?

ที่ประเทศอังกฤษตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงหาเสียงของตัวแทนจากพรรคอนุรักษนิยม 2 คน ที่จะมาเสียบเก้าอี้นายกฯ แทน นายบอริส จอห์นสัน ซึ่งประกาศลาออกไปเมื่อไม่นานมานี้ หนึ่งนโยบายหลักที่ทั้งนาง Liz Truss และ นาย Rishi Sunak ยกขึ้นมาถกเถียงกันเพื่อชิงคะแนนนิยมก็คือ เรื่องการปรับโครงสร้างภาษีนั่นเอง คนหนึ่งเสนอมาตรการลดภาษีทั้งนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาให้ต่ำลง ในขณะที่อีกคนหนึ่งบอกว่าการปรับลดภาษีอาจไม่ใช่ทางออกสำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะยาว ประเด็นภาษีนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจในบริบทของประเทศไทยด้วยเช่นกัน