Self-Compassion
ใจดีกับตัวเองโดยไม่ตัดสินตัวเอง

เหนื่อยอยู่ใช่ไหม….ใจดีกับตัวเองบ้างนะ
ใช้ชีวิตให้มีความสุข
แค่ไม่เดือดร้อนใครก็พอแล้ว

ในการดำเนินชีวิตของเราในแต่ละวัน เราต้องเจอเหตุการณ์มากมาย อาจจะมีทั้งเหตุการณ์ที่ดีและไม่ดีหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน จนทำให้เรารู้สึกเหนื่อย หรือท้อกับปัญหาที่เข้ามาในชีวิต อาจจะเป็นปัญหาชีวิตส่วนตัว ครอบครัว การเรียน การงาน หรือบางคนอาจจะต้องแบกรับภาระอะไรมากมาย หรือแม้กระทั่งต้องแบกความคาดหวังของคนอื่นหรือของตัวเองไว้ก็ตาม ซึ่งอาจจะทำให้เราเกิดความเครียดความกดดัน โดยที่เรารู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ได้ค่ะ 

บางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของคนเรา เราอาจทำบางสิ่งผิดพลาดหรือตัดสินใจอะไรผิดพลาดก็เป็นเรื่องธรรมดาที่อาจเกิดขึ้นได้ หากเกิดขึ้นแล้วเราทุกคนต้องอ่อนโยนกับตัวเอง ใจดีกับตัวเองบ้าง และที่สำคัญต้องไม่ตัดสินตัวเอง เพื่อเราจะได้ใช้ชีวิตต่อไป ได้เรียนรู้ และกลายเป็นคนที่ดีกว่าเดิมกันค่ะ 

Kristin Neff นักจิตวิทยาได้กล่าวไว้ว่า การใจดีกับตัวเอง หมายถึง การหันมาเห็นอกเห็นใจตัวเองในช่วงเวลาที่คุณรู้สึกแย่หรือทำบางสิ่งผิดพลาดกับตัวเอง คอยให้กำลังใจตัวเองเมื่อต้องเจอปัญหาที่ท้าทายหรือรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ หากเพื่อนๆรู้สึกแบบนั้นอย่าลืมโอบกอดตัวเองแน่นๆ นะคะ

วันนี้ Mental Life by Chanisara จะชวนทุกคนกลับมาคิดถึงตัวเอง ใจดีกับตัวเอง และให้อภัยตัวเอง ในวันที่เรารู้สึกแย่ รู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ อาจจะทำผิดพลาด หรือมีบางเรื่องที่ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ตั้งใจกันค่ะ

การใจดีกับตัวเองโดยไม่ตัดสินตัวเอง

หากเรากำลังรู้สึกท้อใจ คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ หรือเราอาจจะทำบางสิ่งผิดพลาด เราต้องไม่ตำหนิตัวเอง หรือลงโทษตัวเองมากเกินไป เราต้องพูดปลอบใจตัวเอง อ่อนโยนกับตัวเองให้ตัวเรารู้สึกดีขึ้น เราเกิดเป็นมนุษย์เรา ต้องยอมรับและเข้าใจว่าไม่มีมนุษย์คนใดในโลกนี้สมบูรณ์แบบ เมื่อเราทำผิดพลาด หรืออาจจะเจอเหตุการณ์ที่ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราตั้งใจ เราต้องไม่ตัดสินตัวเอง หากเราผิดพลาดเราเรียนรู้ แก้ไข และพัฒนาให้ดีขึ้นได้ ขอแค่ให้เรารู้ว่าสิ่งที่เราทำนั้นมันผิดและเราจะไม่กลับไปทำสิ่งนั้นซ้ำอีกก็เพียงพอแล้วค่ะ ให้อภัยตัวเอง โอบกอดตัวเอง และก้าวต่อไปข้างหน้ากันนะคะ 

ไม่มีใครมีวันที่ดีได้ทุกวัน

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีให้มองว่าเป็นธรรมชาติของมนุษย์ เราไม่ใช่คนเดียวบนโลกที่เจอเหตุการณ์นี้และไม่มีใครมีวันดีดีได้ทุกวัน ให้เราคิดว่าไม่ว่าเราจะเจอเรื่องอะไรก็ตามมันจะผ่านไปในที่สุดฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ หากวันนี้เราไม่ไหว ให้เรากอดตัวเองแน่นๆ แล้วบอกกับตัวเองว่าเดี๋ยวทุกอย่างก็ผ่านไป ไม่มีใครมีวันที่ดีได้ทุกวันและไม่มีใครมีวันที่แย่ได้ทุกวันเช่นกันค่ะ 

ยอมรับ เรียนรู้ความผิดพลาด และให้อภัยตัวเองให้ได้

การใจดีกับตัวเอง คือการตระหนักรู้ถึงความผิดพลาด ยอมรับ เรียนรู้ และที่สำคัญที่สุดคือให้อภัยตัวเองให้ได้ เพราะถ้าหากเราไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้เราจะไม่สามารถก้าวต่อไปได้ การให้อภัยตัวเองจะทำให้ตัวเองนั้นมีความสุข และก้าวต่อไปได้เพื่อชีวิตที่ดีกว่านั่นเองค่ะ 

ใจดีกับตัวเองเพื่อความสุข และความสดใสในชีวิต

Self-Compassion

สภาพจิตใจเราดีขึ้น

การใจดีกับตัวเอง ทำให้ตัวเองมีความสุข ลดความเครียดลง หรือทำให้เรารู้สึกดีขึ้นเมื่อต้แงเจอกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญ

สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น

อาจจะสงสัยใช่ไหมคะว่าการใจดีกับตัวเองจะทำให้สุขภาพแข็งแรงขึ้นได้อย่างไร  ถ้าเราใจดีกับตัวเอง เราทำเพื่อตัวเองรักร่างกายตัวเองมากขึ้น ทำสิ่งที่มีประโยชน์ต่อตัวเอง ร่างกายของเราก็จะแข็งแรงขึ้นนั่นเองค่ะ เช่น นอนหลับอย่างเพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อตนเอง ฯลฯ

รับมือสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจได้ดีขึ้น

หากเราใจดีกับตัวเอง เราจะพยายามเข้าใจตัวเอง เมตตาตัวเอง ซึ่งจะทำให้เรารับมือกับสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจได้ดีขึ้นค่ะ

เข้าใจและรู้จักปลอบโยนตัวเอง

การที่เราใจดีกับตัวเองจะทำให้เราปลอบโยนตัวเองเป็น เมื่อเจอสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจหรืออารมณ์จมดิ่ง เราจะปลอบโยนตัวเอง ฮิวใจตัวเองให้กลับมาเป็นคนที่สดใสได้ค่ะ

ในวันที่ทุกคนอาจไม่ได้ใจดีกับเรา แต่เราต้องใจดีกับตัวเองบ้างนะ เพราะคนๆ นี้จะอยู่กับเราไปจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิตเลยค่ะ 


Source

https://self-compassion.org/what-is-self-compassion/#the-elements-of-self-compassion 

https://www.calm.com/blog/how-to-practice-self-compassion 

 

Related Articles

lose friend

เพื่อน” ที่จริงใจ คือ ของขวัญล้ำค่าที่ควรมีอยู่ในชีวิต

เมื่อเราเติบโตขึ้น “เพื่อน” อาจจะหล่นหายไปบ้าง แต่ “เพื่อน” ที่จริงใจและคอยเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้เรา คือ ของขวัญล้ำค่าที่ควรมีอยู่ในชีวิต  เมื่อเราเติบโตขึ้นเพื่อนเราจะน้อยลง ทุกคนว่าจริงไหมคะ? ในชีวิตคนเราอาจจะต้องพบเจอคนมากมาย ในจุดเริ่มต้นของการมีเพื่อน คนในครอบครัวเป็นคนเลือกสังคมให้เรา เช่น การเลือกสังคมโรงเรียน หรือการพาเราไปเล่นกับลูกเพื่อน และหากใครมาเล่นกับเรา เราก็จะนับว่าเขาคือ “เพื่อน” ทำให้ตอนเด็กๆ

the power of love

“พลังของความรัก” จะทำให้เราจับมือกันก้าวผ่านทุกอุปสรรค และเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้

“พลังของความรัก” จะทำให้เราจับมือกันก้าวผ่านทุกอุปสรรค และเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้ ทุกคนเชื่อในพลังแห่งความรักไหมคะ ความรักสามารถเปลี่ยนแปลงใครคนหนึ่งให้เป็นคนที่ดีขึ้นได้ แต่ความรักไม่ได้มีเวทมนตร์พิเศษอะไรหรอกค่ะ เพียงแค่ความรักเป็นแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ใครบางคน อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีกว่าเดิมเพื่อใครอีก คน ทำให้รู้สึกว่าตัวเองคู่ควรกับความรัก ความสัมพันธ์นั้น นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมความรักถึงทรงพลัง ความรักยังมีพลังทำให้มนุษย์เราสามารถจับมือก้าวผ่านทุกอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ซึ่งเกิดขึ้นจากกลไกลทางจิตวิทยา การสนับสนุนของคู่รัก และวัฒนธรรมในบริบทของสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นคู่รักชายหญิง หรือคู่รักที่มีความหลากหลายทางเพศ  หากย้อนกลับไปในสมัยอดีต ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความรักของผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศนั้น

Presenteeism

ฟังเสียงร่างกายด้วยหัวใจ รู้จักกับภาวะ Presenteeism ฝืนทำงานทั้งที่ร่างกาย-จิตใจไม่ไหว

ใครเคยเป็นบ้างคะ ฝืนทำงานทั้งที่สภาพร่างกายหรือสภาพจิตใจไม่ไหว เพราะไม่อยากลาหยุด แต่การฝืนทำงานทั้งที่ยังป่วยอาจทำให้เราป่วยเพิ่มมากขึ้นและอาจจะทำให้เราทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร โดยในประเทศไทยมีคนมากกว่า 50% ยังไปทำงานทั้งที่ยังคงเผชิญอาการป่วยทางร่างกายไม่เพียงเท่านั้นยังพบว่า ผู้คนประมาณ 27.5% ยังคนฝืนทำงานทั้งที่มีปัญหาสุขภาพใจ นอกจากนี้มีการสำรวจพบว่ายังมีบางคนฝืนทำงานมากกว่า 5 ครั้งทั้งที่ป่วยภายใน 1 ปี อีกด้วยค่ะ  ทำไมหลายคนถึงทำเช่นนั้นอาจเป็นเพราะ อาจจะมองว่าเป็นภาระหน้าที่ที่เราต้องทำ งานนั้นไม่มีใครทำแทนเราได้ มีงานด่วน