Self Esteem
มั่นใจและชื่นชมตัวเองให้เป็น

เรื่องอะไรที่ทุกคนภูมิใจที่สุดในชีวิตบ้าง? คุณเคยตั้งคำถามกับตัวเองไหม บางคนอาจจะประสบความสำเร็จมากมาย แต่กับรู้สึกไม่มีความภูมิใจในตัวเอง มักจะถามกับตัวเองว่า “ฉันดีพอหรือยังนะ” “ฉันรวยพอหรือยัง” หรือ “ฉันสวยหล่อพอหรือยังนะ” ทั้งหมดเกิดจากความคิดของเราทั้งสิ้น 

Morris Rosenberg นักจิตวิทยาได้อธิบายเกี่ยวกับ self esteem ความมั่นใจ หรือการนับถือในตัวเองไว้ว่า การเห็นคุณค่าในตัวเองหรือทัศนคติที่มีต่อตัวเอง อยู่ที่ว่าเราจะมองตัวเองดีหรือไม่ดีอย่างไร และ Adler & Stewart นักจิตวิทยา อีกท่านหนึ่ง ได้ให้ความหมายself esteem ไว้ว่าการมีความรู้สึกเห็นคุณค่าในตัวเอง ความพอใจในตัวเอง ชื่นชมและชื่นชอบตัวเอง และคนเราสามารถสร้าง self esteem ขึ้นมาใหม่ได้ เพียงเปลี่ยนความคิดเราจะมั่นใจในตัวเองมากยิ่งขึ้น วันนี้เราจึงอยากชวนทุกคนกลับมาย้อนคิด ทำความเข้าใจและเป็นกระจกสะท้อนตัวเองว่าเรามี self esteem มากพอแล้วหรือยัง ˙

self-seteem ต่ำเกิดจากอะไร

การที่มี self esteem ต่ำ เกิดได้จากหลายสาเหตุขึ้นอยู่กับตัวบุคคลว่าเคยประสบพบเจอสถานการณ์ใดมาก่อน ซึ่งเหตุการณ์เหล่านั้นอาจจะทำให้เราเป็นคนที่มีต่ำself esteem ก็เป็นได้ เช่น

การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น สิ่งนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญในการขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง ยิ่งในสังคมไทย บางคนถูกเปรียบเทียบมาตั้งแต่เด็กๆ อาจจะทำให้เราเกิดการเปรียบเทียบกับคนอื่นโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้ แต่ธรรมชาติของมนุษย์ เรามักจะเปรียบเทียบกับคนที่ดีกว่าเราเสมอ  

การเลี้ยงดูจากครอบครัว เช่น บางคนไม่อยากกลับบ้านเมื่อถึงเทศกาล เพราะจะถูกตั้งคำถาม ซึ่งในบางครั้งเราไม่อยากตอบ เพราะเป็นคำถามที่เราอาจจะรู้สึกแย่ เช่น ทำอะไรมาทำไมถึงอ้วนขึ้น ทำไมถึงผิวดำขึ้นหรือ ทำงานอะไร ได้เงินเดือนเท่าไหร่เมื่อไหร่จะแต่งงานเมื่อไหร่จะมีลูก ฯลฯ และเชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ 

เหตุการณ์ไม่ดีในอดีต อาจจะเกิดจากการบูลลี่ ทำให้เราขาดความมั่นใจ เสียความรู้สึก และไม่กล้าทำสิ่งต่างๆ เพราะกลัวว่าอาจจะทำให้กลับไปเจอเหตุการณ์นั้นอีก

เราเป็นคนที่มี Low self esteem กับ High self esteem กันแน่นะ

ลักษณะนิสัยของคนที่มี  low self esteem กับ high self esteem แตกต่างกันดังนี้

เราเป็นคนที่มี Low self esteem กับ High self esteem กันแน่นะ

 Low Self Esteem

• เห็นว่าคนอื่นดีกว่าเสมอ
• ยึดติดกับความสมบูรณ์แบบ
• มีทัศนคติในแง่ลบ
• ชอบคิดว่า “ฉันทำไม่ได้”
• ไม่มีความมั่นใจ
• กลัวความล้มเหลว

High Self Esteem

• ไม่คิดว่าตัวเองดีหรือด้อยกว่าใคร
• มั่นใจในตัวเอง
• เห็นคุณค่าของตัวเองและผู้อื่น
• กล้าแสดงความคิดเห็น
• กล้าที่จะปฏิเสธ
• อยากทำชีวิตตัวเองให้ดีขึ้น

self-seteem สร้างได้ด้วยตัวเอง

ไม่ว่าคุณจะมีนิสัยเป็นอย่างไร เราทุกคนสามารถเพิ่ม self esteem ให้ตัวเองได้ ด้วยวิธีดังต่อไปนี้ 

ชื่นชมตัวเอง

ชื่นชมตัวเอง ในเวลาที่เรา ทำอะไรสำเร็จหรือทำบางสิ่งได้ดี ถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม จะทำให้เราภูมิใจในตัวเองเพิ่มมากขึ้น

รู้จักปฏิเสธให้เป็น

การมีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่นเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าหากเขาเห็นว่าเราใจดี แล้วไม่มีความเกรงใจ คอยแต่จะเอาเปรียบ เราก็ควรปฏิเสธให้เป็น อย่าให้คุณค่าในตัวเราไปผูกติดกับคนอื่น

ก้าวออกจาก Comfort Zone ของตัวเอง

ลองก้าวออก Comfort Zone ของตัวเอง ลองหาโอกาสใหม่ๆ ให้กับตัวเองได้ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่ท้าทายหรือเรื่องที่กลัว ถ้าหากเราสามารถทำได้ หรืออดทนผ่านมันไปได้จะทำให้เราภูมิใจในตัวเองมากขึ้น

หยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น

การเปรียบตัวเองกับคนอื่น เหมือนดาบสองคม หากมองคนอื่นแล้ว อยากเป็นแบบนั้นบ้าง แล้วมาพัฒนาตัวเอง ให้เหมือนกับเขา นั้นเป็นเรื่องที่ดีแต่ถ้าหากเปรียบเทียบกับคนอื่นแล้ว นำมาลดคุณค่าในตัวเอง ทำให้รู้สึกว่าเราขาดความเชื่อมั่นได้ ดังนั้น เราไม่ควรเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น 

รู้จักรักษาสมดุลชีวิต

จัดสรรเวลาในชีวิตให้เป็น แบ่งเวลาใช้ชีวิตกับเวลาทำงาน แวะไม่ว่าเราจะทำงานหรือใช้ชีวิต คุณต้องภูมิใจกับเรื่องเล็กๆ ที่เราทำได้  

พูดกับตัวเองในแง่บวก

ลองเปลี่ยนพูดกับตัวเองในแง่บวก ไม่ว่าคุณจะทำอะไรจงบอกตัวเองเสมอว่าคุณทำได้ เช่น อาจจะพูดกับตัวเองในกระจก เธอทำมันได้อยู่แล้ว

ปล่อยวางความคิดลบ

หากใครมาพูดบั่นทอนความมั่นใจของเรา ให้ปล่อยคำพูดนั่นไปให้เหมือนสายลมที่พัดผ่านและหันมาโฟกัสในสิ่งที่จะทำเรา 

ไม่มีใครทำให้เรามีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นได้ นอกจากตัวเราเอง

ความเชื่อใจสร้างขึ้นมาได้จากการที่เราต้องเชื่อมั่นในตัวเองก่อน เพราะหากเรามีความเชื่อมั่น ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม สุดท้ายจะทำให้เราทำมันสำเร็จเสมอ เพราะต่อให้จะล้มเหลวอีกสักกี่ครั้ง เราจะทำมันจนกว่าจากสำเร็จ เพราะเราเชื่อมันว่าจะทำได้

Self-seteem สร้างขึ้นได้ด้วยตัวเองเรา ไม่มีใครทำให้เราเชื่อมั่นได้นอกจากตัวเราเอง และไม่ว่าเราจะเชื่อมั่นในตัวเองหรือไม่ ท้ายที่สุดแล้ว เราจะเป็นกระจกสะท้อนตัวเองที่ดีที่สุด หากเราเห็นคุณค่าในตัวเอง นับถือตัวเองและความมั่นใจ เมื่อเราเปลี่ยน Mindset ให้เป็นมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ความคิดเราจะเปลี่ยนไปทางที่ดีขึ้นเช่นกัน


sources

https://www.verywellmind.com/why-it-s-important-to-have-high-self-esteem-5094127 

https://www.youdee.redcross.or.th/post/self-esteem-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3 

https://www.betterup.com/blog/how-to-improve-self-esteem 

https://thestandard.co/podcast_tag/self-esteem/ 

https://positivepsychology.com/self-esteem/

Related Articles

pet sick

เพราะการใส่ใจ คือ การมอบความรักให้สัตว์เลี้ยง มาสังเกตดูว่า “น้องหมา-น้องแมว” สบายดีอยู่หรือเปล่านะ?

ทุกคนเคยสงสัยไหมคะว่าเราจะรู้ได้ยังไงว่าน้องหมา น้องแมว ที่เรารักนั้นกำลังไม่สบายอยู่หรือเปล่านะ? เพราะน้องหมา น้องแมว บอกเราไม่ได้เราจึงต้องสังเกตอาการสัตว์เลี้ยงอย่างใส่ใจ ว่าสัตว์เลี้ยงของเรานั้นมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปยังไง หรือมีอาการผิดปกติอะไรที่แสดงออกมาทางร่างกาย เพื่อที่เราจะได้พาพวกเขาไปรักษาได้อย่างเร็วที่สุดค่ะ สุขภาพของน้องหมา น้องแมวเป็นเรื่องที่สำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม หากน้องหมาที่คอยวิ่งออกมาส่งเมื่อเราจะออกจากบ้าน หรือมานั่งรอกระดิกหางหน้าบ้านเมื่อเรากลับมาไม่มานั่งคอยเหมือนเดิม น้องแมวที่คอยมาอ้อน คลอเคลียเรา กลับเงียบซึมไม่มาหาเหมือนเคย บางครั้งเราอาจจะคิดว่าน้องหมา น้องแมวขี้เกียจ หรืออารมณ์ไม่ดีหรือเปล่านะ เดียวก็หายแล้วกลับมาสดใสร่าเริงเหมือนเดิม

Food Coma

“หนังท้องตึง หนังตาหย่อน” “Food Coma” อาการง่วงนอนหลังรับประทานอาหารเสร็จ

ไหนใครมีอาการแบบนี้บ้าง ง่วงหลังทานอาหารเสร็จแต่เราต้องกลับมานั่งทำงาน กลับมาเรียนต่อในตอนบ่าย ต้องกินชา กินกาแฟ เป็นตัวช่วยให้ตาสว่าง กลับมารู้สึกกระปรี้กระเปร่าอีกครั้ง หลายคนอาจสงสัยว่าที่เรามีอาการเช่นนี้เพราะเราขี้เกียจหรือเปล่านะ? แต่แท้จริงแล้ว อาจจะเป็นเพราะเรากินอาหารที่มีแป้งและไขมันมากเกินไป รวมถึงกินอิ่มมากเกินไปจึงทำให้เรารู้สึกง่วงนอนนั่นเองค่ะ  อาการนี้เขาเรียกกันว่า “Food Coma” หรือการง่วงหลังจากรับประทานอาหารเสร็จหากฟังดูอาจจะดูเหมือนเป็นอาการที่อันตราย แต่แท้จริงแล้ว อาการนี้ไม่เป็นอันตราย แต่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำงาน การเรียน สุขภาพ

White Lies

White Lies โกหกตัวเองและผู้อื่นวันนี้เพื่อความสบายใจ แต่ส่งผลกระทบต่อจิตใจอย่างไม่คาดคิด

อย่าโกหกตัวเองเพื่อรักษาความรู้สึกคนอื่น เพราะความรู้สึกของเราสำคัญไม่แพ้ใคร ทุกคนเคยโกหกตัวเองว่ามีความสุขเพื่อให้คนอื่นสบายใจไหมคะ? หลายครั้งที่เราโกหกตัวเองว่าเรายังไหว ไม่เป็นไรแค่นี้สบายมาก เราพูดกับตัวเอง “ฉันโอเค” “ฉันมีความสุข” พยายามหลอกตัวเองให้คิดแบบนั้น เพื่อที่จะแสดงออกมาให้คนอื่นเห็นว่า “”ฉันไม่เป็นไร” ทั้งที่ภายในใจแตกสลายและรับอะไรแทบจะไม่ไหวอีกแล้ว แต่เราพยายามยิ้ม พยายามหัวเราะ และบอกคนอื่นว่าไม่เป็นไร เพียงเพราะไม่อยากเป็นภาระผู้อื่นและเพื่อให้คนรอบข้างของเรารู้สึกสบายใจ  การกระทำเช่นนี้เรียกว่า “การโกหกสีขาว” หรือ  “White