ช่วงนี้กระแสแฟชั่น กางเกงช้าง กำลังมากแรงมาก จนเรียกได้ว่าแทบจะเป็นไอเทมที่หลายคนมีติดตู้เสื้อผ้ากันเลย แต่ทั้งที่มีมาก็นานแล้ว ทำไมถึงเพิ่งมีกระแสฮิต? แล้วอะไรที่เป็นจุดเริ่มต้นของ Soft Power นี้ มาหาคำตอบไปพร้อมกันเลยค่ะ
จุดเริ่มต้น Soft Power กางเกงช้าง
อาจเป็นเพราะ อิทธิพลจากทั้งไอดอลเกาหลี บุคคลที่มีชื่อเสียงจากต่างประเทศ และอินฟลูเอนเซอร์ ทั้งหลายที่ปรากฎในหน้าสื่อและคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย ที่เป็นแรงกระตุ้นให้เกิด Soft Power เหมือนช่วงหนึ่งที่ ลิซ่า แบล็กพิงค์ ไปกินอะไร หรือแต่งตัวสไตล์ไหนก็จะได้รับความนิยมจนเป็นเทรนด์ที่มาแรงแบบสุดๆ ทั้งร้านอาหารที่ไปกิน ก็มีคนต่อคิวรอยาวเหยียด หรือสินค้าที่เป็นพรีเซนเตอร์ก็ขายดี Sold Out ไปก็มาก กรณีกางเกงช้างนี้ก็อาจจะคล้ายๆ กัน
ความโดดเด่นที่เคยถูกมองข้าม
หากถามถึง ต้นกำเนิดของกางเกงช้าง จริงๆ ก็ยังหาที่มาแน่นอนไม่ได้ ส่วนใหญ่เมื่อก่อนเราจะเห็นได้บ่อยๆ ตามแหล่งเที่ยวที่เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ อย่างเช่น ถนนข้าวสาร เชียงใหม่ พัทยา และภูเก็ต
ด้วยผ้าเนื้อนุ่ม ใส่สบาย และระบายอากาศได้ดี เหมาะกับเมืองร้อนมากๆ และมีตัวเลือกหลากหลาย ทั้งลาย สี และยังเป็นสินค้า Unisex สามารถใส่ได้ทุกเพศทุกวัย เพราะส่วนใหญ่มักทำเป็นขนาด Oversize มีทั้งของเด็กและผู้ใหญ่ อีกทั้งราคายังไม่แพงมาก เริ่มต้นที่ประมาณ 100 บาท (แต่ถ้าเป็นลายที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ หรือ สินค้า Limited ก็อาจจะมีราคาที่สูงหน่อย) อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้กางเกงช้างได้รับความนิยมกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
กางเกงช้าง Made in Thailand หรือ Made in China
บอกเลยว่าแยกออกได้ค่อนข้างยากมากๆ ถ้าไม่สังเกตจริงๆ พลิกป้ายดู หรือพลิกแล้วก็อาจจะไม่รู้เลย เพราะกางเกงช้างนั้นมีหลากหลาย ทั้งลาย สีสัน และรูปทรง อย่างไรอาจจะลองดูได้ที่ป้ายแท็กเป็น Made in Thailand สนับสนุนของไทยส่งเสริมให้รายได้กระจายสู่ร้านค้า ชุมชน ท้องถิ่นไทยค่ะ
กางเกงช้างที่ไม่ได้มีแค่ช้าง
#คนไทยแปลว่าอิสระ ปัจจุบันกางเกงช้างได้ถูกต่อยอดโดยการเล่าความเป็นอัตลักษณ์ของชุมชน ท้องถิ่น หรือจังหวัด ผ่านการออกแบบลวดลายบนกางเกง ซึ่งมีทั้งความสวยงาม ตลก น่ารัก และน่าสะสมเก็บไว้เป็นที่ระลึก
ส่วนใหญ่ลายพิเศษเหล่านี้จะเปิดจำหน่ายในรูปแบบการ Pre – Order ซึ่งยอดจองก็ถล่มทลายและขายหมดอย่างรวดเร็ว
อาทิ
- กางเกงไก่ชน พิษณุโลก
- กางเกงขายหัวเราะ
- กางปล้าง plaplatootoo (ปาป้าทูทู่)
- กางเกงคาปิบาร่าแห่งสวนสัตว์เขาเขียว
- กางเกงนนทบุเรี่ยน
รวมถึงอีกมากมายที่เป็นลายประจำท้องถิ่นหรือจังหวัดที่ค่อยๆ ทยอยเปิดตัวให้ชมกัน
ไปให้สุดหรือหยุดแค่เทรนด์ชั่วคราว
อาจเรียกว่า กางเกงช้าง เป็นหนึ่งใน Soft Power ที่มีอัตลักษณ์ของท้องถิ่น จังหวัด และประเทศในหลายมิติ ผ่านการส่งต่อไอเดียอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งถ้าได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องตามกลไกธรรมชาติที่สร้างแรงกระเพื่อมดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาสนใจเอง ไม่ต้องฝืนหรือกำหนดกรอบมากเกินไป พร้อมกันนั้นก็ค่อยๆ กระตุ้นให้เติบโต มีการควบคุมคุณภาพ เพื่อให้กลายเป็นหนึ่งในธุรกิจสร้างสรรค์ สร้างโอกาส รายได้ และอาชีพให้กับคนในท้องถิ่น พ่อค้าแม่ขาย ไปจนถึงระดับประเทศได้เลย
อย่างไรก็ดีคงจะน่าเสียดายมากๆ ถ้าวันหนึ่งกระแสของกางเกงช้างจะกลับไปสู่ยุคที่ขายอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยว ได้รับความนิยมเฉพาะกลุ่ม เพราะนาทีนี้ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “กางเกงช้าง” สามารถต่อยอดและเพิ่มมูลค่าได้