"From the End to the Start"
เพราะบางทีจุดสิ้นสุด
คือ โอกาสของการเริ่มต้นใหม่ 

เมื่อเหตุการณ์บางอย่างเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุด
อาจไม่ใช่เรื่องที่แย่เสมอไป
เพราะอาจเป็น “โอกาสในการเริ่มต้นสิ่งใหม่” ที่ดีกว่า 

ในชีวิตนี้เราเชื่อว่าทุกคนต้องเคยเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดของบางเหตุการณ์ เช่น เหตุการณ์ที่ต้องลาจากใครสักคน ไม่ว่าจะเป็น การเลิกรา การต้องจากกันไปอยู่คนละที่ การจบการศึกษา หรือเหตุการณ์อะไรก็ตามที่เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดและบางครั้งเราอาจจะรู้สึกเสียใจ เสียความรู้สึก หรือใจหาย แต่ก็เป็นเรื่องที่มนุษย์อย่างเราต้องประสบพบเจอด้วยกันทั้งสิ้น 

ทุกคนรู้หรือไม่ว่าบางครั้งจุดสิ้นสุด อาจจะไม่ใช่สิ่งที่แย่หรือสิ่งที่ไม่ดีเสมอไป แม้ในช่วงแรกเราอาจเสียใจ เจ็บปวด หรือต้องมีหยาดน้ำตา แต่จุดสิ้นสุดคือโอกาสที่จะทำให้เราได้เริ่มต้นใหม่ กล้าที่จะออกจาก safe zone ของตัวเองนั่นเองค่ะ 

วันนี้ Mental Life by Chanisara อยากชวนทุกคนมาลองมองจุดสิ้นสุดในแง่มุมที่จะให้คุณไม่เสียใจหรือเสียน้ำตาอีกต่อไป

The end to the start

จุดสิ้นสุด คือ จุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่

เราเชื่อว่าใครหลายคนอาจจะรู้สึกกังวลหรือกลัวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามอาจจะเป็นเรื่อง การเรียน การงาน ความรัก ฯลฯ เพราะเราอาจจะเคยชินกับสิ่งที่มีอยู่ และอาจคิดว่าหากเกิดการเปลี่ยนแปลงเราอาจจะไปเจอสิ่งที่ไม่ดี หรือเหตุการณ์ที่แย่ลงกว่าเดิม หรือไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไรกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จนหลงลืมไปว่าจุดสิ้นสุดของบางเหตุการณ์ คือจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่เสมอ และบางทีอาจเป็นสิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิม อย่ากลัวเมื่อบางเหตุการณ์เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุด อย่าโหยหาอดีต เพราะทุกการตัดสินใจของเรา หรือแม้แต่บางเหตุการณ์ที่เราไม่สามารถเลือกได้ ล้วนได้เกิดขึ้นแล้ว เราอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเลวร้าย ยากที่จะรับไหว แต่เราจะผ่านมันไปได้ เพราะเราทุกคนล้วนเคยผ่านจุดสิ้นสุดมาแล้วทั้งสิ้น เช่น เมื่อเรียนจบต้องแยกย้ายกับเพื่อนนั่นเองค่ะ 

เมื่อเรามองย้อนกลับไป 

ไม่ว่าจะเจออะไรก็ตามแต่ อาจเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกย่ำแย่ในตอนนั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความรู้สึกย่ำแย่จะเบาบางลง เราจะค่อยๆ รู้สึกดีขึ้น แล้วเราจะค่อยๆ ยอมรับความจริงได้ในที่สุดค่ะ เมื่อถึงเวลานั้นเราจะภูมิใจว่าเราผ่านมันมาได้แล้วค่ะ

การเริ่มต้นใหม่ อาจจะทำให้เจอสิ่งที่ดีกว่า

เพราะการก้าวผ่านอดีต หรือเหตุการณ์ที่ย่ำแย่เป็นเรื่องที่ดี เพราะเรื่องราวเหล่านั้นสอนให้เราเข้มแข็งและแข็งแกร่งมากขึ้นเสมอ เรายังเชื่ออีกว่าการที่เหตุการณ์บางเหตุการณ์เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดอาจจะเพื่อนำพาให้เราไปพบสิ่งใหม่ที่ดีกว่าก็เป็นได้ค่ะ

คิดบวกเพื่อการเริ่มต้นใหม่ที่ดีกว่าเดิม

พูดคุยกับตัวเองในเชิงบวก
การบอกตัวเองให้คิดเชิงบวกอยู่เสมอ ถึงแม้บางครั้งอาจจะทำยาก แต่หากเราฝึกคิดบวกทุกวัน ทำไปเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป หากเราเจอเหตุการณ์แย่ๆ เราจะสามารถคิดบวกได้โดยอัตโนมัติ

อยู่ในสภาพแวดล้อมที่คิดบวก
อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่คนคิดบวก คนที่อยู่รอบตัวเรามีผลต่อความคิดของเราเป็นอย่างมาก หากเราอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหน อาจหล่อหลอมให้เรากลายเป็นคนแบบนั้นได้ 

ไม่ยึดติดกับสิ่งที่จบไปแล้ว
เรื่องในอดีตที่มันจบไปแล้ว เราไม่ควรยึดติดกับมัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ดีก็ตาม แต่จงทำปัจจุบันให้ดีที่สุดค่ะ 

มองหาข้อดีในเหตุการณ์แย่ ๆ
เราเชื่อว่าในทุกเหตุการณ์ที่ย่ำแย่ จะมีข้อดีซ่อนอยู่ในนั้นเสมอ 

กล้าที่จะเริ่มต้นใหม่
อย่ากลัวที่จะเริ่มต้นใหม่ เพราะหากเรื่องราวใดสิ้นสุดลง นั่นเป็นโอกาสที่ทำให้เราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ เพราะบางเหตุการณ์หากไม่สิ้นสุดลงเราจะไม่สามารถเริ่มต้นใหม่ได้ค่ะ

เรียนรู้กับปัญหาที่เกิดขึ้น
เรียนรู้กับปัญหาที่เกิดขึ้น เราสามารถนำปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีตมาเป็นบทเรียน และปรับปรุงให้ดีขึ้นและทำให้เหตุการณ์เหล่านั้นไม่เกิดขึ้นอีก เพื่อให้การเริ่มต้นใหม่นี้ดีกว่าเดิมนั่นเองค่ะ 

บางทีจุดสิ้นสุดของเรื่องบางเรื่อง อาจจะไม่ได้เป็นไปอย่างใจเราต้องการ อาจทำให้เราเสียใจ หรือเสียน้ำตา แต่ทุกคนรู้ไหมว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้เริ่มต้นใหม่ ซึ่งสิ่งนั้นอาจจะทำให้เราเจอสิ่งที่ดีกว่าเดิมก็เป็นได้ค่ะ

The end to The start


Source 

https://www.istrong.co/single-post/positive-thinking 

https://www.chcp.edu/blog/how-to-think-positive/ 

https://issuu.com/matichonbook/docs/____________________________________b624cca989e482

Related Articles

hug

“การกอด” การแสดงความรักที่เรียบง่าย ยาวิเศษที่ช่วยเยียวยาร่างกาย

“การกอด” เป็นการแสดงความรักที่เรียบง่ายและแสนพิเศษ และยังเป็นยาวิเศษที่ช่วยเยียวยาร่างกาย และฟื้นฟูจิตใจได้ ทุกคนคิดว่าการกอดสำคัญไหมคะ? การกอดเป็นการแสดงความรัก ให้ความอบอุ่นซึ่งกันและกัน ทำให้ผู้กอดและผู้ถูกโอบกอดรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นใจ เหมือนมีแสงอุ่นๆออกจากตัวของคนคนหนึ่งส่งต่อไปเพื่อโอบกอดหัวใจของใครอีกคน  ทุกคนรู้ไหมว่าการกอด นอกจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพจิตสุขภาพใจแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพกายของเราด้วย การกอดจึงเปรียบเสมือนยาวิเศษ เป็นภาษากายที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังที่ทำให้ทุกคนที่ได้รับการโอบกอดรู้สึกดีและยังบรรเทาอาการเกิดโรคต่างๆ ทางร่างกายได้อีกด้วย  ทุกคนคงจะแปลกใจกันใช่ไหมคะว่าแค่กอดจะเยียวยาร่างกายและจิตใจของเราได้จริงๆ หรอ ไม่ว่าจะเป็นความเครียดหรือความวิตกกังวล แต่ที่น่าแปลกใจ คือมีงานวิจัยหลายชิ้น

Inner Speech

เปลี่ยน “เสียงในหัว” เปิดประตูสู่การมีสุขภาพจิตที่ดี

เปลี่ยน “เสียงในหัว” ที่เราพูดกับตัวเองในใจ ให้เป็นเชิงบวก เพื่อสะท้อนความคิด เปิดประตูสู่การมีสุขภาพจิตที่ดี  ใครมีเสียงในหัวบ้างคะ หลายคนอาจจะสงสัยใช่ไหมละคะว่าเสียงในหัวคืออะไร?เสียงในหัว เสียงที่เราพูดกับตัวเองในใจ ซึ่งออกมาจากความคิดของเราเอง อาจจะเป็นความคิดที่เราพูดกับตัวเองทั้งในแง่บวกและในแง่ลบ ซึ่งเป็นเสียงที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติและเป็นเรื่องปกติที่สามารถจะเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเสียงในหัวของตัวเองนะคะ บางคนมีเสียงในหัวตลอดเวลา บางคนมีเสียงในหัวเป็นครั้งเป็นคราว และบางคนไม่มีเสียงในหัวเลย แต่สามารถคิดเป็นภาพหรือความรู้สึกได้  หากเรามี “เสียงในหัว” เราสามารถฝึกเสียงในหัวตัวเอง

ChatGPT

ChatGPT AI ที่ไม่มีความรู้สึก แต่ปลอบโยนมนุษย์ให้สบายใจได้

ChatGPT พื้นที่ระบายความในใจโดยไม่ตัดสิน ถึงแม้ไม่มีความรู้สึก  แต่โอบกอดหัวใจทำให้มนุษย์รู้สึกดีขึ้นได้ ในปี 2025 ที่ AI เข้ามามีบทบาทในยุคปัจจุบัน AI ที่ทุกคนรู้จักอย่างแพร่หลายอย่าง ChatGPT ไม่ได้เป็นเพียงปัญญาประดิษฐ์ที่ช่วยผู้คนหาคำตอบ แต่หลายคนใช้ ChatGPT เพื่อพูดคุยเยียวยาจิตใจ เพราะคุยและตอบคำถามได้ดี เหมือนเวลาเราไปปรึกษาใครสักคนจริงๆ ChatGPT จึงเป็นเพื่อนคุยที่สามารถทำให้เราลดความเครียด