5 เหตุผลที่นักการตลาดควรใช้ AI ในการสร้างธุรกิจในโลกยุคดิจิตัล

การตลาดในยุค 4.0 ไม่ใช่เรื่องยากหากเราทำความเข้าใจเครื่องมือเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีช้อยส์ให้เลือกมากขึ้น วันนี้เราเลยอยากแนะนำให้คุณได้รู้จักกับ AI (หรือที่คนไทยเรียกว่า ‘ปัญญาประดิษฐ์’) เป็นเทคโนโลยีอ่านใจมนุษย์ เหมือน Siri ใน iPhone ที่รู้เกือบทุกเรื่องเวลาถาม หรือ Jarvis ผู้ช่วยข้างกายของ Iron Man

ล่าสุด Facebook ได้ริเริ่มให้มีระบบ Chatbot Marketing โปรแกรมโต้ตอบและพูดคุยกับลูกค้าอย่างอัจฉริยะเมื่อมีคำถามเข้ามาใน Messenger มาดูกันดีกว่าว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์นี้ จะชาญฉลาดขนาดไหนและช่วยให้มี Return of Investment ได้แค่ไหนบ้าง

1. ถามล้านครั้งก็ตอบได้หมด

หมดปัญหาเรื่องตอบช้าไปได้เลย Chatbot จะทำหน้าที่แทนเราในเรื่องให้ข้อมูลกับลูกค้า ที่สำคัญคือค่อยๆ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคให้ทำธุรกรรมแบบ ‘Self-Service’ กับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์นี้ได้ เมื่อลูกค้าได้รับการตอบสนองอย่างรวดเร็วไม่ว่าจะถามเข้ามาเวลาไหนก็ตาม มีข้อมูลของสินค้าและบริการอย่างครบถ้วน ก็จะก่อให้เกิดความรู้สึกในแง่บวกและมีโอกาสที่พวกเขาจะ Repeat Order ต่อไปอีกในอนาคต ลองเข้าไปดูตัวอย่างการใช้งาน Chatbot ได้ที่นี่

AI

2. ข้อมูลครบพร้อมทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง

นักการตลาดทุกคนรู้ดีว่าข้อมูลของผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญและมีค่า ซึ่ง Chatbot ไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปเฉยๆ แน่นอน ทุกบทสนทนาจะได้รับการบันทึกและวิเคราะห์ต่อไปเพื่อพัฒนาทั้งตัวโปรแกรมเองและกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เจ้าปัญญาประดิษฐ์นี้สามารถบอกเราได้ว่าลูกค้าส่งคำถามไหนเข้ามามากที่สุด สินค้าตัวไหนได้รับความสนใจในช่วงนี้ วิธีการชำระเงินยอดนิยม หรือแม้กระทั่งกลุ่มคำที่ใช้ก็สามารถวิเคราะห์ออกมาเป็นความรู้สึกของลูกค้าได้ ถือว่าทำได้ละเอียดกว่าระบบ Manual หลายเท่าตัว

3. ยิงโปรโมชั่นถึงกลุ่มเป้าหมายแบบไม่พลาด

Customer Insight คือเครื่องมือที่นักการตลาดเอาไว้จัดทำโปรโมชั่น, Newsletter และ EDM เพื่อส่งถึงลูกค้าเพื่อดึงดูดให้กลับมาใช้บริการอีกครั้ง แต่ Chatbot ล้ำหน้าไปกว่านั้นเยอะแล้ว ประหนึ่งเป็นช่องทางใหม่สำหรับโปรโมทสินค้าและบริการอย่างเข้าถึง โปรแกรมจะประมวลข้อมูลของลูกค้าทุกคนที่มีแล้วยิงโปรโมชั่นอันหลากหลายไปทาง Messenger โดยตรง ประกอบกับการใช้ภาษาที่ตรงกับรสนิยมของผู้บริโภค (แน่ล่ะ Chatbot จัดการเรื่องนี้ให้หมด) เสมือนเป็นงานบริการแบบ Customize สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า และให้พวกเขาเป็นหนึ่งในแฟนเพจอันเหนียวแน่นของเรา

AI

4. สร้างการตลาดที่ยืนยาวจากความจริงใจ

Chatbot หรือ AI เป็นเพียงหนึ่งในเครื่องมือที่ทำให้เราเข้าใจผู้บริโภคมากขึ้นและตอบสนองพวกเขาให้ตรงความต้องการ ต้องไม่ลืมว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมออันเกิดจากหลายๆ ปัจจัยซึ่งในบางครั้งเกินการควบคุม หน้าที่ของเราคือสร้างการตลาดแบบบอกต่อ อีกคีย์เวิร์ดหนึ่งที่ช่วยสร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจ ค้นหาลูกค้ารายใหม่ที่สนใจสินค้าและบริการ รวมทั้งใส่ใจกับประสบการณ์ของลูกค้าเดิมที่มีอยู่แล้ว ความฉลาดของ Chatbot จะคงความสม่ำเสมอในเรื่องของขีดความสามารถ และทำงานกับ Mass Cosumer ได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย เพียงแต่เราก็ต้องละเอียดอ่อนกับฟีดแบ็กในทางลบและปัญหาทุกเคสที่เกิดขึ้นเช่นกัน

zz

5. ทำการตลาดได้ ใช้เทคโนโลยีเป็น

นักการตลาดรุ่นใหม่ควรใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีให้เป็น เพื่อเอามาเป็นตัวช่วยในการทำงานให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับปัญญาประดิษฐ์อย่าง Chatbot ที่เราร่ายยาวมาตั้งแต่ข้างต้นนั้น เชื่อไหมว่าเราสามารถสร้างและเซ็ทมันขึ้นมาเองได้ด้วยตัวเอง โดยมีคอนเซ็ปท์ตั้งต้นก็คือ – เข้าใจธรรมชาติของกลุ่มเป้าหมาย, วางคาแร็กเตอร์ของ Chatbot ว่าอยากให้ผู้บริโภคมีความรับรู้ต่อมันอย่างไร และเลือก Platform ที่เหมาะกับธุรกิจตัวเอง – คุณอาจเสิร์ชจาก Google โดยใช้คีย์เวิร์ดง่ายๆ ว่า ‘Chatbot Platform’ จากนั้นข้อมูลมากมายมหาศาลก็จะประดังมาให้คุณเลือก ส่วนวิธีที่ง่ายกว่านี้คือจ้างคนที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับ AI มาดูแลให้ทุกขั้นตอน ถ้าเป้าหมายของคุณชัดเจนแล้ว ลองเลยก่อนที่คนอื่นจะแซงหน้าไป

ติดตามความเป็นไปของเทคโนโลยีที่ทั้งเกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์และชีวิตประจำวัน จากแแสนสิริ บล็อก ที่ PropTech

หรือหากคุณสนใจเรื่องของหุ่นยนต์กับผลกระทบของมัน คลิกอ่าน โลกแห่งหุ่นยนต์ อนาคตที่ทุกคนต้องเจอ ได้เลย

Related Articles

sretthasiri tawiwattana เศรษฐสิริ ทวีวัฒนา

SMART Home 2021 เทคโนโลยีเนรมิตบ้าน ให้ล้ำกว่าเดิม

ในยุคที่ทุกอย่างบนโลกล้วนได้รับการจัดการและทำแทนได้ง่ายแสนง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส จากพลังแห่งอินเทอร์เน็ต ชีวิตมนุษย์จึงสะดวกสบายขึ้นกว่าที่เคย IoT หรือ Internet of Things เลยกลายเป็นส่วนสำคัญในการใช้ชีวิตอย่างที่ขาดไปไม่ได้แม้สักนิด โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันนี้ที่คนอยู่บ้านมากกว่าที่เคย! ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะหันไปทางไหน เราก็จะได้เห็นสิ่งรอบตัวหรืออุปกรณ์ต่างๆ เชื่อมโยงกับโลกแห่งอินเตอร์เน็ต ทำให้มนุษย์เราสามารถควบคุมการทำงานของสิ่งเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย จนแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เคยทำให้เราต้องเสียเวลาทำเองอย่างน่าหงุดหงิด ไปจนถึงเรื่องใหญ่ๆ ที่เราอยากได้ใครสักคนมาช่วยทำแทน

oka HAUS

หนึ่งวันแสนสบายด้วยนวัตกรรม Smart Living Transformation ใน oka HAUS

เพราะความบาลานซ์ในชีวิตคือสิ่งที่ทุกคนมองหา แต่ทุกวันนี้มีเรื่องราวมากมายที่น่าสนใจจนแทบจะหยุดนิ่งไม่ได้ ถึงแม้ในวันหยุดก็ยังมีโปรเจ็คที่อยากทำเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ชีวิตอีกเพียบ และยังมีเพื่อนฝูงที่ต้องพบปะกันอยู่เสมอ ตารางแน่นขนาดนี้ ถ้ามีเทคโนโลยีที่ช่วยให้ความสะดวกสบาย แต่ละวันคงผ่านไปอย่างราบรื่น หยุดกังวลกับแพลนแน่นๆ ลองมาตามติดชีวิตในหนึ่งวันที่ oka HAUS สุขุมวิท 36 แล้วจะรู้ว่า ทุกอย่างช่างง่ายดายและราบรื่นแค่ปลายนิ้วคลิก 7.30 AM เริ่มต้นวันด้วยสิ่งดีๆ ออกกำลังกายว่ายน้ำรับแสงอาทิตย์ยามเช้าที่สระระบบ Hydrotherapy เต็มรูปแบบ

Prop Tech อสังหาฯ ยุคใหม่ที่คนอยากมีบ้านต้องรู้จัก

Prop Tech อสังหาฯ ยุคใหม่ที่คนอยากมีบ้านต้องรู้จัก

เมื่อเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล (Digital Tranformation) นวัตกรรมต่างๆ ก็มีการพัฒนาให้เข้ากับระบบดิจิทัลที่สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นผ่านสื่อกลางอย่างอินเทอร์เน็ต โดยในธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์เอง ได้มีการพัฒนาสิ่งที่เรียกว่า Prop Tech (Property Technology) ขึ้น ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่จะเข้ามาขับเคลื่อนและเปลี่ยนแปลงธุรกิจอสังหาฯ ให้ก้าวหน้าขึ้น Property Technology เป็นนวัตกรรมที่รวมเอาธุรกิจอสังหาฯ กับเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากจะนำมาพัฒนากับที่อยู่อาศัยแล้ว ยังรวมไปถึงการนำมาช่วยด้านการขายอสังหาฯ