5 ประสบการณ์ ที่สร้างสรรค์เพื่อลูกค้าโดยเฉพาะในโลกยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีมีความก้าวหน้าและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้มนุษย์ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีในการใช้ชีวิตมากขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับตนเองในการใช้ชีวิตประจำวันแต่ละวัน
รวมถึงบรรดาธุรกิจต่างๆ ที่ต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด และเทคโนโลยีก็เป็นตัวช่วยอันดับแรกๆ ที่บรรดาผู้นำทางธุรกิจเลือกใช้เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าและบริการ และเหล่านี้คือธุรกิจจากทั่วโลกที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมของตัวเอง
Textile : Zara
Zara แบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำที่ครองใจคนทั่วโลก โดย Zara มีวิธีการในการดำเนินการธุรกิจอยู่ 2 ข้อ คือ การให้ในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และการให้เร็วกว่าแบรนด์อื่น และในตอนนี้ Zara ที่ประเทศสเปนได้มีการนำเทคโนโลยีไปใช้เพื่อสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์ตัวเองด้วยการนำ iPad ไปติดตั้งในห้องแต่งตัว ซึ่งถ้าหากลูกค้าต้องการสินค้าชิ้นใดหรือไซส์ใดเพิ่มเติม ก็สามารถติดต่อพนักงานผ่าน iPad และพนักงานจะนำสินค้ามาให้ลูกค้าถึงห้องแต่งตัว แนวคิดการนำเทคโนโลยี iPad นี้มาใช้นั้นสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้า และยังเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าที่สามารถลองสินค้าได้จนกว่าจะเจอชิ้นที่ถูกใจที่สุด แน่นอนว่าการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้เป็นการสร้างมูลค่าให้กับสินค้ามากขึ้นในเชิงการบริการ รวมทั้งเป็นการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าให้กลับมาซื้อสินค้าจาก Zara ต่อไป
Food & Beverage : McDonald’s

McDonald’s เมื่อนึกถึงแฮมเบอร์เกอร์ ทุกคนจะนึกถึงแมคโดนัลด์
McDonald’s ร้านอาหารที่รวบรวมตำนานความอร่อยของหลากหลายรสชาติของแฮมเบอร์เกอร์ ที่ตอบสนองชีวิตเร่งด่วนของคนในยุคปัจจุบัน ถึงแม้ในปัจจุบันแมคโดนัลด์จะมีฐานลูกค้าจำนวนมากแล้ว แต่แมคโดนัลด์ยังไม่หยุดพัฒนาเพื่อเอาใจลูกค้าด้วยเทคโลยี touch screen kiosk ที่ลูกค้าสามารถรังสรรค์จานโปรดด้วยตัวลูกค้าเอง โดยลูกค้าจะสามารถเลือกความหนาของขนมปัง รูปแบบของชีส ผักที่จะใส่ในแฮมเบอร์เกอร์และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนั้นลูกค้าสามารถเช็คแคลอรี่ของอาหารที่สั่งได้อีกด้วย โดยฟังก์ชั่นนี้แมคโดนัลด์ออกแบบมาเพื่อลูกค้าในยุคปัจจุบันที่ดูแลรักษาสุขภาพ ยิ่งไปกว่านั้นแมคโดนัลด์ได้ติดตั้งแท็บเล็ตที่โต๊ะอาหาร ซึ่งลูกค้าสามารถเช็คอีเมลและเล่นเกมส์อย่างสบายใจระหว่างรออาหาร ทั้งสองเทคโนโลยีที่แมคโดนัลด์นำเสนอนั้นได้ออกแบบประสบการณ์แบบใหม่ในการรับประทานแฮมเบอร์เกอร์ และได้ใจลูกค้าไปเต็มๆ
Food & Beverage: Starbucks

Starbucks ร้านกาแฟที่ดึงดูดใจผู้ที่ชื่นชอบกาแฟทั่วทุกหนแห่งด้วยรสชาติเข้มข้นของกาแฟที่ผ่านการคั่วมาอย่างดี พนักงานที่ยิ้มแย้มเจ่มใส รวมถึงบรรยากาศของร้านที่ไม่เหมือนใคร และที่Starbucks ในย่านโซโห ของลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก็ได้มีการนำเทคโนโลยีเครื่องชงกาแฟแบบใหม่มานำเสนอให้แก่ลูกค้า โดยกาแฟที่ผ่านการชงนั้นด้วยวิธีนี้ จะทำให้ลูกค้าได้สัมผัสรสชาติกาแฟที่เข้มข้นและกลิ่นหอมที่มากขึ้นเป็นพิเศษ นอกจากการพัฒนาเครื่องชงกาแฟแล้ว Starbucks ยังมีการพัฒนา application ที่ชื่อว่า StarbucksReserve ซึ่งพนักงาน Starbucks จะใช้ยืนรอรับออเดอร์บนถนน St.Martin ในย่าน Soho โดยลูกค้าสามารถจ่ายเงินกับพนักงานได้ในทันที และเมื่อมาถึงร้านก็จะสามารถรับกาแฟได้ทันทีโดยไม่ต้องต่อแถวรอ การนำเทคโนโลยีนี้มาใช้นับว่าเป็นการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า และความประสิทธิภาพในการให้บริการของ Starbucks
Logistics: Hermes
อีกหนึ่งบริษัทที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักนั่นคือ Hermes ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศเยอรมนี ที่ให้บริการจัดส่งพัสดุให้กับลูกค้า ด้วยจำนวนพัสดุจัดส่งที่มีมากกว่าหนึ่งล้านชิ้นต่อวัน โดย 99% ของพัสดุที่ถูกจัดส่งไปนั้นถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัยและตรงเวลา นอกจากนี้ Hermes มีสาขาอยู่ในประเทศออสเตรีย อิตาลี จีน รัสเซียและสหราชอาณาจักรอีกด้วย แต่การพัฒนาของกลุ่มบริษัทนี้ยังไม่สิ้นสุด Hermes ได้มีการตัดสินใจลงทุนราว 18 ล้านยูโร เพื่อพัฒนาสแกนเนอร์พกพาและซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสามารถในการมองเห็นความปลอดภัยในการจัดส่งพัสดุ โดยการลงทุนในครั้งนี้ Hermes มีความตั้งใจที่จะพัฒนางานด้านโลจิสติกส์ ให้เป็นที่หนึ่งในการจัดส่งพัสดุ โดยที่ 100% ของพัสดุจะต้องถูกจัดส่งอย่างปลอดภัย
Real Estate: Sansiri

แสนสิริ หนึ่งในผู้นำทางด้านอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยซึ่งได้ร่วมมือกับ PropertyGuru.com เว็บไซต์สื่อกลางด้านการค้นหาอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของสิงคโปร์ เปิดตัวแอพพลิเคขั่น “ePropertyTrack” ที่นำเสนอ ความสามารถในการตรวจเช็คราคา การจอง การเช่า การซื้อหรือการเช่าซื้อบ้านและคอนโดของแสนสิริทุกโครงการโดยผ่านตัวแทน หรือ sales agent แบบนาทีต่อนาที 
โดยใน “ePropertyTrack” นี้มีฟังก์ชั่นหลักๆ อย่าง Live Unit Availability & Pricing – การแสดงรายการโครงการที่ต้องการนำเสนอขายพร้อมทั้งอัพเดทราคาขายแบบเรียลไทม์, Floor Plans Comparison – การเปรียบเทียบแผนผังห้องแบบ side by side, Registration of Interest – การจองรายการอสังหาฯ ที่ได้รับการเสนอขาย หลังจากผู้ซื้อแสดงความสนใจที่จะซื้อแบบเรียลไทม์, Interactive Site Plan, Perspective & Videos –การแสดงภาพโครงการแบบอินเตอร์แอคทีฟ หรือในรูปแบบ VDO, Nearby Amenities Map – การแสดงสิ่งอำนวยความสะดวกใกล้เคียงโครงการ ผ่านทางแผนที่ และ Virtual Tours – ให้ผู้ที่สนใจซื้อ ชมภาพห้องแบบ 360 องศา ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นกลยุทธ์เชิงรุกที่มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า
แม้หลายๆ ธุรกิจจะนำเทคโนโลยีมาใช้ปรับปรุงสินค้าและการบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน แต่อีกปัจจัยสำคัญก็คือความต่อเนื่องและไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาองค์กรในด้านอื่นๆ ด้วย ซึ่งหากองค์กรใดสามารถทำได้ ก็จะถือว่าเป็นการต่อยอดโอกาสทางธุรกิจในทิศทางที่ยั่งยืนและสามารถเก็บเกี่ยวผลลัพธ์ที่น่าพอใจได้ในที่สุด