เคยคิดกันไหมว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เราเจอกันอยู่ตอนนี้มันหนักขนาดไหน หากคิดไม่ออกก็ลองดูง่าย ๆ อย่างปัญหาขยะพลาสติก คุณรู้ไหมว่าพลาสติกชิ้นเก่าแก่ ที่เกิดพร้อมสงครามโลกครั้งที่สอง ณ ตอนนี้ก็ยังคงอยู่ในสภาพแข็งแรงท้าแดดฝน ไม่เสื่อมสลาย หรือมีทีท่าว่าจะแก่ชรา จนต้องพึ่งไม้เท้าเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วแบบนี้ความฝันที่จะมี ‘โลกสวย’ จะเกิดขึ้นได้อย่างไร
ในตอนนี้เรากำลังเจอกับปัญหาสิ่งแวดล้อมรอบตัว ซึ่งก็มาจากการใช้ชีวิตของเราเอง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาขยะล้นโลกที่มีปริมาณกว่า 6.9 ล้านตันทั่วโลก และในจำนวนนี้กว่า 6.3 ล้านตัน ไม่ได้ถูกแยกอย่างถูกวิธี ยังไม่รวมปัญหาตัดไม้ทำลายป่า ปัญหาขยะในทะเล ปัญหาการกำจัดขยะแบบผิด ๆ เช่น การเผา สุดท้ายกลายเป็นปัญหาใหญ่ ที่พันกันยุ่งเหยิงยิ่งกว่าสายไฟฟ้าที่ยังไม่ลงดิน ก่อตัวเป็นวิกฤตทางสิ่งแวดล้อม กระตุ้นให้เกิดภาวะโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ และที่สำคัญผลกระทบต่าง ๆ ยังส่งผลต่อพวกเราทุกคนด้วย
แต่ก็ใช่ว่าโลกเราจะหมดหวังไปซะทีเดียว เพราะข้อมูลจาก TREND 2019 NOW AGE: Manifesto and Action จากการศึกษาของ TCDC พบว่าในตอนนี้มีเทรนด์ใหม่ ๆ ของคนที่อยากจะลุกมาสร้างโลกสวย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ตามมาดูกันเลยว่ามีเทรนด์อะไรที่น่าสนใจบ้าง
The Age of Activism ไม่ใช่แค่ปากว่า แต่มือก็ถึง
ผู้คนต่างลุกขึ้นมาสู้ตามแนวความคิดและคุณค่าที่ตัวเองยึดถือ ที่ไม่ใช่เพียงด้านการเมือง เศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด้านสิ่งแวดล้อมด้วย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่คิดว่าการมี โลกสวย และน่าอยู่ สำหรับพวกเขาแล้วไม่ใช่ utopia อีกต่อไป แต่ต้องเริ่มจากการลุกขึ้นมาลงมือทำอะไรบางอย่าง เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
ภาพจาก U.S. Embassy & Consulates in Indonesia
อย่างประเทศอินโดนีเซียที่ไม่ไกลจากเรา ก็มีคนรุ่นใหม่วัยเยาว์แต่ความคิดก้าวไกลก่อตั้งบริษัท Bye Bye Plastic Bags ที่มีแคมเปญต่าง ๆ เพื่อมุ่งลดการใช้พลาสติก โดยสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่เป็นผู้ออกมาสร้างความเปลี่ยนแปลง
ภาพจาก a day magazine
หรือในประเทศไทยเองตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ก็เริ่มมีมาตรการที่จริงจังในการลดปริมาณขยะ รวมทั้งการแยกขยะที่ถูกต้อง อย่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็มีโครงการ Chula Zero Waste ที่มุ่งเน้นการสร้างลดปริมาณขยะในมหาวิทยาลัย โดยงดแจกถุงพลาสติกฟรีในร้านค้าภายในมหาวิทยาลัย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้ถุงผ้า เปลี่ยนไปใช้แก้วไบโอพลาสติก ที่ย่อยสลายได้ภายใน 4 เดือน ซึ่งได้รับความสนใจและความร่วมมือเป็นอย่างดี สามารถลดขยะได้กว่า 5.7 ตัน ในเวลา 4 เดือนที่เริ่มใช้ รวมทั้งยังสนับสนุนการนำภาชนะส่วนตัวมาใช้ เพื่อลดการสร้างพลาสติกใหม่อีกด้วย
Descendants in Decay เมื่อมูลค่าเกิดขึ้นได้จากความเสื่อมโทรม
ขยะกำลังล้นโลก และคำว่า “ล้น” ไม่ได้เว่อร์เกินไปจริง ๆ เพราะหากติดตามข่าวทุกวันนี้ นอกจากเราจะพบขยะบนบกแล้ว ขยะยังตามลงไปดำน้ำ กลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของเหล่าสิ่งมีชีวิตในทะเล และล่าสุดยังพบ microplastic ที่ร่วงหล่นมาจากฟากฟ้าอีกต่างหาก ดังนั้นแค่ลดการสร้างขยะอาจจะยังไม่พอ จึงเกิดแนวความคิดใหม่ ๆ ในการนำขยะมาเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งมีค่า หรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นในงานศิลปะ สถาปัตยกรรม หรือแม้กระทั่งวงการแฟชั่น
ภาพจาก Clean Waves
“แว่นตากันแดด Clean Waves” จึงเกิดจากความร่วมมือกันระหว่าง Corona และ Parley for the Oceans ด้วยแนวคิดการนำขยะมาสร้างเป็นของมีค่าอีกครั้ง โดยเจ้าแว่นตานี้ทำจากเศษขยะที่เก็บได้ตามชายฝั่ง เกาะ ใต้ท้องทะเล นอกจากนี้แบรนด์ชื่อดังอย่าง Adidas ก็ได้ร่วมมือกับ Parley ในการทำรองเท้าจากขยะด้วยเช่นกัน ถือเป็นอีกวิธีดี ๆ ที่จะช่วยให้เราเปลี่ยนขยะมาหมุนเวียนเป็นสิ่งมีมูลค่าอีกครั้ง
Transparent and Sustainable Luxury นิยามใหม่ของความหรูหรา
เมื่อค่าของสินค้าอยู่ที่คุณรักษ์โลกมากแค่ไหน ในยุคนี้มูลค่าของสินค้าไม่ใช่เรื่องของราคาอีกต่อไป แต่เป็นมูลค่าทางจิตใจ หรือทางสังคม จากการสำรวจของ Nielsen คาดการณ์ว่าตลาดของสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในอเมริกา มีแนวโน้มจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ และตื่นตัวมากโดยเฉพาะในกลุ่ม Millennial!
กลุ่มคนนี้จะยอมจ่ายมากกว่า เพื่อซื้อสินค้าที่เน้นความยั่งยืน เป็นสินค้าออแกนิค ใช้วัสดุหรือวัตถุดิบที่เป็นธรรมชาติ รับผิดชอบต่อสังคมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม หรือละทิ้ง Brand Loyalty เพื่อไปสนับสนุนสินค้าที่รักษ์โลกอีกด้วย
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เราจะเห็นว่า ในปีนี้จะมีบริษัทเกิดใหม่หรือองค์กรต่าง ๆ ลุกขึ้นมาร่วมสร้างโลกน่าอยู่ไปพร้อม ๆ กับคนรุ่นใหม่ด้วย อย่างโปรเจค Sansiri Green Mission ของแสนสิริที่มุ่งสร้างโลกสีเขียวให้เกิดขึ้นจริงเช่นกัน โดยเริ่มจากภายในองค์กรเอง ซึ่งมีพนักงานเป็นคนยุคใหม่กว่า 60% ที่มีความแอคทีฟ พร้อมให้ร่วมมือและขับเคลื่อนโปรเจคดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการงดใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง พกแก้วน้ำมาทำงาน แยกขยะภายในที่ทำงาน รวมทั้งเปลี่ยนเศษอาหารเป็นปุ๋ยแจกฟรีให้พนักงานด้วย รวมถึงมีการทำ workshop ให้พนักงานได้ไปเรียนรู้การปลูกผักออแกนิค ได้สัมผัสและใกล้ชิดความเป็นคนเจนกรีนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมกรีน ๆ ภายในโครงการต่าง ๆ ที่จะช่วยสร้างโลกสวยให้กับทุกคน
โลกไม่ได้เป็นแค่ของนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แต่เป็นของเราทุกคน ซึ่งก็ยังมีหวังว่าเทรนด์ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นโดยคนรุ่นใหม่จะเป็นกำลังสำคัญที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้ และความฝันที่เราจะมีโลกที่น่าอยู่ ก็คงไม่ไกลเกินเอื้อม