5 Quotes ที่จะเปลี่ยนคุณสู่ “บุคคลแถวหน้า” โดยสารคดี The Gospel According to André

ถ้าคุณเข้ามาอ่านบทความนี้ เพราะเป็นคนในวงการอสังหาฯ หรือเป็นแฟนคลับของแสนสิริ คงสงสัยว่าทำไมจู่ๆ เราถึงต้องมาพูดถึง icon สายแฟชั่นอย่าง Andre Leon Talley

เหตุผลแรก Andre Leon Talley คือผู้ทรงอิทธิพลแห่งวงการแฟชั่นของสหรัฐอเมริกา ที่แน่นอนว่า ถ้าคุณเกิดและเติบโต หรือเคยใช้ชีวิตในนิวยอร์คมาบ้างล่ะก็ คงกำลังคิดในใจว่าการแนะนำหรือเขียน introduction ในลักษณะนี้ เป็นการดูถูกชื่อเสียงของ Andre เป็นอย่างยิ่ง

เหตุผลที่สอง The Gospel According to Andre คือสารคดีอัตชีวประวัติที่ “รวบ” และ “รัด” ชีวิตที่ไม่ง่ายของการเกิดบังเอิญเกิดมาเป็นเกย์ผิวดำ ตัวสูงใหญ่ ชอบอ่านนิตยสาร Vogue และอาศัยอยู่ในเมืองขนาดกลางของมลรัฐนอร์ธ แคโรไลน่า

เหตุผลที่สาม (และเป็นเหตุผลที่สำคัญที่สุด) ก็คือ SIRI HOUSE Bangkok เฉลิมฉลอง Pride Month ในเดือนมิถุนายน และประเดิมอีเวนท์ “The House Cinema” การจัดฉายภาพยนตร์ประจำเดือนด้วย สารคดี The Gospel According to Andre นั่นเอง

แต่สำหรับผู้เขียน ทั้งสามเหตุผลข้างต้น ก็ยังไม่ใช่สาเหตุที่ตัดสินใจซื้อตั๋วราคา 550 บาท เข้าไปดูสารคดีเรื่องนี้ ที่สุดแห่งเหตุผลก็คือ อยากทำความรู้จักผู้ชายคนนี้ให้ดีมากยิ่งขึ้น ผู้ชายที่ยิงคำถามให้ Stefanía Fernández ตอบจนทำให้เธอคว้ามงกุฎนางงามจักรวาลปี 2009 แบบ back to back ต่อจาก Dayana Mendoza รุ่นพี่ชาวเวเนซุเอล่า

คลิกเพื่อดูการโต้ตอบและจริตที่น่ารักน่าหยิกของทั้งสองคน

หลังจากที่สารคดีจบลงสำหรับการฉายรอบบุคคลทั่วไป คืนวันอังคารที่ 11 มิถุนายน 2562 ต้องยอมรับว่าสารคดีดำเนินเรื่องเป็นไปตามขนบ ทั้งการปูเรื่องจากความยากจนข้นแค้น การถูกกระทำจากสังคม หน้าที่การงานที่ได้มาจาก Passion และการทำงานหนัก ความใส่ใจในรายละเอียด ไปจนถึงข่าวเม้าท์ข่าวฉาวที่ทำให้ได้เห็น Andre น้ำตาซึมอยู่หนึ่งซีน โชคดีที่ผู้กำกับไม่เลือกที่จะขยี้ซีนดังกล่าวจนทำลายความแข็งแกร่งของ Andre ที่อุตส่าห์ปูทางมาแต่ต้น

และถ้าจะมีอะไรที่เราคิดว่าได้จากสารคดีคนแฟชั่นที่ดูเผินๆ เหมือนจะฉาบฉวยเรื่องนี้ ก็คงจะเป็น 5 คำพูดและประโยคที่มีทั้ง สวย และแสบๆ คันๆ ที่สามารถใช้มาผลักดันให้คุณประสบความสำเร็จได้ตามอย่าง Andre Leon Talley ดังต่อไปนี้

1.

“He was like the black Rockette. Person, person, person, person, WHAT, person, person, person, person. He’s the WHAT.” – Whoopi Goldberg

ภาพจาก The Gospel According to Andre

วูปี้ โกลด์เบิร์ก หรือที่คนวัย 30 ขึ้นไปรู้จักกันในนาม ชีเฉาก๊วย นิยาม Andre ไว้ว่า อันเดรน่ะเหรอ นางเหมือนเป็นนักเต้นแกะดำอ่ะ ด้วยสีผิวและขนาดตัว เป็นคนที่พอเราเห็นแล้วจะต้องร้อง WHAT!

แต่ WHAT! นี้นี่เองที่ทำให้ Andre เป็นที่จดจำได้ไม่ยาก ถ้านำเรื่องนี้เทียบกับการทำงาน การที่จะก้าวมาเป็นบุคคลแถวหน้า ถ้าคุณไม่ได้โดดเด่นด้วยหน้าตาหรือขนาดตัวเป็นใบเบิกทาง ก็ต้องสร้างความแตกต่างในทางที่ดีให้คนจดจำได้ เป็นเจ้าของ  voice หรือเสียงที่คนต้องการฟัง เป็น WHAT! ที่ใครได้รู้จักก็ต้องประทับใจ เอาง่ายๆ ว่าเป็น WHAT! ที่ไม่ใช่ WTF!

2.

“Create your own universe, and share it with people you respect and love.” – Andre Leon Talley

ภาพจาก The Gospel According to Andre

เมื่อสร้าง WHAT! ได้แล้ว คุณต้องสร้างพื้นที่ของตัวเอง แต่พื้นที่นั้นจะไม่มีความหมายเลย ถ้าคุณไม่ได้เชื้อเชิญคนรอบข้างให้เข้ามาสัมผัสและรู้จักความเป็นคุณ

แต่ไม่ใช่ว่าคุณจะปฏิสัมพันธ์กับใครก็ได้ กฎเรื่อง Law of attraction นั้นยังเป็นจริงเสมอ คุณจะดึงดูดคนที่คุณชื่นชม รัก และเคารพ คนที่มีสไตล์และความคิดความอ่านใกล้เคียงกัน (like-minded people) เข้ามาเป็นพวกเดียวกัน และคนกลุ่มนี้นี่เองที่จะร่วมผลักดันกันและกันไปจนถึงเป้าหมายที่วางไว้

3.

“Queen Kong” – พนักงานแบรนด์ Saint Laurent 

ภาพจาก The Gospel According to Andre

เราจะถือว่าคุณโกหกถ้าคุณปฏิเสธว่าครั้งแรกที่คุณเห็นรูป Andre Leon Talley แล้ว คุณไม่ได้คิดเหยียดรูปลักษณ์ภายนอกของเขาด้วยคำต่างๆ

แม้แต่คนในวงการแฟชั่นที่รู้กิตติศัพท์ของ Andre ก็ยังอดไม่ได้ที่จะนิยามให้เขาเป็น King Kong เวอร์ชั่นเพศเมีย และนี่คือซีนที่เราเห็น André เสียอาการ จากที่เขาร่าเริงมาตลอดทั้งเรื่อง ความเศร้าเข้าครอบงำ แต่นี่แหละคือจังหวะที่คุณจะใช้คำว่า WTF! ปาดน้ำตา แล้วก้าวต่อไป เพื่อพิสูจน์ให้คนเห็นว่าถึงคุณจะเป็น Queen Kong คุณก็เป็น Queen Kong ที่ Conquers the World!

4.

“André is larger than life. Just do it, Think it. Wear it…He makes people feel the fashion.” – Marc Jacobs

ภาพจาก The Gospel According to Andre

เป็นให้มากกว่าที่คุณควรจะเป็น เมื่อโลกใบนี้ไม่มีที่ยืนให้ความธรรมดา หลายครั้ง การ “เล่นใหญ่” จึงสำคัญ

การเกิดมาเป็นเกย์ที่ไม่ได้มีรูปลักษณ์เพียบพร้อม นั่นยิ่งทำให้คนยอมรับคุณได้ยากกว่าเกย์รูปร่างหน้าตาจิ้มลิ้มกะทัดรัด ดังนั้น ความมั่นใจสุดโต่งที่ Andre พยายามถ่ายทอดออกมาในงานแต่ละชิ้น ในชีวิตแต่ละช่วง ทั้งหมดทำให้ลมหายใจของ André กลายเป็นลมหายใจของวงการแฟชั่นอเมริกันไปด้วยในตัว

5.

“When you have two bracelets it means you’re wealthy.” – Andre Leon Talley

ภาพจาก The Gospel According to Andre

Coco Chanel อาจจะบอกว่า “Before you leave the house, look in the mirror and take one thing off.” แต่ถ้าคุณเป็นนางแบบของ Andre ทำใจไว้เลยว่าเขาจะขอให้คุณใส่เพิ่ม โดยเฉพาะถ้าเป็นกำไลข้อมือ

Quote นี้ อาจไม่มีนัยยะอะไรมากกว่านี้จริงๆ แต่อย่างน้อย ถ้าคุณมีอันจะกิน ก็แสดง status ของตัวเองเสียบ้าง คงไม่เสียหายอะไร (ฟังแล้วก็คล้ายๆ กับโฆษณาคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง ที่มักเชื้อเชิญให้คุณซื้อเพื่อแสดงออกถึงความมั่งคั่งนั่นแหละ) หรือถ้าจะให้ถ่อมตนลงมาอีกหน่อย ถ้าคุณเป็นคนมีของ มีความสามารถ ก็ต้องพยายามหาทางแสดงให้โลกรู้

เมื่อพิจารณาทั้ง 5 Quotes นี้ ก็ทำให้เราเข้าใจว่า SIRI HOUSE Bangkok ไม่ได้เลือก The Gospel According to André มาฉายแบบฉาบฉวย แต่ทั้งวิธีคิดและจริตของทั้ง Andre และบ้าน SIRI HOUSE หลังนี้ ต่างสะท้อนคาแรกเตอร์ของกันและกันได้อย่างลงตัว จนผู้เขียนกล้าพูดว่า “ดู The Gospel According to Andre ที่ไหน ก็ไม่แซ่บลงตัวเท่าดูที่ SIRI HOUSE Bangkok อีกแล้ว”

ประสบการณ์ทั้งหมดนี้บวกเพิ่มด้วย Truffle Popcorn รสชาติผู้ดี (ราคา 80 บาท) และ complimentary cocktail อย่าง Passion Popcorn ที่บาร์เทนเดอร์สาดแอลกอฮอล์ได้คุ้มเกินราคาบัตร 550 บาท ไปไกล

ติดตามโปรแกรม The House Cinema จาก SIRI HOUSE Bangkok ครั้งต่อไป ได้แล้วที่ www.facebook.com/sirihousebkk/ 

หรือคลิกตรงไปที่ Event Page ของ TheHouseCinema: Antonio Lopez 1970: Sex Fashion & Disco เพื่อซื้อบัตรได้เลย

Related Articles

Live Equally, สมรสเท่าเทียม, Love Wins Sansiri

Sansiri Pride in Milestone จากวันนั้น สู่วันที่ “สมรสเท่าเทียม”

ช่วงเวลาที่ผ่านมา นอกจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แล้ว “แสนสิริ” ยังมุ่งมั่นในการส่งเสริมสังคมแห่งความเท่าเทียมและเคียงข้างผลักดันให้ทุกคนกล้าที่จะเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ และในวันนี้สิ่งที่เราเฝ้ารอมาตลอดก็เข้าใกล้ความจริงแล้ว เมื่อ “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในอีกไม่ถึง 120 วันหลังจากนี้ วันนี้เราจะพาทุกคนไปย้อนดูสิ่งที่เราผลักดันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ส่งเสริมพนักงานในองค์กร จนก้าวไปสู่การเป็นองค์กรที่สนับสนุนและผลักดันให้ความหลากหลายอย่างเท่าเทียมให้เกิดขึ้นในระดับสังคม จาก Sansiri Pride ในวันนั้น ส่งต่อมาถึง Everyone is

Live Equally, สมรสเท่าเทียม, Love Wins Sansiri

เมื่อความรักไม่มีข้อจำกัด จินตนาการใหม่ของหนัง LGBTQIA+ ยุค #สมรสเท่าเทียม

 จากจอภาพยนตร์สู่โลกแห่งความจริง ยุคสมรสเท่าเทียม จากภาพยนตร์ LGBTQIA+ ที่เราคุ้นเคย กำลังจะถูกเขียนบทใหม่ เมื่อประเทศไทยก้าวสู่ยุคแห่งความเท่าเทียมทางเพศ คู่รักทุกคู่จะมีสิทธิ์สมรสอย่างถูกต้องมาร่วมกันจินตนาการถึงเรื่องราวความรักในภาพยนตร์เหล่านี้ ถ้าหากตัวละครได้มาอยู่ในยุคที่มีกฎหมายรองรับ ความสุข ความฝัน การใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน จะงดงามเพียงใด โดยกฎหมายสมรสเท่าเทียมจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2568 เป็นต้นไป แสนสิริขอร่วมยินดีกับก้าวสำคัญของประเทศไทยสู่การยอมรับความรักทุกรูปแบบ เพราะเราเชื่อว่า

pride month-live equally-สมรมเท่าเทียม

สมรมเท่าเทียม: ไม่ใช่ความสุขของใคร แต่เป็นสุข (ของ) สาธารณะ

เมื่อสังคมโลกเต็มไปด้วยความหลากหลาย เราสามารถมอบโอกาสให้ทุกคนมีสุขอย่างเท่าเทียมได้รึเปล่า? ตลอดเดือนมิถุนายนเป็นเดือนที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งสายรุ้ง เป็นเดือนของการเฉลิมฉลอง Pride Month เทศกาลแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) แม้ว่า Pride Month จะมีจุดเริ่มต้นที่ไม่สวยงามเหมือนขบวนพาเหรดที่ถูกจัดขึ้นในหลายๆ ประเทศ แต่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สร้างโอกาสให้กับทุกคนไม่ว่าจะเพศไหน ให้ออกมาแสดงตัวตนและเรียกร้องในสิทธิที่ถูกลดทอนเพียงเพราะตนนั้น “แตกต่าง” สำหรับบางคน “สมรสเท่าเทียม” อาจเป็นสิ่งเล็กๆ ที่ไม่กระทบต่อชีวิต