“ต้องไม่มีใครถูกลืมและทิ้งไว้ข้างหลัง” คือเป้าหมายแรกที่ทำให้เราริเริ่มโครงการ No One Left Behind ขึ้นมา แน่นอนว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สร้างความทุกข์ยากให้กับผู้คนในสังคมเป็นวงกว้าง ทั้ง พนักงานในบริษัท ลูกค้า และผู้ถือหุ้นของเรา ไปจนถึงผู้คนที่ใช้ชีวิตร่วมอยู่ในสังคมอีกมากมาย
ที่แสนสิริเรามุ่งหวังที่จะสร้างสังคมที่ดี ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม เพื่อที่ทุกคนจะสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความปลอดภัยในชีวิต เราจึงตั้งเป้าหมายของโครงการไว้ที่ชีวิตของผู้คนทุกคน ไม่ใช่เพียงคนใกล้ตัวของเราเท่านั้น ในส่วนหนึ่งของโครงการ No One Left Behind คือการที่เราลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบทุกระดับ ตั้งแต่กลุ่มมูลนิธิที่ต้องการความช่วยเหลือ กลุ่มผู้ขาดแคลนโอกาส แรงงานต่างชาติ กลุ่มเยาวชน รวมไปถึง ‘ช้างไทย’ ที่ได้รับผลกระทบและต้องการความช่วยเหลือไม่ต่างจากมนุษย์ โดยเราได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือหลายมิติ ทั้งในระดับของการบริจาคเงินสนับสนุน จัดหาวัคซีนที่มีคุณภาพ จัดหาอาหารและเครื่องดำรงชีพเบื้องต้น รวมถึงที่ดินจำนวนหนึ่ง เพื่อหวังให้ทุกคนสามารถผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนี้ไปด้วยกัน
แต่แรงจากเราเพียงอย่างเดียว คงไม่สามารถตอบความต้องการของผู้คนได้อย่างครอบคลุม เราจึงอยากชักชวนภาครัฐ ภาคเอกชน และกลุ่มคนที่ยังมีกำลัง มาร่วมกันส่งแรงของคุณให้กับกลุ่มคนที่อาจถูกหลงลืมภายใต้วิกฤตการณ์ครั้งนี้กัน
“เพราะเราทุกคนต่างเป็นฟันเฟืองชิ้นเล็กๆ บนโลกใบนี้ที่ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างความยิ่งใหญ่ได้เราจะทำให้ดีขึ้นทุกวัน เพื่อชีวิตที่ดีของเราทุกคน”
มูลนิธิเสริมกล้า
ในช่วงเวลาเช่นนี้ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่ควรได้รับการดูแลเอาใจใส่และไม่ควรถูกลืมเป็นอย่างยิ่งืนั่นคือกลุ่มน้องๆ เด็กและเยาวชน ซึ่งแสนสิริได้มีโครงการต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับน้องๆ กลุ่มนี้มาโดยตลอด ผ่าน ‘มูลนิธิเสริมกล้า’ ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี2554 และดำเนินงานมาตลอดเพื่อส่งเสริมต้นกล้าทุกคนให้เติบโตเป็นไม้ที่แข็งแรงท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19
แสนสิริภายใต้โครงการ No One Left Behind จึงได้ร่วมมอบทุนการศึกษาเพื่อช่วยเหลือเด็กที่ครอบครัวเสียชีวิตหรือขาดแคลนทุนทรัพย์จำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นอีกแรงในการส่งเสริมให้เยาวชนเหล่านี้สามารถเติบโตได้อย่างมีคุณภาพ แม้สถานการณ์ปัจจุบันอาจจะยากลำบากสำหรับพวกเขา มาร่วมเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคนกัน
เว็บไซต์: sermkla.org
ที่อยู่: มูลนิธิเสริมกล้า อาคารสิริแคมปัส เลขที่ 59 ซอยริมคลองพระโขนง แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
ชุมชนมาชิม (สุขุมวิท)
หากใครติดตามข่าวสารคงพบว่า ‘ชุมชนมาชิม’ คือหนึ่งในชุมชนเฝ้าระวังการระบาดของเชื้อไวรัส C0VID-19 โดย ศบค. ซึ่งชุมชนแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ที่มีประชาชนอาศัยอยู่กว่า 600 หลังคาเรือน ทำให้ผู้คนในชุมชนมีความต้องการการสนับสนุนด้านอาหาร แสนสิริภายใต้โครงการ No One Left Behind จึงได้ทำการอุดหนุนสินค้าจากชุมชนทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นข้าวสารจากชุมชนกำแมด จ.ยโสธร ปลากรอบจากชุมชนปากน้ำประแส จ.ระยอง น้ำพริกปลาป่น จากชุมชนบางพัฒน์จ.พังงา นมหนองโพจากสหกรณ์โคนม และนำมารวบรวมเป็นถุงยังชีพเพื่อส่งต่อให้กับผู้ที่มีความต้องการในชุมชนมาชิมแห่งนี้
ที่อยู่: ชุมชนมาชิม ริมทางรถไฟสายช่องนนทรี เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
สมาคมสหพันธ์ช้างไทย
ไม่ใช่แค่พวกเราที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพราะเหล่าช้างไทยก็ได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน ในปัจจุบันปางช้างหลายแห่งขาดรายได้จากนักท่องเที่ยว ทำให้เงินทุนในการดูแลช้างไม่เพียงพอต่อความต้องการ สมาคมสหพันธ์ช้างไทยจึงเปิดรับบริจาคเพื่อนำเงินไปเป็นค่าอาหารให้กับช้างในหลายพื้นที่ เราเป็นส่วนหนึ่งในการให้ความช่วยเหลือเช่นกัน โดยมีการบริจาคเงินช่วยเหลือจำนวน 450,000 บาท และมอบพื้นที่รอการพัฒนาให้เป็นแหล่งปลูกอาหารสำหรับช้าง ทั้งนี้แสนสิริยังพร้อมดูแลช่วยเหลือให้มากยิ่งขึ้นในอนาคตเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของช้างและควาญช้าง เพื่อให้ทุกคนสามารถรอดพ้นวิกฤตการณ์โรคระบาดครั้งนี้ไปพร้อมๆ กัน
เว็บไซต์: thaielephantalliance.org
ที่อยู่: สมาคมสหพันธ์ช้างไทย 315 หมู่ 7 ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ 50230
มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย
หนึ่งในคลัสเตอร์ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคนี้มากที่สุดคือกลุ่มแรงงานก่อสร้าง ซึ่งมีสมาชิกเป็นแรงงานต่างชาติจำนวนมาก กลุ่มคนเหล่านี้ หลายคนไม่ได้รับสิทธิ์ในการรับวัคซีน ทั้งยังขาดแคลนสิ่งของสำหรับการดำรงชีพขั้นพื้นฐานหลายอย่าง แสนสิริจึงได้ประสานงานกับตัวแทนเครือข่ายจาก ‘มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย’ ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำงานด้าน การพัฒนาเด็ก ครอบครัว และชุมชนสงเคราะห์และร่วมกันรวบรวมรายชื่อแรงงานต่างชาติที่ต้องการรับวัคซีน ให้กับทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนทางเลือก ลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับประชาชนกลุ่มนี้ ซึ่งการเข้ามาช่วยเหลือกลุ่มแรงงานข้ามชาติ คือสิ่งที่แสนสิริพยายามสนับสนุนมาโดยตลอด นั่นคือการช่วยเหลืออย่างเท่าเทียม โดยไม่มีการแบ่งแยกความแตกต่างด้านชาติพันธุ์
เว็บไซต์: worldvision.or.th
ที่อยู่: มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย 809 ซอยศุภนิมิต ถนนประชาอุทิศ แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310
มูลนิธิบ้านพระพร
มูลนิธิบ้านพระพรคือ ‘บ้าน’ ในหัวใจขออดีตผู้ต้องขังหลายคน เพราะที่นี่คือมูลนิธิที่ทำงานเพื่อช่วยเหลือผู้พ้นโทษทั้งวัยผู้ใหญ่และเยาวชน ให้มีทักษะอาชีพ มีโอกาสในการทำมาหากินอย่างสุจริต และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงลดโอกาสในการกระทำผิดซ้ำ นอกจากนี้ ที่มูลนิธิบ้านพระพรยังรับอุปการะเด็กเยาวชนที่ผู้ปกครองถูกคุมขังอีกด้วย ช่วงวิกฤติโควิด-19 มูลนิธิได้รับผลกระทบจากโรคระบาดชนิดนี้ด้วย โดยเยาวชนและบุคลากรที่อาศัยอยู่ในมูลนิธิมีการตรวจพบเชื้อ ทำให้ไม่สามารถประกอบอาหารแจกจ่ายคนในมูลนิธิได้โครงการ No One Left Behind โดยแสนสิริจึงได้เข้าช่วยเหลือโดยการบริจาคอาหารและผลไม้ให้กับทางมูลนิธิ เพื่อใช้ในการแจกจ่ายให้กับคนที่ต้องการต่อไป
เว็บไซต์: hobf.or.th
ที่อยู่: มูลนิธิบ้านพระพร 600/199-200 ถ.ริมคลองลาดพร้าว แขวงบางกะปิเขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานครฯ 10310