Stop Cyberbullying
ไม่ควรมีใครต้องถูกบูลลี่!

เมื่อโลกออนไลน์เข้าถึงง่ายมากกว่าที่คิด แค่เพียงสัมผัสหน้าจอ เปิดสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ต ก็สามารถเชื่อมต่อกันได้ภายในเสี้ยววินาที แต่ในขณะเดียวกัน แค่เสี้ยววินี้ก็แลกมากับ ภัยบนโลกออนไลน์ ซึ่งสามารถส่งผลต่อชีวิต “ออฟไลน์” ของใครหลายๆ คน เช่นเดียวกัน

การเหยียดเพศ ล้อเลียนรูปลักษณ์ ปมด้อย หรือคุกคามทางเพศ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาหลายยุคหลายสมัย แต่เมื่อโลกเข้าสู่ยุคออนไลน์ สิ่งต่างๆ เหล่านี้กับทวีความรุนแรงมากขึ้น เพราะการพิมพ์ผ่านหน้าจอ มักเกิดจากการตัดสินใจที่รวดเร็วและกล้ากว่าการพูดต่อหน้า

เนื่องในวัน #StopCyberbullyingDay เราไม่เพียงต้องการรณรงค์ให้หยุด! การกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์เท่านั้น แต่ต้องการให้ทุกคนตระหนักเห็นถึงความเท่าเทียม ฉุกคิดและสำรวจพฤติกรรมตัวเองต่อการบูลลี่ให้มากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ

เราอยากสร้างความตระหนักให้ทุกคนเห็นถึงผลกระทบด้วยสถิติต่างๆ ของผู้ถูกบูลลี่ เพื่ออนาคตข้างหน้า เราจะมีโอกาสได้เห็นสังคมที่ทุกคนมีความเห็นอกเห็นใจ และหยุดพฤติกรรมเหล่านี้

เลิกโต้ตอบ กดไลค์ให้ก็พอ 

stop bullying day-live equally-วันหยุดการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์

เคยเป็นไหมที่แชร์ภาพทั่วไป หรือแสดงความคิดเห็นตามปกติ แต่กลับโดนพิมพ์ตอบกลับในเรื่องอื่นจนเกินเลยไปถึงการใช้คำที่เหยียด คุกคาม หรือการกลั่นแกล้งรูปแบบต่างๆ จนเราต้องพิมพ์ตอบโต้กลับด้วยความรุนแรงเช่นเดียวกัน

หากเป็นเช่นนั้นเราจะกลายเป็นคนที่ถูกบูลลี่ และบูลลี่คนอื่นกลับโดยไม่รู้ตัว ด้วยเหตุนี้แล้ว เราอยากให้ลองเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ เช่นการไม่พิมพ์ตอบโต้ กดไลค์ให้ก็พอ หรือหยุดการกดติดตามเพื่อหลีกเลี่ยงการมองเห็นสิ่งที่อาจกวนใจเรา หรือให้ดีกว่านั้นกดบล็อกแล้วรีพอร์ทไปด้วยเลย เพื่อสังคมจะได้ลดคนกลุ่มนี้ลง

ก่อนจะแชร์รูปเพื่อนลงโซเชียล ถามกันก่อนว่าโอเครึเปล่า

stop bullying day-live equally-วันหยุดการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์

เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยมีประสบการณ์แกล้งเพื่อนรูปแบบนี้แน่นอน

การถ่ายรูปแกล้งเพื่อน และแชร์ลงโซเชียล บางครั้งอาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เพราะเราไม่รู้ว่าเพื่อนจะตลกไปกับเรารึเปล่า บางทีการทำโดยไม่บอกอาจสร้างความอับอายจนรับไม่ได้ และกลายเป็นส่วนหนึ่ง หรือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เพื่อนโดนบูลลี่ก็ได้ ทางที่ดีเราควรถามความยินยอมอีกฝ่ายเสียก่อน หรือเลือกที่จะเก็บไว้ดูเองเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมา

อย่ามองทุกอย่างเป็นเรื่องตลกเกินไป ควรคิดก่อนว่า อีกฝ่ายจะตลกด้วยไหม

stop bullying day-live equally-วันหยุดการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์

มีใครทำผิดพลาดเล็กน้อย…หัวเราะ
ทำไม่เหมือนคนอื่น…หัวเราะ

บางครั้งการเป็นคนสนุกสนาน หรือเป็นคนตลกมากเกินไปก็กลายเป็นคนบูลลี่อีกฝ่ายได้แบบไม่รู้ตัว พฤติกรรมของเราอาจทำให้อีกฝ่ายเสียความมั่นใจไปเลยทันที ทางที่ดีลองหยุดคิด และดูสถานการณ์ก่อนว่า ควรพูด หรือทำตัวอย่างไรดีกว่า

บางเรื่องก็ปล่อยให้เป็นอดีตดีกว่า

stop bullying day-live equally-วันหยุดการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์

การเห็นและแชร์รูปเก่าๆ ของเพื่อน หรือการกลับมาพบกันหลังจากไม่ได้เจอกันนานย่อมมีแต่ความรู้สึกดีๆ แน่นอน แต่บางครั้งในวงสนทนา เรื่องราวความอับอายของเพื่อนในสมัยเด็ก ที่เรามองเป็นเรื่องตลกถูกหยิบนำมาเล่า แท้จริงอาจเป็นความอับอายของเพื่อนที่ฝังใจมาตลอดก็ได้

หากไม่อยากให้เสียความรู้สึก และบรรยากาศในวง ลองเปลี่ยนเป็นเริ่มจากเล่าเรื่องตัวเอง หรือวีรกรรมฮาๆ ที่เคยทำร่วมกันดูไหม น่าจะกลายเป็นเรื่องราวสนุกๆ ที่เผลอหยุดคุยไม่ได้เลย

จากเจอหน้าปุ๊บ ทักทายรูปร่างปั๊บ ลองเปลี่ยนมาอัปเดตชีวิตกันดีกว่ามั้ย

stop bullying day-live equally-วันหยุดการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์

อาจจะเป็นเรื่องเคยชินที่เจอกันต้องทักเรื่องรูปร่าง หน้าตา หรือภาพลักษณ์ภายนอก แต่อย่าให้ความเคยชินเหล่านี้เป็นดาบทิ่มแทงผู้อื่น เพราะคำพูดของเราอาจเป็นการตอกย้ำทำให้คนๆ นั้นสูญเสียความมั่นใจในตัวเอง

ลองเปลี่ยนจากการทักทายเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก เป็นอัปเดตชีวิตช่วงนี้ หรือเป็นเรื่องสนุกๆ ที่ได้ไปพบเจอ มาเป็นหัวข้อสนทนาเพื่อไม่ให้เกิดการบูลลี่โดยไม่รู้ตัวดีกว่า

หากทุกคนตระหนักถึงปัญหาการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ เพิ่มความเห็นอกเห็นใจต่อกัน เพียงแค่นี้เราก็สามารถสร้างสังคมที่ทุกคน  “Live Equally”  ได้แล้ว

CONTRIBUTOR

Related Articles

the power of love

“พลังของความรัก” จะทำให้เราจับมือกันก้าวผ่านทุกอุปสรรค และเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้

“พลังของความรัก” จะทำให้เราจับมือกันก้าวผ่านทุกอุปสรรค และเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้ ทุกคนเชื่อในพลังแห่งความรักไหมคะ ความรักสามารถเปลี่ยนแปลงใครคนหนึ่งให้เป็นคนที่ดีขึ้นได้ แต่ความรักไม่ได้มีเวทมนตร์พิเศษอะไรหรอกค่ะ เพียงแค่ความรักเป็นแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ใครบางคน อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีกว่าเดิมเพื่อใครอีก คน ทำให้รู้สึกว่าตัวเองคู่ควรกับความรัก ความสัมพันธ์นั้น นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมความรักถึงทรงพลัง ความรักยังมีพลังทำให้มนุษย์เราสามารถจับมือก้าวผ่านทุกอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ซึ่งเกิดขึ้นจากกลไกลทางจิตวิทยา การสนับสนุนของคู่รัก และวัฒนธรรมในบริบทของสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นคู่รักชายหญิง หรือคู่รักที่มีความหลากหลายทางเพศ  หากย้อนกลับไปในสมัยอดีต ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความรักของผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศนั้น

Ready Set Marry

เมื่อรัก คือ รักบนความเท่าเทียม ชีส & รถเมล์

หากลองคิดดูจากผู้คนนับล้านคนจะมีสักกี่คนที่เกิดวัน เดือน ปี เดียวกัน แล้วได้โคจรมาเจอกัน มากกว่านั้นคือได้กลายเป็น “คู่รัก” กัน เช่นเดียวกับคู่ของ “ชีส” – ณัฐฐิยา สงวนศักดิ์ และ “รถเมล์” – ชัญญานุช มะลิมาตร ที่ร่วมกันถักทอเรื่องราวความรักต่างๆ ร่วมกันมาจนจะเข้าปีที่

Ready Set Marry

เมื่อรัก…คือ การให้ความสำคัญ กับคนที่อยู่เคียงข้าง ลูกไม้ & มาย

แสนสิริ ขอชวนทุกคนมาร่วมกันนับถอยหลังสู่วันที่ประเทศไทยจะมี “สมรสเท่าเทียม” อย่างเป็นทางการ โดยคู่รักทุกคู่จะสามารถจดทะเบียนเป็น “คู่สมรส” และได้รับสิทธิตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมพร้อมกันในวันที่ 22 มกราคม 2568 ผ่านแคมเปญ Ready, Set, Marry! เริ่มจากคู่รักสายแฟชั่น ‘ลูกไม้’ อินทิรา หอมเทียนทอง และ ‘มาย’