Steps Toward Goals:
เพราะความฝันที่ยิ่งใหญ่สำเร็จได้
ด้วยการลงมือทำ 

เราทุกคนอาจไม่ได้เกิดมาสมบูรณ์แบบ
ไม่สำคัญว่าใครจะ “มอง” หรือ “ตัดสิน” เราว่าอย่างไร
แต่สำคัญที่ว่าเราคิดและพาตัวเองไปถึง “เป้าหมาย”อย่างไรต่างหาก

เพราะเราเชื่อว่าความฝันทุกๆ ความฝันที่คุณจะทำนั้นยิ่งใหญ่ ไม่ว่าความฝันของคุณจะเป็นเรื่องเล็กๆ หรือเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ก็ตาม เราเชื่อว่าความฝันหรือสิ่งที่คุณตั้งใจทำสามารถเป็นไปได้เสมอ ขอแค่ลงมือทำและมีเป้าหมายที่ชัดเจน

ถึงแม้ว่าเราทุกคนไม่มีใครเกิดมาสมบูรณ์แบบและมีพร้อมทุกสิ่ง รวมถึงคงไม่มีใครสามารถเลือกเกิดได้ แต่สิ่งที่เราทุกคนทำได้คือการใช้ชีวิตให้มีความสุขกับสิ่งที่เราเป็น ไม่ว่าคุณจะเป็นใครคุณสามารถมีความฝัน ความหวัง และเป้าหมายในชีวิตได้ค่ะ 

วันนี้ Mental Life by Chanisara จะชวนทุกคนมาต่อสู้เพื่อความฝัน ความหวังและเป้าหมายกันค่ะ เพราะเราเชื่อว่าไม่ว่าคุณจะเป็นใคร คุณก็ประสบความสำเร็จได้ค่ะ

วาดความฝันด้วยหัวใจ…สร้างความจริงด้วยการลงมือทำ

เราเชื่อว่าคนทุกคนต้องมีความฝัน ไม่ว่าความฝันนั้นเล็กหรือจะยิ่งใหญ่ บางคนอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง บางคนอยากรวย บางคนอยากประสบความสำเร็จในชีวิต บางคนอยากเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จ หรือบางคนความฝันของเขาคือการเป็นแม่คนเห็นลูกเติบโตขึ้นมาเป็นคนดีมีศีลธรรมและมีความสุขกับการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ความฝันและเป้าหมายของเราอาจจะแตกต่างกันตามความต้องการของแต่ละคน แต่สิ่งที่ทุกคนต้องทำเหมือนกัน คือเมื่อมีความฝันแล้ว ให้ลงมือทำ ไม่ว่าใครจะพูดยังไงกับเรา บั่นทอนจิตใจเราแค่ไหน หรือพูดว่าความฝันของเราไม่สามารถเป็นไปได้ยังไง เชื่อไหมว่ามันไม่สำคัญเลย แต่มันสำคัญตรงที่เราลงมือทำไหม และเรามีความมุ่งมั่นและพยายามแค่ไหนเพื่อที่จะได้มันมาต่างหากค่ะ 

ไม่มีใครมาตัดสินตัวเราได้ เราต่างหากที่จะเขียนความฝันของเราเอง 

ไม่ว่าเราจะเป็นใครหรือเกิดมาเป็นแบบไหนหรือใครจะพูดกับเราว่ายังไรมันไม่สำคัญ ถ้ามันเป็นคำพูดที่ไม่ดีหรือบั่นทอนจิตใจเรา เราก็ไม่จำเป็นจะต้องเก็บคำพูดเหล่านั้นมาใส่ใจ ปล่อยผ่าน และทำชีวิตของเราให้ดีที่สุดก็พอแล้ว เพียงแค่เราสู้ด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ เหมือนดั่ง “คุณประวัติ วะโฮรัมย์” นักกีฬาวีลแชร์ เรซซิ่ง ผู้ที่มีคนคนหนึ่งผู้ดูถูกว่า “พิการอย่างนี้จะไปทำอะไรได้” กลายมาเป็นผู้คว้าเหรียญในการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกติดต่อกันมาแล้วถึง 6 สมัย โดยเขาคว้า 7 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง ตลอดระยะเวลา 24 ปี ที่เขาลงแข่งขัน ถึงแม้การแข่งขันพาราลิมปิก

ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก เนื่องจากร่างกายแก่ตัวลง แต่เขาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเขามีความสามารถ มีคุณค่าและสามารถสร้างชื่อเสียงให้ประเทศได้เหมือนกัน

“คุณประวัติ” ป่วยเป็นโรคโปลิโอมาตั้งแต่กำเนิด แต่เขาไม่เคยย่อท้อต่อโชคชะตาหรือคำดูถูกของใคร เขากับเอาคำดูถูกมาเป็นพลังในการต่อสู้กับอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาในชีวิต และทำให้เห็นว่าต่อให้เขาจะมีร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ต้องนั่งวีลแชร์ เขาก็สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ และประสบความสำเร็จได้ในแบบของตัวเองอีกด้วย 

ความสำเร็จของเขาได้มาเพราะโอกาสที่เข้ามาในชีวิต และความมุ่งมั่น พยายาม ทุ่มเทฝึกซ้อม จนทำให้เขาประสบความสำเร็จและเป็นตำนานนักกีฬาไทยในการแข่งขันพาราลิมปิก เรื่องของ “คุณประวัติ” จึงสะท้อนให้เห็นว่าไม่ว่าคุณจะเกิดมาเป็นแบบไหนแต่เราก็ประสบความสำเร็จได้ในแบบของตัวเองค่ะ 

มัดรวม 6 วิธี มุ่งมั่นกับความฝันที่จะนำทางไปสู่ความสำเร็จ

โฟกัสที่เป้าหมาย
ขอแค่เรารู้ว่าเป้าหมายของเราคืออะไร ทำตามเป้าหมายของเรา โดยไม่สนว่าใครจะพูดกับเราอย่างไร ถ้ามันไม่ใช่ความจริง และคำพูดเหล่านั้นไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับชีวิต ก็แค่ปล่อยผ่านเหมือนสายลมที่พัดผ่านไป เพราะความสำเร็จของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำพูดของใคร แต่ขึ้นอยู่ที่ตัวเราเองต่างหากค่ะ

มุ่งมั่นและพยายาม
ไม่ว่าความฝันของคุณคืออะไร หากคุณมีความพยายามมากพอ เราเชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปได้ค่ะ

ล้มแล้วลุกให้ได้
หากวันนี้สิ่งที่เราฝันไม่ได้ประสบความสำเร็จไม่เป็นไร หากเราจะรู้สึกท้อแท้ ผิดหวังหรือร้องไห้ แต่เมื่อล้มเราต้องลุกขึ้นมาให้ได้และสู้ต่อไปและสักวันเราจะประสบความสำเร็จ ขอแค่เราไม่ยอมแพ้และทำสิ่งนั้นต่อไป สักวันคุณเราจะเดินถึงเป้าหมายที่ใฝ่ฝันค่ะ

เชื่อมั่นในตัวเอง
ต่อให้จะมีสักกี่คนที่บั่นทอนความเชื่อมั่นในตัวของเรา แต่ถ้าหากเราเชื่อว่าเราทำได้ ไม่ว่าเป้าหมายของเราคืออะไร เราจะสามารถทำมันได้เพียงแค่เราเชื่อมั่นในตัวเอง 

ปล่อยผ่านคำพูดที่บั่นทอนจิตใจ
ในโลกนี้ใครจะพูดอะไรก็ได้ บางครั้งเขาไม่ได้มานั่งคิดหรอกว่าคนที่ได้ฟังจะรู้สึกอย่างไร เขาพูดแล้วมันก็ผ่านไปคนพูดไม่ได้คิดอะไร แต่คนฟังส่วนมากกลับเอามาคิด ลองใช้คำพูดเหล่านั้น เป็นพลังมาทำให้ชีวิตของเราดีขึ้น เพราะเราเชื่อว่าเราเปลี่ยนความคิดของคนอื่นไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อตัวเองได้ค่ะ

ให้กำลังใจตัวเองมากๆ
ไม่มีใครให้กำลังใจเราได้ดีกว่า การที่เราให้กำลังใจตัวเอง บอกกับตัวเองว่าเราทำได้ เพราะว่าหากเราเชื่อแบบนั้น เราจะทำมันได้ในที่สุดค่ะ 

เราเชื่อว่าไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มีข้อจำกัดในชีวิตยังไง เราสามารถประสบความสำเร็จได้ในแบบของตัวเอง ขอแค่ตั้งเป้าหมายแล้วลงมือทำอย่างไม่ยอมแพ้


Source

https://adaymagazine.com/prawat-wahoram/ 

หนังสือ กรูได้ดีเพราะเมริงดูถูก

Related Articles

Food Coma

“หนังท้องตึง หนังตาหย่อน” “Food Coma” อาการง่วงนอนหลังรับประทานอาหารเสร็จ

ไหนใครมีอาการแบบนี้บ้าง ง่วงหลังทานอาหารเสร็จแต่เราต้องกลับมานั่งทำงาน กลับมาเรียนต่อในตอนบ่าย ต้องกินชา กินกาแฟ เป็นตัวช่วยให้ตาสว่าง กลับมารู้สึกกระปรี้กระเปร่าอีกครั้ง หลายคนอาจสงสัยว่าที่เรามีอาการเช่นนี้เพราะเราขี้เกียจหรือเปล่านะ? แต่แท้จริงแล้ว อาจจะเป็นเพราะเรากินอาหารที่มีแป้งและไขมันมากเกินไป รวมถึงกินอิ่มมากเกินไปจึงทำให้เรารู้สึกง่วงนอนนั่นเองค่ะ  อาการนี้เขาเรียกกันว่า “Food Coma” หรือการง่วงหลังจากรับประทานอาหารเสร็จหากฟังดูอาจจะดูเหมือนเป็นอาการที่อันตราย แต่แท้จริงแล้ว อาการนี้ไม่เป็นอันตราย แต่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำงาน การเรียน สุขภาพ

White Lies

White Lies โกหกตัวเองและผู้อื่นวันนี้เพื่อความสบายใจ แต่ส่งผลกระทบต่อจิตใจอย่างไม่คาดคิด

อย่าโกหกตัวเองเพื่อรักษาความรู้สึกคนอื่น เพราะความรู้สึกของเราสำคัญไม่แพ้ใคร ทุกคนเคยโกหกตัวเองว่ามีความสุขเพื่อให้คนอื่นสบายใจไหมคะ? หลายครั้งที่เราโกหกตัวเองว่าเรายังไหว ไม่เป็นไรแค่นี้สบายมาก เราพูดกับตัวเอง “ฉันโอเค” “ฉันมีความสุข” พยายามหลอกตัวเองให้คิดแบบนั้น เพื่อที่จะแสดงออกมาให้คนอื่นเห็นว่า “”ฉันไม่เป็นไร” ทั้งที่ภายในใจแตกสลายและรับอะไรแทบจะไม่ไหวอีกแล้ว แต่เราพยายามยิ้ม พยายามหัวเราะ และบอกคนอื่นว่าไม่เป็นไร เพียงเพราะไม่อยากเป็นภาระผู้อื่นและเพื่อให้คนรอบข้างของเรารู้สึกสบายใจ  การกระทำเช่นนี้เรียกว่า “การโกหกสีขาว” หรือ  “White

World Laughter Day

“เสียงหัวเราะ” เปรียบเสมือนยาวิเศษที่ช่วยเยียวยาหัวใจ

“การหัวเราะ” เปรียบเสมือนยาวิเศษที่ช่วยเยียวยาหัวใจ ทำให้เราคลายเครียด มีความสุขและมองโลกในแง่บวกมากขึ้น เสียงหัวเราะสามารถเปลี่ยนโลกแสนมืดมนของใครบางคน ให้กลับมาสว่างสดใสได้ เคยไหมคะ เวลาเราเห็นใครคนหนึ่ง ไม่สดใสเหมือนเคย เราจะพยายามทำให้เขากลับมายิ้ม กลับมาหัวเราะ เพื่อที่จะทำให้เขากลับมามีความสุขได้อีกครั้ง เสียงหัวเราะจึงเปรียบเสมือนยาวิเศษที่ทรงพลังที่ช่วยเปลี่ยนแปลงอารมณ์ของผู้คนให้กลับมามีความสุข มีอารมณ์ขันและมองโลกในแง่ดีมากยิ่งขึ้น แม้ในวันที่ทุกอย่างไม่ได้เป็นดังที่ใจเราคิด หรือในวันที่เราต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิต เสียงหัวเราะ อาจเป็นตัวช่วยให้เราสบายใจขึ้น และเมื่อเราสบายใจ