5 เรื่องเกี่ยวกับกลโกง
ลวง ให้ รัก
ที่ทุกคนควรรู้เท่าทัน

ปัจจุบันการหลอกลวงผ่านโลกออนไลน์มีหลายรูปแบบทำให้คนที่โดนหลอกสูญเสียทรัพย์สินและของมีค่ามากมายมหาศาล หนึ่งในรูปแบบของการหลอกลวงนั้นคือ “Romance Scam” หรือ “การลวงให้รัก”

ทุกคนรู้ไหมคะว่า การลวงให้รักนั้นถือเป็นการหลอกลวงรูปแบบหนึ่งผ่านทางโลกออนไลน์ที่สร้างความเสียหายอันดับต้นๆ ของไทยเลยนะ เพราะทุกวันนี้มีคนจำนวนไม่น้อยที่หาเพื่อนคุย หรือหาคนรักผ่านทางโลกออนไลน์ ทำให้มิจฉาชีพใช้จุดนี้เป็นช่องโหว่เพื่อหลอกเงินจากคนที่เป็นโสดและอยากตามหารักแท้ 

และที่สำคัญไปกว่านั้น การหลอกลวงเหล่านี้ มิจฉาชีพไม่ได้ทำเพียงคนเดียว แต่ทำเป็นขบวนการเฉกเช่นแก๊งคอลเซนเตอร์ การหลอกลวงให้รักไม่ใช่แค่หลอกลวงให้เสียทรัพย์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการหลอกลวงที่เข้าไปเล่นกับความรู้สึกในใจคน ทำให้บางคนเสียความรู้สึก เศร้าใจและเกิดบาดแผลในใจ บางคนอาจจะเป็นโรคซึมเศร้าไปเลยก็ได้นะคะ

บางทีเราอาจจะคิดว่าเราไม่โดนหลอกหรอก แต่อย่าลืมว่ามิจฉาชีพมีกลวิธีใหม่ๆ ในการหลอกคนอื่นเสมอ ดังนั้นเราทุกคนจึงต้องระมัดระวังตัวเองอยู่เสมอค่ะ 

วันนี้ Mental Life by Chanisara จะพาทุกคนมาเจาะลึก 5 คำถามของ กลโกง ลวง ให้ รัก ที่ทุกคนควรรู้เท่าทัน ไม่ว่าจะเป็นรู้จักกับ Romance Scam คืออะไร กลวิธีของ Romance Scam เขาหลอกยังไงกันนะ ใครคือกลุ่มคนที่ถูกลวงให้รักมากที่สุด  ทำไมคนที่ถูกหลอกให้รัก อาจจะทำผิดกฎหมายโดยไม่รู้ตัวและรักษาแผลใจยังไง….เมื่อถูกหลอกจาก Romance Scam 

Q : Romance Scam คืออะไร

A : การหลอกให้หลงรักผ่านทางโลกออนไลน์ เพื่อหวังเงินและทรัพย์สิน ภายใน 2 ปีที่ผ่านมา มีผู้เสียหายในไทยประมาณ 3,000 คดี ศูนย์เงินมากกว่า 6,000 ล้านบาท

ทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่าทุกวันนี้มีแก๊งมิจฉาชีพแฝงตัวอยู่ในทุกๆ ที่ โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ที่สร้างความเสียหายให้กับผู้คนจำนวนมาก ไม่ใช่แค่แก๊งคอลเซนเตอร์ ที่โทรมาหลอกเงินพวกเราอยู่ทุกวันเท่านั้น แต่ยังมีมิจฉาชีพที่มาในรูปแบบ Romance Scam หรือการหลอกให้รักผ่านทางโลกออนไลน์ โดยมิจฉาชีพกลุ่มนี้อาจจะพบได้ตาม platform ออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น App หาคู่ต่างๆ หรือใน Facebook และพยายามจะสานสัมพันธ์และตีสนิท ทำให้ตกหลุมรักเพื่อหวังเงินและทรัพย์สิน สามารถเอาผิดทางกฎหมายได้ และไม่ได้ถือว่าเป็นการให้โดยเสน่หา

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีผู้เสียหายที่แจ้งความประมาณ 3,000 คดี ศูนย์เงินมากกว่า 6,000 ล้านบาทเลยทีเดียว  Romance Scam จึงถือเป็นกลลวงที่ทำให้สูญเสียทรัพย์อันดับต้นๆ ของไทย และที่ยิ่งไปกว่านั้น คือ ยังทำร้ายความรู้สึกของคนที่ถูกหลอกและทำให้เกิดบาดแผลในใจ จนทำให้มีปัญหาทางด้านสุขภาพจิต สุขภาพใจ หรือเป็นโรคซึมเศร้าตามมาเลยนะคะ 

รวมถึงโดยส่วนมาก คนในสังคมมักจะโทษผู้ถูกกระทำ ทำให้สุขภาพใจเขาแย่ไปกว่าเดิมนะคะ แต่คนผิดจริงๆ คือคนที่หลอกลวงคนอื่นต่างหากค่ะ

Q : กลวิธีของ Romance Scam เขาหลอกยังไงกันนะ

A : 1. มิจฉาชีพสร้างโปรไฟล์สวยหรู

2.พูดจาหวานๆ ทำให้ไว้ใจ

3.สร้างสถานการณ์ขอความช่วยเหลือ เพื่อให้โอนเงินไปให้

4. บอกให้เก็บเป็นความลับ จากนั้นจะหลอกเอาเงินไปเรื่อยๆ

ทุกคนรู้ไหมคะว่าส่วนมากกลุ่มลวงให้รัก หรือ Romance Scam มักจะใช้กลวิธีเดียวกัน เราสามารถสังเกตได้ดังนี้ค่ะ

1.มิจฉาชีพสร้างโปรไฟล์สวยหรู เพื่อตอบโจทย์ผู้ชายหรือผู้หญิงในฝัน ของใครหลายๆ คน มักเป็นคนหน้าตาดี อาชีพการงานมีหน้ามีตาในสังคม และมีความมั่นคง รายได้สูง เป็นโสด และกำลังตามหารักแท้ และทุกคนรู้ไหมว่า 1 ใน 7  ของ โปรไฟล์ใน Application ตามหารักแท้ เป็นของปลอม 

2. พูดจาหวานๆ ทำให้ไว้ใจ มิจฉาชีพจะสานสัมพันธ์กับคนที่ต้องการจะหลอกอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ไว้วางใจ ทำให้รู้สึกเป็นคนพิเศษ ใส่ใจทักหาสม่ำเสมอทุกๆ วัน เพื่อให้เหยื่อรู้สึกเหมือนเป็นคนที่ถูกรัก 

3. สร้างสถานการณ์ขอความช่วยเหลือ เพื่อให้โอนเงินไปให้ โดยจะสร้างสถานการณ์ให้รู้สึกว่าน่าสงสาร เช่น พ่อแม่ไม่สบายโอนเงินให้หน่อยสิ หรือจะเดินทางไปหาแต่ติดอยู่ที่สนามบิน ไม่สามารถใช้บัตรเครดิตได้ ฯลฯ

4. บอกให้เก็บเป็นความลับ จากนั้นจะหลอกเอาเงินไปเรื่อยๆ และทำให้คนที่โดนหลอกตัดสัมพันธ์กับคนรอบข้าง เพื่อไม่ให้มีใครคอยปรึกษา จะได้โอนเงินไปให้ง่ายขึ้นนั่นเองค่ะ ซึ่งจะทำให้คนที่โดนหลอกหลงกลและโอนเงินไปให้เรื่อยๆ

Q : ใครคือกลุ่มคนที่ถูกลวงให้รักมากที่สุด 

A : ผู้หญิงที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่ อายุ 34 – 54 ปี การศึกษาสูง มีฐานะมั่นคง เพราะมั่นใจว่าจะไม่ถูกหลอกและคิดว่าความรักจะสมปรารถนา ฯลฯ

คนส่วนมากคงคิดกันใช่ไหมคะว่าคนที่ถูกลวงให้รัก โดยส่วนมากมักจะคิดว่าเป็นผู้สูงอายุ การศึกษาอาจจะไม่ได้สูง มีจิตใจดี มีเมตตากรุณา เชื่อใจคนง่าย หรือขาดความรู้ทางด้านอินเทอร์เน็ต แต่ในความเป็นจริงทุกคนรู้ไหมคะ มีงานวิจัยที่ชื่อว่า “Do You Love Me? Psychological Characteristics of Romance Scam Victims” ระบุว่า 

 คนที่ถูกหลอกให้รัก โดยส่วนมากมักเป็นผู้ใหญ่วัยกลางคนอายุประมาณ 34 – 54 ปี เป็นคนที่มีการศึกษาสูง ไม่ค่อยใจดี เพราะคาดการณ์ว่าคนที่ไม่ค่อยใจดีอาจจะมีคนที่สนิทคอยให้คำปรึกษาน้อยกว่า จึงทำให้โดนหลอกง่ายนั่นเองค่ะ รวมถึงผู้หญิงจะถูกหลอกมากกว่าผู้ชาย แต่ถึงอย่างนั้นทุกเพศก็มีโอกาสถูกหลอกได้เหมือนกัน 

แล้วทำไมคนวัยกลางคนถึงโดนหลอกให้รักมากที่สุดกันล่ะ อาจเป็นเพราะ พวกเขารู้สึกมั่นใจในตัวเองว่ายังไงก็จะไม่ถูกหลอก เพราะมีการศึกษาสูง แต่คนที่ถูกหลอกมักเป็นคนที่ตัดสินใจด้วยความรวดเร็ว ทำให้หลงกลได้ง่าย จากเรื่องที่มิจฉาชีพสร้างขึ้นมาหลอก 

รวมถึงคนที่ถูกหลอกมักชอบเรื่องราวที่มีความน่าตื่นเต้น ท้าทาย ชอบคนมีโปรไฟล์ระดับสูง หน้าดึงดูดใจ มีความน่าเชื่อถือ และหวังว่าความรักครั้งนี้จะสมปรารถนา อีกเดี๋ยวจะได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ซึ่งทำให้คนที่ถูกหลอกคล้อยตามได้ง่ายและถือเป็นจิตวิทยาของคนกลุ่มนี้ที่ใช้หลอกเหยื่อนั่นเองค่ะ

Q : ทำไมคนที่ถูกหลอกให้รัก อาจจะทำผิดกฎหมายโดยไม่รู้ตัว 

A : อาจจะโดนข้อหาฟอกเงินหรือรับของโจร 

หากมิจฉาชีพ ให้รับเงินหรือสิ่งของแทน

แต่เงินหรือสิ่งของที่ได้มาโกงเขามาอีกที

ทุกคนรู้ไหมคะว่าทำไมคนที่ถูกหลอกให้รัก ถึงอาจจะทำผิดกฎหมายโดยไม่รู้ตัว เพราะ หากมิจฉาชีพ บอกให้ช่วยรับเงินแทนหน่อยนะ หรือให้เรารับของให้หน่อยนะส่งไปที่คุณสะดวกกว่า ไม่ว่าจะเป็นเงินหรือของที่ได้มาจากธุรกิจสีเทาหรือฉ้อโกงคนอื่นเขามา ถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ทำให้คนที่ถูกหลอกกลายเป็น “money mule” หรือคนที่ช่วยให้คนอื่นโกง ถึงแม้จะไม่รู้เรื่องก็ตามแต่ในกฎหมายประเทศไทย ถือว่าเป็นการร่วมกันทำผิดกฎหมาย อาจโดนข้อหาฟอกเงิน หรือรับของโจรนั่นเองค่ะ 

Q : รักษาแผลใจยังไง….เมื่อถูกหลอกจาก Romance Scam

A : ยอมรับความจริง ไม่ซ้ำเติมตัวเอง ปรับความคิด เรียนรู้วิธีรับมือกับมิจฉาชีพ ไม่เชื่อใจใครง่ายๆ ปรึกษานักจิตบำบัด ติดตั้งแอปฯ Whoscall

เพื่อป้องกันเบื้องต้น ฯลฯ 

เมื่อคนเราโดนหลอก มักจะเสียใจเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว วันนี้เราจะมาบอกวิธีรักษาแผลใจยังไง เมื่อถูกหลอกจาก Romance Scam เพื่อกลับมาฟื้นฟูจิตใจให้เข้มแข็งอีกครั้ง

ยอมรับความจริง ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น และดำเนินการทางกฎหมาย ระมัดระวังตัวเองไม่ให้โดนหลอกอีก ใช้สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียน เพราะเราเชื่อว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น สอนอะไรเราได้เสมอค่ะ 

ไม่ซ้ำเติมตัวเอง ตอกย้ำความผิดของตัวเอง การที่เรารู้ไม่เท่าทันมิจฉาชีพ อาจจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ เพราะมิจฉาชีพมีวิธีหลอกใหม่ๆ เสมอ และคนกลุ่มนั้นทำเป็นขบวนการ เขาใช้จิตวิทยาชั้นสูง และคนที่ผิดคือมิจฉาชีพไม่ใช่คนที่ถูกหลอก

ปรับความคิด เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการปรับเปลี่ยนตัวเอง เพื่อให้เราเป็นคนที่แกร่งขึ้น และอย่าจมอยู่กับความรู้สึกผิดในอดีต เพราะทุกคนสามารถผิดพลาดกันได้ค่ะ 

เรียนรู้วิธีรับมือกับมิจฉาชีพ เพื่อจะรู้ว่าเขามีวิธีการหลอกยังไง จะได้รู้และไม่หลงกลมิจฉาชีพอีก

ไม่เชื่อใจใครง่ายๆ ในเวลาอันรวดเร็ว เพราะเรายังไม่รู้จักเขาดีพอ 

 ปรึกษานักจิตบำบัด หรือ จิตแพทย์ เพราะคนที่ถูกหลอกอาจจะมีปัญหาทางด้านสุขภาพใจ รู้สึกผิดหวัง บางคนอาจเป็นโรคซึมเศร้า รู้สึกตัวเองไม่มีค่า หรือโทษตัวเองซ้ำๆ ฯลฯ

ติดตั้งแอปฯ Whoscall เพื่อป้องกันเบื้องต้น จะได้เช็คดูว่า เบอร์ที่ให้มาเป็นเบอร์มิจฉาชีพหรือเปล่านะมิจฉาชีพทุกวันนี้มีเยอะมาก และมีกลวิธีใหม่ๆ มาหลอกเราเสมอ เพราะฉะนั้นทุกคนระวังตัวกันด้วยนะคะ

มิจฉาชีพทุกวันนี้มีเยอะมาก และมีกลวิธีใหม่ๆ มาหลอกเราเสมอ เพราะฉะนั้นทุกคนระวังตัวกันด้วยนะคะ


Source

https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC5806049/ 

https://www.youtube.com/watch?v=MCmLri6Vtxo 

https://www.thaipbs.or.th/now/content/2094 

https://www.youtube.com/watch?v=3xAaF8OmXNg 

https://www.verywellmind.com/how-to-cope-with-getting-scammed-8697566 

https://www.siam-legal.com/litigation/anti-money-laundering-law-in-thailand.php 

Related Articles

Breathwork

รู้ไหม…แค่ปรับลมหายใจให้สมดุลเพื่อสุขภาพจิตที่ดีขึ้น

รู้ไหม…แค่ปรับลมหายใจให้สมดุล เป็นการเปิดประตูสู่การชะลอวัย  สร้างความสงบ ฝึกสติ เพื่อสุขภาพจิตที่ดีขึ้น ในทุกๆ 1 นาทีเราทุกคนหายใจ ประมาณ 12 ถึง 20 ครั้ง ลมหายใจสำคัญกับเราทุกคนใช่ไหมล่ะคะ เพราะถ้าเราไม่หายใจ เราก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้ แล้วทุกคนเคยนั่งสมาธิหรือฝึกลมหายใจเข้า-ออกกันบ้างไหมคะ ทุกคนรู้ไหมว่าการฝึกหายใจไม่ได้ทำให้เราสงบ มีสติหรือมีสมาธิเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญในการปรับสมดุลร่างกายและจิตใจเพื่อให้มีสุขภาพจิตและสุขภาพกายที่ดีอีกด้วย 

depression

ซึมเศร้า…หายได้ ด้วยการคอยอยู่เคียงข้าง รับฟัง และโอบกอดหัวใจ

ซึมเศร้า…หายได้ ด้วยการคอยอยู่เคียงข้าง รับฟัง และโอบกอดหัวใจ เพราะนี่ไม่ใช่การคิดไปเอง แต่เป็นโรคที่ต้องได้รับการรักษา  ทำความเข้าใจ ในปี 2025 คงไม่มีใครไม่รู้จักโรคซึมเศร้า เพราะปัจจุบันมีผู้คนทั่วโลกจำนวนมากที่กำลังเผชิญกับการป่วยเป็นโรคซึมเศร้าทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ระบุว่า มีผู้คนประมาณหนึ่งพันล้านคนทั่วโลกกำลังเผชิญปัญหาสุขภาพจิตและโรคซึมเศร้าเป็นปัญหาสุขภาพจิตอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งปัจจุบันมีผู้คนประมาณ 332 ล้านคนที่กำลังประสบปัญหาโรคซึมเศร้าอยู่ และจำนวนดังกล่าวมีผู้หญิงที่เป็นโรคซึมเศร้ามากกว่าผู้ชายด้วยค่ะ  ในขณะที่ในประเทศไทย

คำพูดที่รุนแรง ทำให้อาจจะเป็นคน Red flags โดยไม่รู้ตัว

คำพูดมีค่ากว่าที่คิด เพราะ “คำพูด”  เป็นประตูที่ก้าวผ่านเข้าไปสู่หัวใจ สามารถสร้างบาดแผลในใจ และปลุกพลังชีวิตให้กลับมาลุกขึ้นสู้  ทุกคนรู้ไหมคะว่าคำพูดที่ทุกคนพูดออกไป มีคุณค่ามากกว่าที่ทุกคนคิด เพราะคำพูดเหมือนเป็นประตูที่ก้าวผ่านเข้าไปสู่หัวใจ คำพูดเป็นสิ่งที่ทรงพลังเพราะมีผลกระทบต่อจิตใจ ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจ และการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา และบางครั้ง คำพูดเพียงแค่ประโยคเดียวอาจจะทำให้คนฟังจำไปตลอดชีวิตเลยก็ได้ค่ะ คำพูดจึงไม่ได้เป็นเพียงเสียงที่เราเปล่งออกไป แต่คำพูดเป็นกระจกสะท้อนความคิด ความเชื่อ ที่อยู่ภายในจิตใจของเราค่ะ มีใครเคยพูดโดยใช้ถ้อยคำรุนแรงออกไป แล้วมาคิดได้ทีหลังว่าเราไม่น่าพูดเช่นนี้ออกไปเลยไหมคะ?