5 เรื่องที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้
เกี่ยวกับมะเร็งเต้านม

ทุกคนรู้ไหมคะว่ามะเร็งเต้านม อาจจะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอย่างที่หลายคนคิด และไม่ได้เกิดได้กับแค่ผู้หญิงอย่างที่หลายคนเข้าใจ  เพราะผู้ชายก็สามารถเป็นมะเร็งเต้านมได้เหมือนกันและ มะเร็งเต้านมเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยไม่ใช่เพียงแค่ผู้ใหญ่เท่านั้น 🤍 

ในทุกวันนี้มีผู้หญิงที่เป็นมะเร็งเต้านมกว่า 2.3 ล้านคนทั่วโลก (ข้อมูลล่าสุดปี 2022)  เราทุกคนจึงควรตระหนักรู้และตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่จะได้รู้เท่าทันและห่างไกลจากโรคมะเร็งเต้านมค่ะ 

หลายคนรู้สึกกลัวและไม่กล้าไปตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม เพราะอาจจะคิดว่าเราไม่เป็นหรอก เรายังอายุไม่มาก หลายคนจึงอาจไม่ได้ใส่ใจสุขภาพเท่าที่ควรนัก แต่ทุกคนรู้ไหม จริงๆ แล้ว ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมมีหลายประการไม่ว่าจะเป็น พันธุกรรม อายุ เพศ ความอ้วน การไม่ออกกำลังกาย การกินอาหาร ฯลฯ สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นอาจจะนำไปสู่โรคมะเร็งเต้านมได้นั่นเองค่ะ

วันนี้ Mental Life by Chanisara จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ 5 เรื่องที่หลายคนอาจจะไม่เคยรู้เกี่ยวกับมะเร็งเต้านมกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งเต้านมเกิดจากอะไร ทุกคนรู้ไหมว่าผู้ชายก็เป็นมะเร็งเต้านมได้นะ การคลำเจอก้อนเนื้อในเต้านม ไม่จำเป็นต้องเป็นมะเร็งเต้านมเสมอไป รู้ไหมผู้หญิงที่อยู่ในวัยประจำเดือนหมดแล้วอ้วน มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมมากขึ้น และเราจะพามาดูวิธีห่างไกล! จากมะเร็งเต้านมด้วยการป้องกันกันค่ะ

breast cancer

breast cancer

Q :  มะเร็งเต้านมเกิดจากอะไร

A : เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ท่อน้ำนม ถึงประมาณ 80% และเซลล์ต่อมน้ำนม 10 % 

ทุกคนเคยสงสัยไหมคะว่ามะเร็งเต้านมเกิดจากอะไร มะเร็งเต้านมเกิดจากความผิดปกติของเซลล์ใน DNA เจริญเติบโตผิดปกติจนไม่สามารถควบคุมการเจริญเติบโตได้ โดยส่วนมากมักจะเกิดจากความผิดปกติของเซลล์ท่อน้ำนมถึงประมาณ 80% มีเพียง 10% เท่านั้น ที่เกิดจากเซลล์ต่อมน้ำนมนั่นเองค่ะ 

ทุกคนรู้ไหมคะว่าเมื่อเซลล์เสียหายเซลล์จะโตไวและแบ่งตัวไม่หยุด รวมถึงไม่ยอมตาย เมื่อมีมากเข้ากลายเป็นมะเร็งเต้านมในที่สุด และมะเร็งยังจะสามารถแผ่กระจายไปส่วนอื่นได้

breast cancer

Q : ทุกคนรู้ไหมว่าผู้ชายก็เป็นมะเร็งเต้านมได้นะ

A : โอกาสเกิดมะเร็งเต้านมในผู้ชายมีประมาณ 1% ทำให้การตรวจพบอาจจะล่าช้า อาจสังเกตได้จาก มีก้อนเนื้อที่หน้าอก หัวนมบุ๋ม มีน้ำหรือเลือดออกที่หัวนม ฯลฯ

หลายคนอาจจะคิดว่ามะเร็งเต้านมสามารถเกิดได้แต่กับผู้หญิง แต่ที่จริงผู้ชายก็เป็นมะเร็งเต้านมได้นะ องค์การอนามัยโลกบอกว่า โอกาสที่จะเกิดมะเร็งเต้านมกับผู้ชายมีเพียงแค่ 1% เท่านั้น แล้วผู้ชายส่วนใหญ่มักจะมองข้าม ทำให้อาจจะตรวจพบโรคล่าช้าเพราะคิดว่าไม่น่าจะเกิดกับเราหรอก แต่จริง ๆ มะเร็งเต้านมเกิดได้กับทุกเพศทุกวัย แม้แต่เด็กต่ำกว่าอายุ 10 ขวบก็สามารถเป็นได้ แต่มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมากๆ ซึ่งสาเหตุอาจจะเกิดจากพันธุกรรมที่ถ่ายทอดมา 

อาการเบื้องต้นที่สังเกตได้ มีดังนี้ มีก้อนเนื้อที่หน้าอก หัวนมบุ๋ม มีน้ำหรือเลือดออกที่หัวนม มีผื่นขึ้นบริเวณหัวนม หรือหัวนมเกิดการยุบตัว หรือมีสีแดงมากจนเกินไปนั่นเองค่ะ 

breast cancer

Q : การคลำเจอก้อนเนื้อในเต้านม ไม่จำเป็นต้องเป็นมะเร็งเต้านมเสมอไป

A : ประมาณ 80 – 85% ของคนที่คลำเจอก้อนเนื้อ พบว่าไม่ได้เป็นมะเร็งอาจเป็นแค่ซีสต์ หรือก้อนเนื้อธรรมดาแต่ถึงยังไงควรไปตรวจให้แน่ใจ

หากใครคลำเจอก้อนเนื้อในเต้านม ไม่ได้หมายความว่า ต้องเป็นมะเร็งเต้านมเสมอไป อาจจะไม่ใช่มะเร็งก็ได้ ข้อมูลจากเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยแห่งยูทาห์ ได้กล่าวว่า 80% – 85% ของคนที่คลำเจอก้อนเนื้อพบว่าไม่ได้เป็นมะเร็ง ซึ่งอาจจะเป็นแค่ก้อนซีสต์ หรือก้อนเนื้อธรรมดา เพราะมะเร็งเต้านมมีอาการได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการที่เต้านมโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เต้านมมีความผิดปกติข้างเดียว รูปร่างของเต้านมไม่เหมือนเดิม  ผิวเต้านมแข็งหรือหนาขึ้น ขรุขระหรือมีก้อนนูนขึ้น มีสีที่เปลี่ยนไป มีอาการเจ็บ มีการบวมแดง มีรอยบุ๋มหรือย่น ฯลฯ หากใครมีความผิดปกติดังกล่าวควรไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจวินิจฉัยโรคและทำการรักษาต่อไปค่ะ

breast cancer

Q : รู้ไหมผู้หญิงที่อยู่ในวัยประจำเดือนหมด แล้วอ้วน มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมมากขึ้น

 A : เพราะ เนื้อเยื่อไขมันจะทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนมากขึ้นแทนรังไข่เมื่ออ้วนฮอร์โมนเอสโตรเจนจะสูงขึ้นและจะกระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์มากขึ้น ทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม

ทุกคนรู้หรือไม่คะว่าผู้หญิงที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือนแล้วอ้วนขึ้นมีแนวโน้มที่จะเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งเต้านมถึง 40% เชียโ็วนะ โดยงานวิจัยของ American Cancer Society พบว่าผู้หญิงที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นประมาณ 9 – 13.6 กิโลกรัม หลังหมดประจำเดือนมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้น 

เนื่องจากตอนที่ผู้หญิงยังมีประจำเดือน รังไข่จะผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน แต่เมื่อผู้หญิงถึงวัยหมดประจำเดือน เนื้อเยื่อไขมันจะผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนแทนรังไข่ เมื่ออ้วนร่างกายจะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงขึ้นมากกว่าปกติ ซึ่งเมื่อฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงขึ้นจะกระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์เต้านมมากเกินไป ทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมนั่นเองค่ะ

มีการวิจัยจาก NHS พบว่า หากผู้หญิงลดน้ำหนักลงประมาณ 10 กิโลกรัมหลังหมดประจำเดือนจะลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมได้อีกด้วยค่ะ 

breast cancer

Q : ห่างไกล! มะเร็งเต้านมด้วยการป้องกันได้ 

A : 1.ตรวจด้วยตัวเองทุกเดือนไปตรวจกับหมอทุกปี

2.คุมน้ำหนักไม่ให้อ้วนจนเกินไป 

3.กินอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกาย

4.หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์

5. กินวิตามิน D เป็นประจำ 

ทุกคนรู้ไหมว่า เราห่างไกลจากโรคมะเร็งเต้านมได้ ด้วยการป้องกัน โดยเราสามารถทำได้ดังนี้

1. ตรวจมะเร็งเต้านมเป็นประจำ

คอยหมั่นคลำเต้านมทุกเดือนหรือสังเกตว่ามีก้อนเนื้อหรือมีอะไรผิดปกติหรือไม่ รวมถึงไปตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมทุกปี ปีละ 1 ครั้งกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

2. คุมน้ำหนักไม่ให้อ้วนจนเกินไป 

เพราะผู้หญิงหลังวัยหมดประจำเดือน หากอ้วนจนเกินไปจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมนั่นเองค่ะ

3. กินอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกาย

การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น เนื้อปลา ถั่วเหลือง ผัก ผลไม้จะช่วยป้องกันมะเร็งเต้านมได้ และรู้ไหมว่าการดื่มชาเขียวหรือชาดำมีสารต้านอนุมูลอิสระป้องกันมะเร็งเต้านมด้วยเช่นกัน โดยเว็บไซต์ของโรงพยาบาลกรุงเทพได้ให้หลักการกินอาหารที่ถูกต้องไว้ว่า ควรกินผลไม้ 2 ใน 3 ของอาหารมื้อหลัก และกินเนื้อสัตว์แค่เพียง 1 ใน 3 ของอาหารมื้อหลัก ซึ่งเป็นหลักการกินที่ดีต่อสุขภาพของคนเรานะคะ 

เว็บไซต์ Harvard Health ระบุว่ามีงานวิจัยหลายชิ้นที่ได้กล่าวว่าผู้หญิงที่ไม่ออกกำลังกายมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมมากกว่าผู้หญิงที่ออกกำลังกาย 

การที่ผู้หญิงออกกำลังกาย 3 -10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จะทำให้ลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมได้ประมาณ 20% – 30% เลยนะ เพราะการออกกำลังกายส่งผลต่อฮอร์โมนในร่างกาย สำหรับผู้ที่เคยรักษามะเร็งเต้านมหายมาแล้ว การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งเต้านมซ้ำได้อีกด้วยค่ะ 

การออกกำลังกายควรออกกำลังกายในรูปแบบที่ไม่หนักจนเกินไป เช่น การเดินเร็ว การวิ่ง การโยคะ หรือแม้แต่การออกกำลังกายด้วยการทำงานบ้าน หรือทำสวนค่ะ

4. หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์

การดื่มของมึนเมา เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม เว็บไซต์ Harvard Health ระบุว่าผู้หญิงไม่ควรกินของมึนเมาเกินวันละ 1 แก้ว

5. กินวิตามิน D เป็นประจำ 

เว็บไซต์ Harvard Health ระบุว่ามีงานวิจัยหนึ่งพบว่าการกินวิตามิน ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมถึง 50% เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับแสงแดดเพียงพอทุกวันค่ะ 

“มะเร็งเต้านม” เป็นโรคที่เราทุกคนไม่ควรมองข้าม และต้องหมั่นป้องกันหรือรักษาเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นหรือเป็นอันตรายต่อตัวเรานะคะ 


Source

https://praram9.com/th/articles/breast-cancer-staging

https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC8099684/#:~:text=,well%20as%20peripheral%20site 

https://www.nationalbreastcancer.org/breast-cancer-treatment/#:~:text=In%20general%2C%20there%20are%20five,your%20whole%20body%20with%20cancer

https://www.paolohospital.com/th-TH/rangsit/Article/Details/ 

https://www.nationalbreastcancer.org/male-breast-cancer/ 

https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/breast-cancer 

http://healthcare.utah.edu 

bpksamutprakan.com 

https://www.cancer.org/cancer/ https://www.health.harvard.edu/womens-health/seven-for-2007-seven-things-you-should-know-about-breast-cancer-risk 

https://www.nature.com/articles/pr19991019 

https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/breast-cancer/symptoms-causes/syc-20352470

Related Articles

International Day for Tolerance

ความแตกต่าง ≠ ความแปลกแยก เราทุกคนควรได้รับสิทธิอย่างเท่าเทียม

ความแตกต่าง ≠ ความแปลกแยก แต่เราทุกคนต้องได้รับโอกาสใช้ชีวิตในสังคม และถูกยอมรับด้วยหัวใจ ทุกคนว่าไหมคะบนโลกใบนี้มีคนที่แตกต่างกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านสีผิว ความพิการ ชาติ ศาสนา วัฒนธรรม ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือแม้แต่คนที่มีข้อจำกัดในการใช้ชีวิตในสังคม ไม่ว่าจะเป็นสาวพลัสไซส์ คนผิวเผือก คนแก่ หรือคนที่ต้องการความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ไม่ว่าเขาจะเป็นใครเขาควรได้รับสิทธิ์ใช้ชีวิตขั้นพื้นฐานในสังคมเหมือนกับทุกๆ คน เช่น

single

เพราะไม่ว่าเราจะเป็นโสด หรือ มีคู่เราจะต้องเป็นแสงสว่างที่นำทางชีวิตตัวเอง

ไม่ว่าจะโสดหรือมีคู่ เราต้องมีความสุขและเป็นเทียนที่ส่องสว่าง นำทางชีวิตตัวเองให้ได้  ทุกคนรู้ไหมว่าในปัจจุบันมีคนโสดทั่วโลกอยู่ประมาณ 2.12 พันล้านคน หรือราว 27% ของประชากรโลกเลยนะ และมีการคาดการณ์ว่าคนโสดจะมีสูงขึ้นเรื่อยๆ (ข้อมูลล่าสุด ปี 2023) ทุกคนคิดว่าการที่เป็นคนโสด เราต้องรู้สึกเหงาจริงหรือเปล่านะ มีหลายผลการวิจัยบอกว่าการเป็นโสดทำให้เหงากว่าคนมีคู่นิดหน่อย แต่ทำไมมีคนจำนวนไม่น้อยที่ยังเป็นโสดกันล่ะ อาจเป็นเพราะอยากอยู่คนเดียว ไม่ชอบออกจากบ้าน ชอบนอนดูซีรีส์

รู้ยัง! จิตแพทย์ VS นักจิตวิทยา แตกต่างกันยังไงนะ

พบจิตแพทย์ = การรักษา พบนักจิตวิทยา  =  พูดคุย ปรับความคิด ฟื้นฟูจิตใจให้กลับมาเข้มแข็ง ทุกคนรู้ไหมคะว่าการหาหมอจิตแพทย์กับการไปหานักจิตวิทยาต่างกันอย่างไร ทุกคนคงรู้ว่าทั้งจิตแพทย์และนักจิตวิทยา เป็นคนที่ช่วยดูแลใจของเราทั้งคู่ ทุกวันนี้มีผู้คนจำนวนมากที่หันมาใส่ใจและให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตมากขึ้น ถึงแม้ว่ายังมีคนบางส่วนที่ยังเข้าใจว่าคนที่ไปหาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา จะต้องเป็นคนที่ประสบปัญหาสุขภาพจิตค่อนข้างหนัก แต่แท้จริงแล้วการไปพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา ไม่ต้องประสบปัญหาด้านสุขภาพจิตก็สามารถไปพบได้ เช่น รู้สึกไม่สบายใจ กลุ้มใจ มีปัญหาทางด้านความรัก