มหาวิหารเบอร์ลินในซีรีส์
Queen of Tears
สถานที่แห่งประวัติศาสตร์
และสถาปัตยกรรมอันล้ำค่า

หากใครเป็นสาวกซีรีส์เกาหลี หรือ ติดตามซีรีส์เรื่อง Queen of Tears ที่เพิ่งจบไปไม่นาน คงเคยเห็นภาพมหาวิหารสุดอลังการและสวยงามที่เป็นโลเคชั่นสำคัญของหนังเรื่องนี้ หลายคนคงจะสงสัยว่ามหาวิหารสุดอลังการนี้อยู่ที่ไหนกันนะ? และอาจจะอยากทราบเบื้องลึกเบื้องหลัง รวมถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมา วันนี้ Sansiri Blog จะหาคำตอบมาให้ พร้อมมาเล่าถึงประวัติศาสตร์และการออกแบบสถาปัตยกรรมที่สวยงามของมหาวิหารแห่งนี้ให้ทุกคนฟังกันค่ะ 

Berlin cathedral

มหาวิหารแห่งนี้มีชื่อว่า “มหาวิหารเบอร์ลิน” หรือ “แบร์ลิแนร์โดม” (Berlin cathedral)  ตั้งอยู่ในเมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน สร้างขึ้นครั้งแรกในช่วงศตวรรษที่ 15 ในสมัยนั้นมหาวิหารเบอร์ลินยังเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังเบอร์ลิน แต่ในปัจจุบันอยู่ในความดูแลของกลุ่มคนที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ในกรุงเบอร์ลิน 

ย้อนกลับไปในช่วงศตวรรษที่ 15 เมืองเบอร์ลินเป็นเมืองเล็กๆ ที่กำลังขยายตัว จึงต้องการสร้างโบสถ์ขนาดใหญ่สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ต่อมาในศตวรรษที่ 19 มหาวิหารเบอร์ลินได้ถูกออกแบบและปรับปรุงใหม่อีกครั้ง ให้เป็นสไตล์นีโอคลาสสิก โดย Karl Friedrich Schinkel สถาปนิกที่มีชื่อเสียงชาวเยอรมัน 

ภายหลังจากสมเด็จพระจักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 2 แห่งเยอรมนี ขึ้นครองราชย์ท่านได้มองว่ามหาวิหารดังกล่าว มีความเรียบง่ายและธรรมดาเกินไป จึงต้องการที่จะสร้างมหาวิหารหลังใหม่ให้สมฐานะพระมหากษัตริย์จึงให้ Julius Carl Raschdorff สถาปนิกชาวเยอรมันที่มีชื่อเสียงในขณะนั้นออกแบบสร้างมหาวิหารหลังใหม่ทับที่เดิม โดยออกแบบสไตล์นีโอเรอเนซองส์ในปี ค.ศ. 1894 และสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1905

หลังจากนั้นหลายปีต่อมาได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้มหาวิหารเบอร์ลินได้รับความเสียหายอย่างมากมายมหาศาล จึงถูกบูรณะใหม่อีกครั้งและสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1993 มหาวิหารแห่งนี้ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ปรัสเซียนและยังถือเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเบอร์ลินอีกด้วย

การบูรณะปรับปรุงใหม่หลายครั้งทำให้มหาวิหารแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมงดงามมากแห่งหนึ่ง  ตัวอาคารแห่งนี้มีหลังคาโดมขนาดใหญ่ ทางเข้ามหาวิหารแห่งนี้เป็นบันไดเชื่อมกับตัวอาคาร อาคารด้านนอกจะมีผลงานแกะสลักและรูปปั้นอันแสนประณีตบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมืองเบอร์ลิน ซึ่งสื่อให้เห็นถึงฝีมือของผู้เนรมิตผลงานสถาปัตยกรรมนั่นเอง อีกทั้งบริเวณข้างหน้าวิหารจะมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า Lustgarten ที่ผู้คนสามารถมาเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจได้อีกด้วย

ภายในมหาวิหารจะถูกออกแบบด้วย สไตล์นีโอเรอเนซองส์ มีโดมสูงตระหง่านที่ดูเหมือนเอื้อมไปสู่สวรรค์ มีหน้าต่างที่เป็นกระจกหลากสีสันซึ่งแสงสามารถลอดผ่านเข้ามากระทบผนังและพื้นทำให้เกิดความสวยงาม นอกจากนี้ยังมีแท่นบูชาที่ประดับด้วยแผ่นทองและแกะสลักอย่างงดงามประณีตมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทและทักษะของช่างฝีมือ อีกทั้งยังมีรูปปั้นที่อยู่ตามทางเดินทำให้คนที่ไปเยี่ยมชมอาจจะรู้สึกตื่นตาและประทับใจเป็นอย่างมาก

หากเดินขึ้นบันไดอันแสนคดเคี้ยวประมาณ 217 ขั้น จะเจอ rooftop ที่สามารถชมวิวทิวทัศน์ของกรุงเบอร์ลินได้ไกลสุดลูกหูลูกตา นอกจากนี้ภายในมหาวิหารเบอร์ลินยังมีห้องใต้ดิน Hohenzollern ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานฝังศพของราชวงศ์ที่สำคัญที่สุดของเยอรมันจากห้าศตวรรษ บรรจุโลงศพประมาณเกือบ 100 โลง บางโลงมีความธรรมดาเรียบง่ายแต่บางโลงมีความหรูหรา เช่น โลงหินที่บรรจุร่างของสมเด็จพระจักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 1 แห่งเยอรมนีและโลงที่บรรจุร่างของสมเด็จพระราชินีโซฟี ชาร์ลอตต์ ซึ่งผลงานดังกล่าวได้รับการจัดอันดับให้เป็นผลงานชิ้นเอกของประติมากรรมสไตล์บาโรกอีกด้วย แต่ในส่วนของห้องใต้ดิน ขณะนี้กำลังปิดปรับปรุงและจะเปิดให้เข้าชมในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี ค.ศ 2525 

ปัจจุบันมหาวิหารเบอร์ลินของประเทศเยอรมนี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนทั่วโลกต่างพากันมาเยี่ยมชมและยังเป็นโบสถ์ที่ใช้จัดงานต่างๆ เช่น งานแต่งงาน งานศพ นิทรรศการคอนเสิร์ต และพิธีกรรมต่างๆ ทางศาสนาคริสต์อีกด้วย

มหาวิหารเบอร์ลินสถานที่ที่ซีรีส์ Queen Of Tears ไปถ่ายทำถือเป็นโบสถ์ที่ยิ่งใหญ่สุดอลังการแห่งหนึ่งของประเทศเยอรมัน มีสถาปัตยกรรมที่งดงามและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ หากใครได้ไปเที่ยวเยอรมันไม่ควรพลาดที่นี่เลยนะ


Source 

https://www.facebook.com/groups/TravelEuropeByYourself/posts/1821418841688850/

https://www.visitberlin.de/en/berlin-cathedral 

https://www.berlin.de/en/attractions-and-sights/3559744-3104052-berlin-cathedral.en.html 

https://www.urbanchallenger.com/blog/unveiling-the-fascinating-history-of-berlin-cathedral 

https://www.berlinerdom.de/en/visiting/about-the-cathedral/architecture/ 

Related Articles

Olympics Paris ในรอบ 100 ปี สะท้อนประวัติศาสตร์ การออกแบบ ความเท่าเทียมและสิ่งแวดล้อม

การแข่งขันกีฬาระดับโลกสุดยิ่งใหญ่อย่างโอลิมปิกกลับมาแล้วกับสี่ปีที่เรานักกีฬาและคนที่ชื่นชอบกีฬา ลอยคอ…รอคอย หลังจากประเทศฝรั่งเศสได้รับการส่งไม้ต่อจากประเทศญี่ปุ่นเมื่อสี่ปีก่อน กับการกลับมาจัดการแข่งขันโอลิมปิกอีกครั้งในรอบ 100 ปี ของประเทศฝรั่งเศส จะมีความพิเศษและยิ่งใหญ่ขนาดไหน  วันนี้ Sansiri blog จะมาเล่าถึงต้นกำเนิดของโอลิมปิก การออกแบบที่สะท้อนความเป็นฝรั่งเศส ความเท่าเทียม และการจัดงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมให้ทุกคนฟังกันค่ะ กรีกต้นกำเนิดโอลิมปิก โอลิมปิกจัดการแข่งขันขึ้นครั้งแรกในยุคกรีกโบราณ โดยจะเน้นการแข่งขันกีฬาประเภทกรีฑา รวมถึงจะมีการแข่งขันรถม้าและต่อสู้อีกด้วย ในยุคนั้นผู้เข้าแข่งขันกีฬาต้องเปลือยกายและเป็นผู้ชายเท่านั้น

ART TOYS story

ART TOYS Story งานอาร์ตที่เป็นมากกว่าของเล่น

เชื่อว่านาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก “labubu” เพราะเขากระแสแรงแซงทางโค้งจริง ๆ ทุกคนรู้หรือไม่ว่า labubu ถือว่าเป็นของสะสมที่จัดอยู่ในประเภทของเล่นที่เรียกกันว่า “Art Toys” ซึ่งกระแสดังกล่าวทำให้คนรู้จัก Art Toys กันมากขึ้นและทำให้ Art Toys กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งหลังจากที่  Art Toys อย่าง “Bearbrick”

equal-marriage-law

เมื่อโลกนี้มี “กฎหมายสมรสเท่าเทียม”

 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการผ่านร่างฯ กฎหมายสมรสเท่าเทียมของประเทศไทย ในระหว่างที่รอประกาศใช้อย่างเป็นทางการนั้น เรามาย้อนดูการเดินทางกว่า 20 ปี ก่อนที่ “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” จะผลิดอกเบ่งบานไปทั่วโลกกันค่ะ  ย้อนรอยการต่อสู้เพื่อความรักที่เท่าเทียมอันยาวนาน อาจจะนานนับศตวรรษ หรือมากกว่านั้นก็เป็นได้ แต่เหตุการณ์ที่สร้างแรงกระเพื่อมให้กับสังคมครั้งใหญ่ก็คือ “เหตุจลาจลที่สโตนวอลล์ หรือ Stonewall Riots” ที่ทำให้เกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับการกดขี่การแสดงออกและอัตลักษณ์ทางเพศ หลังจากนั้นก็มีการต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิและการแสดงออกถึงตัวตนอย่างเสรีภาพอย่างเท่าเทียมมาเรื่อยๆ จนถึงวันที่มี