ชวนถอดบทเรียน จากซีรีส์ Bullying
ที่ชวนให้เราใจดีกับสังคม
มากกว่าแค่ความบันเทิง

ทุกคนเคยลองสังเกตกันไหมคะว่าซีรีส์หรือภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่องที่เราเคยได้ดู หรือผ่านตามาในช่วงหลายปีนี้ถ้าไม่ใช่แนวโรแมนติคคอมเมดี้ หรือแนวแอคชั่นสุดฮิต พล็อตที่โผล่มาเสมอ ไม่ว่าจะในบทหลักหรือเสี้ยวหนึ่งของบทเสมอคือการกลั่นแกล้ง ซึ่งการกลั่นแกล้งเกิดขึ้นได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การละเมิดทางคำพูด ไปจนถึงการทำร้ายร่างกาย อีกทั้งยังสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายพื้นที่ เช่น การกลั่นแกล้งทางออนไลน์ ที่ทำงาน ที่บ้าน และที่อื่น ๆ ที่มีการพบปะกัน

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม การกลั่นแกล้งคนอื่นนั้นไม่เคยเป็นเรื่องที่ถูกต้อง อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของผู้ถูกรังแก เราจะเห็นได้จากบาดแผลและความเจ็บปวดที่ตัวละครต่าง ๆ ได้ถ่ายทอดออกมา ซึ่งการผลิตซ้ำหล่านี้เองที่อยากจะชวนให้เราตระหนักถึงการกลั่นแกล้งในรูปแบบต่าง ๆ ว่าไม่ควรเกิดขึ้น และชวนให้เราใจดีกับสังคมมากว่าแค่การดูเพื่อความบันเทิง

วันนี้แสนสิริ รวบรวมซีรีส์ Bullying จากประเทศต่าง ๆ ที่มีเนื้อเรื่องน่าสนใจมาฝากกันค่ะ ทำให้เราเข้าใจและมองเห็นความสำคัญของการหยุดพฤติกรรมการกลั่นแกล้งได้อย่างชัดเจน เพราะเราเชื่อว่าความรู้สึกสะเทือนใจ เสียใจ ผิดหวัง ที่เรารู้สึกผ่านการรับชมซีรีส์ในจอนั้นเป็นแค่เสี้ยวหนึ่งเท่านั้น แต่ความเป็นจริงยังมีเหยื่ออีกหลายคนที่ถูกทำร้ายจนถึงขั้นมีอาการซึมเศร้า คิดทำร้ายตัวเอง จนกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครอยากให้เกิด

ฉะนั้นเราก็ควรคำนึงถึงความรู้สึกและจิตใจของคนอื่นให้มากขึ้น เพราะความสนุกเพียงชั่วคราวอาจกลายเป็นความทุกข์ระยะยาวของใครหลายคน การถอดบทเรียนจากซีรีส์ ชวนให้เรายอมรับในความแตกต่างและหลากหลาย ตลอดจนเคารพในความเท่าเทียมกันของมนุษย์ เพื่อสร้างบรรทัดฐานใหม่ที่ดีกว่าเดิมให้กับสังคมนั่นเองค่ะ จะมีเรื่องอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!

Bullying

Bullying

Weak Hero

ซีรีส์ไฮสคูลเกาหลี แนวแอคชั่น – ดราม่า ที่ดัดแปลงมาจากเว็บตูนเกาหลีที่ชื่อ Weak Hero (약한영웅) ผลงานเขียนของ Seopass เปิดตัวครั้งแรกบน Naver Webtoon ในปี 2018 ก่อนจะถูกแปลอีกหลากหลายภาษา มีความยาวมากกว่า 200 ตอน มียอดอ่านในประเทศไทยสูงกว่า 62 ล้าน ได้รับความนิยมสูงมาก ๆ ค่ะ

เล่าเรื่องราวของของ ‘ยอนชีอึน’ นักเรียนต้นแบบที่อยู่ในระดับท็อป 1% ด้วยความที่เป็นคนเงียบ ๆ ภายนอกเขาจึงดูอ่อนแอ ทำให้ตกเป็นเหยื่อการบูลลี่ของพวกเด็กอันธพาล แต่เขากลับใช้ใช้ “สติปัญญา” “ไหวพริบ” และ “สิ่งของรอบตัว” ต่อสู้กับความรุนแรงในโรงเรียนได้อย่างฉลาดและกล้าหาญ หลายฉากทำให้เราเห็นการชูประเด็น “ความรุนแรงภายในโรงเรียน” ผสมผสานการต่อสู้ของเด็กๆ ที่ต้องเอาชีวิตรอด ร่วมมือกันต่อกรกับนักเลงในโรงเรียนและอันธพาลนอกโรงเรียน อันนำไปสู่ความสำเร็จในการก้าวผ่านบาดแผลภายในจิตใจ เกิดเป็นมิตรภาพระหว่างเพื่อนเพื่อล้มระบอบการกลั่นแกล้งนี้ในท้ายที่สุด

“กฎนิวตันข้อ 2 ความเร่งของวัตถุขึ้นกับแรงที่กระทำและมวลของวัตถุ”

ซีรีส์นำเสนอชีวิตที่เปรียบเหมือนระบบชนชั้นสังคมที่เข้มขนในรั้วโรงเรียน สังเกตได้จาก ชีอึน ที่เปลี่ยนตัวเองจากคนเฉยเมยไม่สนใจต่อสิ่งใด กลายมาเป็นนักสู้ที่เปลี่ยน “สมอง” ให้มาเป็น “กำลัง” เพื่อให้ตัวเองสามารถช่วยเหลือกลุ่มคนที่ถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียนได้ และตัวละครยังทำให้เราเห็ยภาพว่าแม้ภูมิหลังทุกคนจะดีหรือร้าย แต่ยังมีคนที่พร้อมจะเปิดใจ ไม่ตัดสินชีวิตของใคร และได้เรียนรู้ที่จะเชื่อใจ ไว้วางใจ รับรู้ว่ามีคนที่รักเขาอยู่ ซึ่งคนนั้นคือ “มิตรภาพ” ที่ช่วยให้เราผ่านทุกอุปสรรคและการั่นแกล้งเหล่านี้ไปได้ค่ะ

Bullying

Pyramid Game

ซีรีส์ซีรีส์แนวระทึก ขวัญจิตวิทยา เอาชีวิตรอด สร้างจากเว็บตูนชื่อดังที่เขียนและวาดโดย Dalgonyak 

เล่าเรื่องราวของ ‘ซองซูจี’ เด็กสาววัยรุ่นที่คุ้นเคยกับการย้ายโรงเรียนตามคุณพ่อผู้รับราชการทหาร และครั้งนี้ก็เช่นกัน เธอถูกย้ายไปอยู่ในโรงเรียนสตรีแพคยอน ก่อนจะพบว่าในห้องเรียนนี้มีธรรมเนียมการเล่น Pyramid Game เกมที่หล่านักเรียนจะทำการโหวตแบบไม่ออกนามให้กับคนอื่นทุกเดือน แบ่งแยกเป็น เกรด A, เกรด B, เกรด C, เกรด D และ เกรด F ซึ่งคนที่อยู่ เกรด A จะได้ปกครอง ออกคำสั่งคนที่อยู่เกรดต่ำกว่า ส่วนคนที่อยู่ เกรด F จะเป็นพวกนอกคอก หรือหมาหัวเน่า อย่างเปิดเผย และจะถูกบูลลี่ไปเป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งนอกจากนี้ เด็กเกรด A ยังสามารถจะทำอะไรเด็กเกรด F ก็ได้ นี่คือหนึ่งในกฎเหล็กของเกมพีระมิด

“อย่ากลัวที่จะลุกขึ้นสู้ ถึงแม้จะไม่มีใครอยู่ข้างๆ”

ซีรีส์นำเสนอภาพจำลองของสังคมอย่างละเอียด จากตัวละครที่สะท้อนบุคลิกผู้คนแต่ละชนชั้นไว้อย่างสมบูรณ์ เพราะนักเรียนที่ย้ายเข้ามาใหม่จะกลายเป็นคนแปลกแยก เหมือนอยู่จุดต่ำสุดของสังคม ทำให้จะตกเป็นเป้าหมายของเกมพีระมิดในทันทีและถูกรังแกอย่างรุนแรง ทางออกแรกคือการหลบหนีจากการกลั่นแกล้ง แต่สิ่งที่จะทำให้ปลอดภัยได้จริง ๆ คือการยกเลิกเกมนี้ นำมาสู่การเป็นตัวตั้งตัวตีกบฏและรวบรวมกลุ่มเพื่อน ๆ พยายามถีบตัวเองให้ขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดของพีระมิดเพื่อต่อต้านและยกเลิกเกมนี้ และซีรีส์ยังตอกย้ำให้เห็นว่าชนชั้นมีอยู่ทุกที่ ในกองทัพ ในสังคม ในโรงเรียน เมื่อโตขึ้นทุกคนจะรู้ว่าโรงเรียนก็คือสังคมจริงขนาดย่อรูปแบบหนึ่ง

Bullying

Homeroom ห้องเรียนลับ

ซีรีส์ดราม่าระทึกขวัญที่ดัดแปลงจากซีรีส์ต้นฉบับชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่นอย่าง Mr.Hiiragi’s Homeroom ในเวอร์ชั่นไทยให้เข้มข้นขึ้น

เล่าเรื่องราวเมื่อ ‘ครูวิณณ์’ ครูประจำชั้นห้องม.6/1 นัดนักเรียนทั้งห้องมาถ่ายรูปรุ่นใหม่อีกครั้ง เนื่องจากมีนักเรียนในห้องคนหนึ่งเสียชีวิตไป แต่มีเสียงระเบิดดังขึ้น เด็กทุกคนอยู่ในความตระหนก ครูวิณณ์จึงประกาศว่านักเรียนทั้งหมด 29 คนในห้องนี้ถูกจับเป็นตัวประกัน พร้อมกดระเบิดปิดทางเข้าออกห้องเรียนอีกครั้งเพื่อตัดขาดทุกคนจากโลกภายนอก จะไม่มีใครได้ออกไปจากที่นี่ จนกว่าจะมีใครให้คำตอบได้ ว่าใคร เป็นคนทำให้ ‘เรน’ เพื่อนร่วมห้องพวกเขาต้องตายด้วยเกมแต่ละด่าน เมื่อเกมดำเนินไปความลับอันน่าตกใจของนักเรียนแต่ละคนก็ถูกเปิดเผยทีละคน

“ก่อนที่จะตัดสินใจให้หยุดคิดซะก่อน ถามตัวเองว่ามันถูกต้องแน่แล้วหรอ เรื่องแบบนี้ทุกคนรู้ดีแต่ทำไม่ได้”

ซีรีส์เล่าเรื่องประเด็นการกลั่นแกล้งกันในโรงเรียนและโลกไซเบอร์ ฉายภาพให้เราเห็นถึงความรู้สึกว่าถ้าวันหนึ่งเราอาจจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่มีโอกาสยื้อความตายของใครบางคนไว้ได้ในวันหนึ่ง และถ้าวันนั้นมาถึง เราจะใช้กำลังทั้งหมดที่มียื้อรั้งเขาคนนั้นไว้ได้ไหม รวมถึงประเด็นสังคมอื่น ๆ มีประเด็นที่เชื่อมโยงกับครอบครัว เช่น ความกดดันจากพ่อแม่ ความคาดหวังเกินจริง ปัญหาทางจิตใจ และการละเลยจากครูในระบบที่ “เน้นผลประโยชน์มากกว่าความเป็นคน” และสิ่งที่สะเทือนใจที่สุดคือ การถูกกดดัน – รังแกซ้ำซ้อนทั้งจากเพื่อน ครอบครัว และครูบางคนที่เพิกเฉยต่อการกลั่นแกล้งในโรงเรียน พลาดไม่ได้ที่จะสนับสนุนซีรีส์ไทยน้ำดีอีกเรื่องของไทยเลยค่ะ

Bullying

AlRawabi School for Girls

ซีรีส์ภาษาอารบิก จากประเทศจอร์แดน ความยาว 6 ตอน จากผลงานการสร้างของ Netflix คอนเทนต์จากฝั่งตะวันออกกลางที่ทีมผู้สร้าง ทีมงาน และนักแสดง แทบจะหญิงล้วนกันทั้งกอง

เรื่องราวของ ‘มาเรียม’ ใช้ชีวิตเรียบง่ายและมีระเบียบวินัย แต่อย่างไรก็ตาม ในโรงเรียนหญิง AlRawabi มาเรียมและนักเรียนคนอื่น ๆ มักจะถูกกลุ่มนักเรียนหัวกะทิ 3 ​​คนที่เป็นผู้มีอิทธิพลในโรงเรียนรังแกอยู่เสมอ โดย ‘ลายาน’ แก๊งดาวเด่นรุมทำร้ายมาเรียมแต่ปรากฏว่าลงมือแรงจนหัวกระแทกก้อนหินสลบไป พวกที่แกล้งก็วิ่งหนีแถมตอนหลังยังมาอ้างว่าป้องกันตัวจากการถูกมาเรียมลวนลาม ร้ายไปกว่านั้นคือเด็กคนอื่นในห้องดันสุมหัวเชื่อคำพูดลายานอีก จนทำให้มาเรียมถูกพักการเรียนพร้อมเตรียมตัวแก้แค้น ลายาน, ราเนีย, รุคายา ที่รุมทำร้ายและกลั่นแกล้งคนอื่น

“You’re now like a broken pane of glass”

ซีรีส์ทำให้เห็นว่าเรื่องเกิดในสังคมอาหรับ ที่มีความเป็นปิตาธิปไตยและอนุรักษนิยมอยู่มาก มีประเด็นวัยรุ่นและพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่าง ๆ แตกต่างออกไป ไม่ได้เป็นเรื่องเด็กบุลลี่กันธรรมดาทั่วไป นอกจากนี้ซีรีส์นี้ยังพาไปสำรวจประเด็นต่าง ๆ เช่น การใช้โซเชียลมีเดียในทางที่ผิด ความรุนแรงในครอบครัว และปัญหาสุขภาพจิต ซึ่งแต่ละตอนจบลงด้วยข้อความที่ให้ข้อมูลและแหล่งข้อมูลแก่ผู้ชมที่อาจประสบปัญหาที่กล่าวถึงในเรื่อง เช่น การกลั่นแกล้ง ความผิดปกติทางการกิน หรือความคิดฆ่าตัวตาย ทำให้เห็นว่าท้ายที่สุดแล้วทุกตัวละครล้วนยังเป็นแค่เด็กที่ต้องการอิสระบ้าง มีความรักเพื่อน ห่วงใยเพื่อน และปกป้องศักดิ์ศรีของเพศหญิงด้วยกันไม่ให้ถูกคุกคามจากสังคมชายเป็นใหญ่ก็เท่านั้น

Bullying

Adolescence

ซีรีส์แนวดราม่าอาชญากรรมผสมแง่มุมเชิงจิตวิทยา สร้างสรรค์และเขียนบทโดย Jack Throne และ Stephen Graham ที่ใช้การเลือกถ่ายทำแบบ Long Take ตลอดทั้ง EP. ที่เป็นการถ่ายทำอย่างต่อเนื่องจริง ๆ ไม่มีการตัดฉากตลอดเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงต่อตอน ทำให้ Adolescence เป็นซีรีส์ที่ยากจะละสายตา ทั้งจากตัวเนื้อเรื่อง และเทคนิคการถ่ายทำที่น่าทึ่งที่เล่าเรื่องด้วยวิธีให้ความรู้สึกเหมือนดูละครเวที ถ้าได้ดูแล้วจะรู้เลยว่านี่คือเพชรเม็ดงามของซีรีส์เน็ตฟลิกซ์

เรื่องราวของ ‘เจมี’ เด็กชายอายุ 13 ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจู่โจมเข้าจับกุมตัวเขาถึงที่บ้านในช่วงเช้าตรู่ เนื่องจากตกเป็นผู้ต้องสงสัยหลักในการก่อเหตุกระหน่ำแทงนักเรียนหญิงเพื่อนร่วมรุ่นที่โรงเรียนเดียวกันจนถึงแก่ชีวิต ทำให้เขาต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและการสืบสวนที่เข้มข้น แม้ว่าจะเป็นผู้เยาว์ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ร่วมไขคดีไปด้วยกันว่าอะไรกันแน่ที่หล่อหลอมให้เด็กคนหนึ่งก่อเหตุฆาตกรรมและกลายเป็นฆาตกรในที่สุด

“It’s Crazy, What Your Brain Tells You To Do When You’re A Kid.”

Adolescence แปลว่า ช่วงรอยต่อระหว่างเด็กสู่ผู้ใหญ่ ซีรีส์พาเราไปสำรวจแง่มุมต่าง ๆ ของกระบวนการสืบสวนสอบสวนหาเบาะแสของอาชญากรรมเด็ก พร้อมฉายภาพปัญหาของ Cyber Bullying ที่เกิดกับใครก็ได้ โดยส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นจากความเชื่อหรือค่านิยมต่าง ๆ ที่คนต่างรุ่นต่างเจนก็ไม่เข้าใจกัน เหมือนในฉากที่อีโมจิยาเม็ดสีแดงระเบิด ที่เคทีส่งให้เจมีในไอจี ไม่ใช่ข้อความในแง่ดี แต่คือการสื่อเป็นนัยถึงคอมมูนิตี้ชายแท้ อีกทั้งยังมีอีโมจิเยาะเย้ยว่าเจมีคือ ‘อินเซล (incel)‘ กลุ่มชายที่ถือพรหมจรรย์โดยไม่สมัครใจ ด้วยหมดหวังที่จะมีโอกาสปฏิสัมพันธ์กับผู้หญิง เพราะอิโมจิสองตัวนี้เองกลายเป็นจุดเริ่มต้นการกลั่นแกล้งทางออนไลน์จนนำไปสู่โศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครอยากให้เกิด

CONTRIBUTOR

Related Articles

Dating Shows บทเรียนความหลากหลายที่ใช้ได้จริงในวันที่ความรักผลิบานทั่วโลก

Dating Shows บทเรียนความหลากหลายที่ใช้ได้จริงในวันที่ความรักผลิบานทั่วโลก

 ในช่วงปีที่ผ่านมามีรายการเรียลลิตี้หลากหลายรูปแบบผลิตออกมามากมาย แต่รายการประเภทจับคู่เดตได้รับความสนใจและความนิยมเป็นพิเศษจากกระแสรายการ Single’s Inferno ของประเทศเกาหลี ด้วยคอนเซปต์ของรายการที่ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสมุมมองของความรักที่แสนจะครบรสชาติ ไม่ว่าจะหวานชื่น หรือขมปี๋ ที่ได้นำกลุ่มคนอยู่ร่วมกัน เพื่อให้ใช้เวลาและทำภารกิจด้วยกัน จนก่อเกิดเป็นความสัมพันธ์และความรู้สึกดี ๆ เมื่อรายการจบลงคนที่สามารถหาคู่ได้ ก็สามารถออกไปสานสัมพันธ์กันต่อนอกรายการ ทำให้มีอีกหลายรายการที่มีคอนเซปต์ไม่ซ้ำเกืดขึ้นตามมา แต่ละรายการจะมีลูกเล่น มีความสนุกที่แตกต่างกัน ทำให้เห็นความรักที่มีหลากหลายรูปแบบ ใครมีรายการโปรด แนะนำกันได้ที่ใต้คอมเมนต์นี้เลยนะคะ

สถานการณ์ทะเลและชายฝั่งไทย พาไปส่องที่มาและวิธีรักษาให้ลึกถึงกันสมุทร

สถานการณ์ทะเลและชายฝั่งไทย พาไปส่องที่มาและวิธีรักษาให้ลึกถึงกันสมุทร

ปกติแล้วช่วงซัมเมอร์ทุกคนจะไปเที่ยวไหนกันบ้างคะ ขอเดาเลยว่าช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาใครหลายคนต้องได้ไปเที่ยวทะเลกันมาบ้างแน่นอน เพราะประเทศไทยเรามีทะเลสวย ๆ อยู่หลายจังหวัดเลยค่ะ ยิ่งทะเลทางใต้ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยว Dream Destination ของชาวต่างชาติเลยค่ะ แต่ทุกคนรู้ไหมคะว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากอากาศที่ร้อนขึ้นส่งผลให้น้ำทะเลก็ร้อนขึ้นตามไปด้วย สัตว์น้ำต่าง ๆ และปะการังก็ได้รับผมกระทบกันไม่น้อย เพราะทะเลก็เปรียบเหมือนบ้านหลังขนาดใหญ่ของอีกหลายชีวิต วันนี้แสนสิริ รวบรวมข้อมูลสถานการณ์ทะเลและชายฝั่งของไทย จากทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ทะเลไทยยังต้องเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ผลกระทบที่ตามมาหากเราไม่ร่วมกันอนุรักษ์ทะเลในช่วงที่ยังทำได้

rainy season series of tears

ซีรีส์สุดอบอุ่นใจที่เหมาะกับหน้าฝน เพราะที่ตกไม่ใช่น้ำฝน แต่คือน้ำตา

ปีนี้ฤดูฝนมาไว้กว่าทุกที แค่นึกถึงก็อยากนอนซุกผ้าห่มอุ่นๆ นอนดมกลิ่นฝน และฟังเสียงฝนไปพลาง พร้อมกับนอนดูซีรีส์สักเรื่องอย่างสบายใจ แต่หน้าฝนแบบนี้ก็ต้องซีรีส์แนวอบอุ่นใจ เคล้าไปพร้อมน้ำตา เหมือนน้ำฝนที่ตกลงมาจากฟ้า แต่จริงๆ แล้วที่ตกคือน้ำตาของเราต่างหาก! แล้วทุกคนมีซีรีส์เรื่องโปรดในดวงใจ ที่เป็นเหมือน confort zone กันไหมคะ ที่ได้ดูเมื่อไหร่ก็อบอุ่นใจอยู่เสมอ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ยังวนกลับไปดูอยู่เสมอจนบางเรื่องก็สามารถพูดตามบทของฉากนั้นได้เลย! ถ้ามีก็ลองคอมเมนต์มาแชร์ด้วยกันที่ใต้คอมเมนต์โพสต์นี้ได้เลยนะคะ ใครที่กำลังมองหาซีรีส์เคล้าน้ำตากันอยู่บ้าง วันนี้แสนสิริ