จังหวะของโอกาสในชีวิต
ที่เหมาะสมสู่สะพานแห่งความสำเร็จ

“โอกาส” ในชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่รู้จะมาเมื่อไหร่แต่เราต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมเสมอ

ราเชื่อว่าทุกคนอยากได้ “โอกาส” ในชีวิต บางครั้งเราอาจจะผิดหวังและคิดว่าทำไมโอกาสถึงไม่เป็นของเราสักที จนบางทีอาจจะรู้สึกท้อแท้ สิ้นหวัง หรือหมดกำลังใจในการใช้ชีวิต แต่เราเชื่อว่าโอกาสในชีวิตมีจังหวะและเวลาของมัน 

บางทีสิ่งที่เราต้องการอาจจะไม่ถึงเวลาที่เราจะได้รับ หรือการที่เราอาจจะพลาดบาง “โอกาส” ในวันนี้เพื่อที่เราจะได้รับโอกาสที่ดีกว่าในวันข้างหน้าก็ได้นะ และเรายังเชื่ออีกว่า หากเราได้รับ “โอกาส”แล้วเราควรคิดว่าต้องทำเช่นไรเพื่อให้เราไปถึงจุดหมายที่เราวาดฝันไว้ หลายคนอาจจะพูดกันว่า เราควรคว้าทุกโอกาสในชีวิต แต่บางทีเราอาจจะไม่จำเป็นต้องคว้า ทุกโอกาสที่เข้ามา แต่รู้ว่าจังหวะไหนเราควร “คว้าโอกาส” ที่เข้ามาเท่านั้นเอง

วันนี้ Mental Life by Chanisara จะชวนทุกคนมาหาคำตอบว่า จังหวะของ “โอกาส” จะเป็นสะพานสู่ความสำเร็จได้เช่นไร

จังหวะของ “โอกาส” มาตอนไหนกันนะ

หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่าโอกาสในชีวิตจะมาตอนไหนกันนะ? จริงๆ แล้วโอกาสที่เกิดขึ้นในชีวิตคนเรานั้น เราไม่รู้หรอกว่าโอกาสจะมาเมื่อไหร่ แต่สิ่งที่เราทำได้ คือการเตรียมตัวให้พร้อมรับกับโอกาสที่จะเข้ามา เพราะเมื่อโอกาสเข้ามาแล้ว หากตัวเราไม่พร้อมก็จะทำให้เราพลาดโอกาสนั้นอยู่ดี เพราะจะมีคนที่พร้อมกว่าเราเสมอ

หากลองย้อนคิดกลับไปช่วงโควิด -19 แพร่ระบาดในช่วงแรกๆ เราเชื่อว่าหลายๆ คนอาจพลาดโอกาสในชีวิต เช่น บางคนพลาดโอกาสในการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย บางคนพลาดโอกาสในการไปเรียนต่อต่างประเทศ บางคนพลาดโอกาสในการได้งาน หรือบางคนพลาดโอกาสในการทำธุรกิจมากมาย เรื่องที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า บางสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต ในบางครั้งเราไม่สามารถคาดการณ์หรือควบคุมมันได้ การที่เราไม่ได้รับบางโอกาสนั้น อาจเพราะเวลานั้นอาจไม่ใช่จังหวะของโอกาสในชีวิตของเรา แต่เราต้องพร้อมปรับตัวและเปลี่ยนแปลงนั่นเองค่ะ

รู้จักว่าควร “คว้า” หรือ “ปล่อย” โอกาส 

ในชีวิตของเรามีโอกาสเข้ามาในชีวิตมากมาย แต่คนที่คว้าโอกาสนั้นไว้ แล้วประสบความสำเร็จในชีวิตคือคนที่รู้ว่า เมื่อเราได้โอกาสนั้นมาแล้ว ควรที่จะ “คว้า” หรือควรที่จะ ”ปล่อย”โอกาสนั้นไป หลายๆ คนอาจจะบอกว่า เราควรคว้าทุกโอกาสในชีวิตเราถึงจะประสบความสำเร็จ แต่ Alexis Ohanian ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Reddit เคยกล่าวสุนทรพจน์กับเด็กในมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกาไว้ว่า “คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต พวกเขาจะมีกรอบความคิดเหมือนนักโต้คลื่น เพราะคนที่เล่นเซิร์ฟจะรู้ว่า คลื่นที่เข้ามา พวกเขาควรจะตั้งรับยังไงให้เหมาะสม” ซึ่งก็เหมือนโอกาสในชีวิตที่เข้ามาว่าคุณจะตัดสินใจยังไงกับมัน บางทีอาจจะไม่ต้องคว้าทุกโอกาสในชีวิต แต่แค่มองให้ออกว่า โอกาสนั้นจะพาเราไปถึงเป้าหมายได้ยังไง 

หากมองย้อนกลับไปช่วงการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ช่วงนั้นธุรกิจทุกอย่างแทบหยุดชะงัก ห้ามทุกคนออกจากบ้าน หลายบริษัทต้องปรับตัวและเปลี่ยนแปลง สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ บริษัทส่วนใหญ่หันมาดำเนินธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น บางคนทำธุรกิจเกี่ยวกับการขายสินค้า แต่ไม่สามารถขายหน้าร้านได้จึงหันมาขายช่องทางออนไลน์แล้วขายดีเห็นช่องทางต่อยอดธุรกิจหรือบางคนเห็นวิกฤตในโอกาสจึงเปิดธุรกิจใหม่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ นั่นเพราะพวกเขาเห็นช่องทางและรู้ว่าควร “คว้า” โอกาสนั่นไว้

หรือบางคนกำลังจะไปเรียนต่อต่างประเทศก็ต้องหยุดไว้ก่อน เพราะต่างประเทศก็ระบาดอย่างหนักเช่นกัน ทำให้ต้องเลือกที่จะ “ปล่อยโอกาส” นั้นแล้วรอช่วงเวลาที่เหมาะสมค่อยไปเรียนใหม่ เพราะหากไปตอนนั้นอาจติดโควิด -19 ได้ค่ะ

โฟกัสที่ “เป้าหมาย”

อย่าอยู่กับความผิดหวังหรือความสำเร็จในอดีต เพราะบางทีมันอาจจะทำให้เราพลาดโอกาสที่เข้ามาในชีวิตก็เป็นได้ Alexis Ohanian เคยกล่าวไว้อีกว่า “หากเราผิดพลาดให้ใช้สิ่งนั้นเป็นบทเรียนและก้าวผ่านมันไปและมองหาโอกาสในอนาคตที่จะเข้ามา” แต่เราเชื่อว่า หากเราประสบความสำเร็จในสิ่งนั้นแล้วให้เราพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เพราะโลกเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน เราจึงไม่ควรหยุดอยู่กับที่ เพื่อที่เราจะได้ประสบความสำเร็จในขั้นต่อไปนั่นเองค่ะ

วิธีทำให้ ”โอกาส” ถึง “เป้าหมาย”

เตรียมพร้อมรับโอกาส
เมื่อเราไม่รู้ว่าโอกาสจะเข้ามาเมื่อไหร่ เราต้องพัฒนาตัวเองให้พร้อมกับโอกาสที่จะเข้ามาในชีวิต

พิจารณาโอกาสที่เข้ามา
ดูว่าโอกาสที่เข้าเราควร “คว้า” ไว้ หรือ “ปล่อย” มันไป หรือ ควรจะต้องทำสุดแค่ไหน

ปรับตัวอยู่เสมอ
รู้จักปรับตัวกับทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิต เพราะทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้เสมอ

เปิดรับโอกาสใหม่ ๆ
เปิดใจพร้อมรับสิ่งใหม่ที่เข้ามา เพราะบางทีอาจจะดีกว่าแบบเดิม

เชื่อว่าทุกคนมีโอกาสในชีวิต
ทุกคนมีต้องมีโอกาสในชีวิต แต่เราเชื่อว่าเราจะได้รับเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

chance of a lifetime

“โอกาส” ที่เกิดขึ้นในชีวิตคนเรานั้น มักจะเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว เราจึงต้องเตรียมพร้อมอยู่เสมอ และเมื่อโอกาสเข้ามาเราต้องรู้จักพิจารณาว่าเราควรจะ “คว้า” หรือ “ปล่อย”โอกาสนั้นไป เพื่อที่จะทำให้เราไปสู่จุดหมายที่เราต้องการค่ะ


Source 

https://www.cnbc.com/2023/10/28/reddit-co-founder-alexis-ohanian-ride-the-surfer-mindset-to-success.html 

https://thegrowthmaster.com/growth-mindset/rhythm-of-life 

https://vt.tiktok.com/ZSYeCHLHC/ 

 

Related Articles

Harmony Hour Music Playlist

Music Therapy : พลังแห่งดนตรีที่ช่วยเยียวยาร่างกายและหัวใจ

“เสียงดนตรี” เป็นเสียงที่ทรงพลังช่วยฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ ให้กลับมาแข็งแรง สดใสและมีความสุขกับการใช้ชีวิต ทุกคนเชื่อไหมคะว่าเสียงดนตรีมีพลังกว่าที่ทุกคนคิด หากถามว่าเสียงดนตรีมีพลังยังไงนะหรอ ต้องบอกว่ามนุษย์เชื่อว่า เสียงดนตรีช่วยฟื้นฟู เยียวยาจิตใจของเราได้ตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ เพราะคนในสมัยก่อนเชื่อกันว่าดนตรีสามารถขับไล่สิ่งชั่วร้ายที่จะทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้และยังเชื่ออีกว่าดนตรีจะสามารถปรับสมดุลให้กับร่างกายและจิตใจของเราได้อีกด้วย ซึ่งสอดคล้องกับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์การแพทย์และทางจิตวิทยาที่บอกว่าการใช้ดนตรีบำบัดสามารถช่วยเยียวยาร่างกายและจิตใจมนุษย์ได้อย่างแท้จริง หลายคนเคยสงสัยไหมคะว่าทำไม เวลาเราได้ฟังดนตรีสบายๆ เราจะรู้สึกผ่อนคลาย และรู้สึกว่าความเครียดลดลงอย่างน่าประหลาด เหมือนมีกุญแจมาช่วยปลดล็อกความว้าวุ่นภายในใจให้เบาบางลง เสียงดนตรีธรรมดาที่ไม่มีคนร้อง แต่กลับกล่อมเกลาจิตใจ ให้สงบลง หรือปลุกพลังให้เรามีเอนเนอจีในตอนเช้า

Because truth is timeless

Because truth is timeless: เพราะการพูดความจริงแสดงถึงความจริงใจและรักษาความสัมพันธ์ให้มั่นคง

การพูดความจริงเป็นการแสดงถึงความซื่อสัตย์ จริงใจ และเป็นการโอบอุ้มความสัมพันธ์ให้มั่นคง ทุกคนคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย” และคงไม่มีอะไรทำลายความจริงได้ใช่ไหมล่ะคะ ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม ต่อให้จะมีใครพยายามบิดเบือนความจริง แต่ความจริงก็ยังคงอยู่ และรอวันที่จะเปิดเผยออกมา  เราเปรียบความจริงกับท้องฟ้าที่ต้องผ่านพายุฝน ท้องฟ้าอาจจะมืดมน ไม่สดใส และมีเมฆมาปกคลุม แต่เมื่อพายุผ่านไปฝนหยุดตก ท้องฟ้าจะกลับมาสดใสดั้งเดิม และบางครั้งอาจจะมีสายรุ้งที่ปรากฏขึ้นมาให้เห็นถึงความสวยงามด้วย ต่อให้ท้องฟ้าจะมืดมนขนาดไหนก็กลับมาสดใส เหมือนกับที่ไม่มีอะไรมาทำลายความจริงได้  หลายคนคงรู้อยู่แล้วว่าการพูดความจริงเป็นรากฐานที่จะทำให้ความสัมพันธ์มั่นคงและยิ่งยืนนาน

half-year-resolution

Half-year resolution : บทเรียนชีวิตที่ได้จากครึ่งปีแรก

เราอาจไม่ได้ประสบความสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกที่ลงมือทำ แต่ถ้าเราพยายามทำต่อไปด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้  เราจะเดินถึงเป้าหมายได้ในที่สุด เผลอแป๊ปเดียวพวกเราทุกคนเดินทางผ่านมาครึ่งปีแล้ว ตอนต้นปีมีใครตั้งเป้าหมายอะไรไว้กันบ้างคะ? บางคนอาจเดินถึงเป้าหมาย บางคนกำลังเดินทางไปสู่เป้าหมายที่วาดไว้ แต่เราเชื่อว่า บางคนรู้สึกว่าเป้าหมายที่ตั้งไปในช่วงต้นปีอาจไม่ได้สำเร็จอย่างที่เราคาดหวังไว้หรือเป้าหมายที่เราตั้งไว้อาจเลือนรางเต็มที แต่ไม่เป็นไรเลย เพราะชีวิตคนเราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ  ทุกคนรู้ไหมคะการตั้งเป้าหมายใหม่อาจไม่ได้หมายความว่าต้องเริ่มจากศูนย์เสมอไป แต่เราอาจจะนำสิ่งที่เราทำและอาจจะไม่ประสบความสำเร็จ มาทบทวน พัฒนาและปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้เราเดินไปสู่เป้าหมายที่เราวางไว้ เพราะเราเชื่อว่าความสำเร็จอาจจะไม่ได้เกิดจากครั้งแรกที่ลงมือทำ แต่ถ้าหากเราพยายามต่อไปเรื่อยๆ ด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ เราจะเดินถึงเป้าหมายในที่สุดค่ะ คนเราทุกคนกว่าที่จะประสบความสำเร็จกับสิ่งที่เราตั้งเป้าหมายไว้