เทรนด์ Electric Vehicle Car (EV Car) เข้ามาในไทย เช่นเดียวกับแสนสิริที่ตอบรับเทรนด์รักษ์โลกนี้ไปแล้วเช่นกัน
หลายคนอาจจะทราบแล้วว่า ที่แสนสิริ เราเป็นองค์กรแรกที่สนับสนุนและเริ่มหันมาใช้รถพลังงานไฟฟ้าเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีมานานหลายปี ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้ง EV Charger จากแบรนด์พาร์ทเนอร์มาตรฐานสากล มาพร้อมกับตัวบ้าน, ที่โครงการคอนโดมิเนียม หรือตามแหล่งคอมมูนิตี้ต่างๆ ที่เราเชื่อมั่นว่านี่จะเป็นอีกตัวช่วยที่จะ Recharge พลังงานสะอาด เพื่อโลกยั่งยืน แค่เริ่มสตาร์ทให้กับทุกหลัง
แต่ว่ามีใครเคยทราบไหม? ว่าเรื่องราวเหล่านี้เริ่มต้นจากที่ไหน และตอนนี่เป็นเช่นไร ไปติดตามพร้อมกัน
SANSIRI x SHARGE : จับมือสร้างเทรนด์การใช้ชีวิตใหม่ เพื่อโลกที่ยั่งยืน
นับจากปี 2561 ที่แสนสิริได้กำหนดเป้าหมาย 3 ปี ในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์เฉลี่ย 2,120 ตัน หรือเทียบเท่าป่าสีเขียวกว่า 1,700 ไร่ โดยโฟกัสในเรื่อง Energy & Well-being ตั้งแต่ก่อสร้าง ส่งต่อถึงช่วงการอยู่อาศัย
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่เราเริ่มติดตั้งเครื่องชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) ให้กับบ้านในโครงการของแสนสิริ เพื่อสร้างมาตรฐานการอยู่อาศัยเพื่อสิ่งแวดล้อมในสังคม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงไปสู่มาตรฐานใหม่ของแสนสิรินี้ สอดคล้องกับเทรนด์ของโลกที่จะขับเคลื่อนด้วย EV อย่างที่เห็นได้จาก business-standard.com ได้เผยข้อมูลว่าอังกฤษเป็นประเทศแรกที่จะมีกฎหมายกำหนดให้บ้านและสำนักงานที่สร้างใหม่ต้องมีการติดตั้งเครื่องชาร์จ EV และการประกาศห้ามจำหน่ายรถยนต์สันดาปในปี 2573*
ในปี 2562 แสนสิริ จึงได้เข้าร่วมเป็น Strategic Partner กับ ชาร์จ แมเนจเม้นท์ (SHARGE) ผู้นำด้านการสร้าง EV Charging Ecosystem เพื่ออำนวยความสะดวกลูกบ้านแสนสิริในการใช้รถพลังงานไฟฟ้าและการเข้าถึงสถานีชาร์จ พร้อมสร้างเทรนด์ที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ที่นำไปสู่การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน
บ้านเดี่ยวแสนสิริ ต้องมี EV CHARGER ทุกหลัง
เพื่อพันธกิจการมุ่งสู่ Net-Zero Company เราจึงเริ่มการติดตั้ง EV Charger ครบ 100% ให้กับบ้านแสนสิริทุกหลังทุกระดับราคา ภายในปี 2025 ซึ่งจะช่วยให้ลูกบ้านแสนสิริทุกหลังประหยัดค่าน้ำมันรวมกว่า 150 ล้านบาทต่อปี ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศได้กว่า 20,000 ตัน เทียบเท่าการปลูกต้นไม้กว่า 1,300,000 ต้นต่อปีหรือปลูกป่า 6,500 ไร่ป
นอกจากจะตอบโจทย์เทรนด์การอยู่อาศัยที่เปลี่ยนแปลงแล้ว ค่าใช้จ่ายสำหรับการชาร์จไฟของรถยนต์ไฟฟ้า ยังถูกกว่าค่าน้ำมันของรถยนต์สันดาปถึงประมาณ 2 เท่า ช่วยให้ลูกบ้านแสนสิริประหยัดค่าใช้จ่าย โดยในการขับรถยนต์ไฟฟ้า 1 กิโลเมตรนั้นต้องจ่ายค่าไฟประมาณ 0.96 บาท ขณะที่ค่าน้ำมันของรถยนต์สันดาป สำหรับการวิ่ง 1 กิโลเมตรจะอยู่ที่ประมาณ 2.4 บาทด้วยกัน
คอนโดแสนสิริ ต้องมี EV CHARGER ทุกตึก
ปัจจุบันแสนสิริ ได้ติดตั้ง EV Charging Station ในโครงการคอนโดมิเนียมแล้วจำนวน 88 หัวชาร์จ (44 เครื่อง) รวมทั้งมีเป้าหมายขยายการติดตั้ง EV Charger Station ให้ครอบคลุมโครงการคอนโดพร้อมโอน และโครงการคอนโดใหม่ที่จะเปิดตัวในปีหน้าเช่นกัน
โดยที่คอนโดรองรับสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีกำลังชาร์จ 20-50 kW เมื่อคำนวนเวลาชาร์จแล้วจะอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 3 ชั่วโมง โดยอัตราค่าบริการ 7.50 – 10 บาท/kW นอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของลูกบ้านในโครงการแล้วยังเป็นพลังงานสะอาดไม่ปล่อยมลพิษทำลายสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ลูกบ้านแสนสิริยัง สามารถจอง EV Charging Station บน Sansiri Home Service Application ซึ่งเป็นการนำเอาบริการจากแอปพลิเคชั่นของ SHARGE เพื่อค้นหาและจองสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้าทั้งของ SHARGE และเครือข่ายพันธมิตรในแหล่งไลฟ์สไตล์ทั่วกรุงเทพฯ พร้อมจ่ายค่าไฟฟ้าผ่านแอปพลิเคชั่นได้ด้วย
มาพบกับชีวิตดีดี ที่คอนโดของคนรุ่นใหม่ พร้อมอ่านบทความ 5 วิธีซื้อคอนโดยังไงให้คุ้มค่าทั้งราคาและคุณภาพชีวิต
กระจายทุกพลังงานทดแทน ไปทุกส่วนในองค์กร
กระจายทุกพลังงานทดแทน ไปทุกส่วนในองค์กร ที่สำนักงานใหญ่ สิริ แคมปัส เราได้เลือกใช้รถผู้บริหารทุกคันให้เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งทำแล้วตั้งแต่ปี 2021 และเช่นเดียวกับการปรับเปลี่ยนการใช้รถยนต์ส่วนกลางของบริษัท จากรถใช้เชื้อเพลิงน้ำมันให้เป็นรถ EV Care 100% ภายในปี 2025 ให้เป็นรถไฟฟ้าช่วยโลก ช่วยเรา
ให้พลังงานสะอาด ช่วยสร้างชุมชนสีเขียว
การฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมที่ดีไม่ใช่แค่นโยบายเชิงสัญลักษณ์ แต่จะเกิดขึ้นได้ต้องเริ่มลงมือทำ ที่ T77 Community เราตั้งใจสร้างให้เป็นชุมชนสีเขียวอย่างยั่งยืน จากการนำพลังงานสะอาดจากรถพลังงานไฟฟ้ามาใช้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น
– E-Scooter บริการเช่ารถสกู๊ตเตอร์โดยสารภายใน T77 Community และ SIRI Campus
– จุดให้บริการ EV Charger สำหรับชาร์จรถยนต์หลายจุด
– บริการรถสาธารณะพลังงานไฟฟ้าจาก MuvMi รับ-ส่งในย่าน T77 Comunity และสถานีรถไฟฟ้า BTS ที่นอกจากค่าใช้ไม่แพงแล้วยังไม่ปล่อยมลพิษอีกด้วย
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อที่จะให้สร้างสิ่งแวดล้อมดีๆ ลดคาร์บอน ลดฝุ่น PM 2.5 หรือมลภาวะต่างๆ พร้อมความตั้งใจมุ่งมั่นสู่การเป็น Net-Zero Real Estate Company รายแรกของเมืองไทย