Food Coma

“หนังท้องตึง หนังตาหย่อน”
“Food Coma” อาการง่วงนอนหลังรับประทานอาหารเสร็จ

ไหนใครมีอาการแบบนี้บ้าง ง่วงหลังทานอาหารเสร็จแต่เราต้องกลับมานั่งทำงาน กลับมาเรียนต่อในตอนบ่าย ต้องกินชา กินกาแฟ เป็นตัวช่วยให้ตาสว่าง กลับมารู้สึกกระปรี้กระเปร่าอีกครั้ง หลายคนอาจสงสัยว่าที่เรามีอาการเช่นนี้เพราะเราขี้เกียจหรือเปล่านะ? แต่แท้จริงแล้ว อาจจะเป็นเพราะเรากินอาหารที่มีแป้งและไขมันมากเกินไป รวมถึงกินอิ่มมากเกินไปจึงทำให้เรารู้สึกง่วงนอนนั่นเองค่ะ 

อาการนี้เขาเรียกกันว่า “Food Coma” หรือการง่วงหลังจากรับประทานอาหารเสร็จหากฟังดูอาจจะดูเหมือนเป็นอาการที่อันตราย แต่แท้จริงแล้ว อาการนี้ไม่เป็นอันตราย แต่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำงาน การเรียน สุขภาพ ฯลฯ เพราะเมื่อเรารู้สึกแบตหมด เราจะทำสิ่งต่างๆ ไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร อาการง่วงหลังกินอิ่มจึงเป็นเรื่องที่เราไม่ควรมองข้ามไป

วันนี้ Mental Life by Chanisara จะพาทุกคนมารู้จักกับอาการ “Food Coma” ง่วงนอนจากการรับประทานอาหารเสร็จและพามาดูกันว่าร่างกายทำปฏิกิริยาอะไรที่ทำให้เกิด “หนังท้องตึง หนังตาหย่อน” รวมถึงมาบอกวิธีป้องกันไม่ให้ง่วงหลังจากรับประทานอาหารเสร็จกันค่ะ

Food Coma

“Food Coma” ง่วงหลังจากรับประทานอาหารไม่ใช่อาการขี้เกียจ

เชื่อว่าหลายคนต้องเคยมีอาการง่วงนอนหลังรับประทานอาหารเสร็จกันใช่ไหมล่ะค่ะ โดยเฉพาะหลังทานอาหารเที่ยง หลายคนอาจจะคิดว่าตัวเองขี้เกียจ แต่แท้จริงแล้วอาจจะมาจาก การที่เรากินอาหารอิ่มมากเกินไป โดยเฉพาะยิ่งถ้าเรากินพวกคาร์โบไฮเดรต แป้งหรือไขมันเยอะ

อาการง่วงหลังรับประทานอาหารเสร็จ เรียกว่า “Food Coma”หรือศัพท์เฉพาะทางการแพทย์จะเรียกว่า “postprandial somnolence” ซึ่งอาการจะเหมือนแบตเตอรี่อ่อน รู้สึกหมดพลังงาน อ่อนเพลีย ง่วงนอน ไม่มีสมาธิ คิดอะไรไม่ออก ทำให้เราเรียนหรือทำงานไม่มีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ ซึ่งการเป็นเช่นนี้อาจส่งผลกระทบกับการดำเนินชีวิตประจำวันของเราได้ค่ะ รวมถึง “Food Coma” สามารถเกิดกับคนทุกเพศทุกวัยเลยค่ะ แล้วทุกคนเคยสงสัยกันไหมคะ ว่าร่างกายของเราทำปฏิกิริยาอะไรทำให้เรากินอิ่มแล้วรู้สึกง่วงนอน? เราจะพาทุกคนไปหาคำตอบกันค่ะ 

ร่างกายของเราทำปฏิกิริยาอะไรที่ทำให้เรากินอิ่มแล้ว “หนังท้องตึง หนังตาหย่อน”

“Food Coma” เป็นภาวะปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ จากการกินอาหารมากเกินไปทำให้ร่างกายต้องใช้พลังมหาศาลในการย่อยอาหาร ซึ่งเวลาย่อยอาหารร่างกายจะหลั่งฮอร์โมน “อินซูลิน” ออกมาเพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือด การหลั่งอินซูลินช่วยให้กรดอะมิโนที่มีชื่อว่า “ทริปโตเฟน” 

ซึ่งทริปโตเฟนมีหน้าที่ช่วยสร้างฮอร์โมนเซโรโทนิน (Serotonin) ที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายง่วงนอน ยิ่งถ้าหากเรากินอาหารพวกคาร์โบไฮเดรตเข้าไปในร่างกายเป็นจำนวนมาก เช่น ข้าว ข้าวเหนียว น้ำตาล น้ำอัดลม ของหวาน ฯลฯ จะยิ่งทำให้เราง่วงนอนง่ายมากยิ่งขึ้น และการกินอาหารประเภทไขมันมากเกินไป ยังทำให้กระเพาะอาหารใช้พลังงานในการย่อยมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลียและง่วงนอน จากที่กล่าวมาข้างต้นจึงสะท้อนให้เห็นว่า กินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตและไขมันมากเกินไป ทำให้เราง่วงนอนได้นั่นเองค่ะ

“Food Coma” ผลกระทบที่นำไปสู่โรคอื่นๆ ในอนาคต

การที่เราง่วงหลังรับประทานอาหารบ่อยๆ อาจจะส่งผลเสียได้ในระยะยาว นอกจากจะทำให้เราทำงานและเรียนไม่ได้ประสิทธิภาพสมองไม่ปลอดโปร่งยังส่งผลเสียต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน และอาจส่งผลให้เกิดโรคอื่นๆ ตามมาในอนาคตอีกด้วย

วิธีการป้องกันไม่ให้ง่วงหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ

ไม่รับประทานอาหารจนอิ่มเกินไป ควบคุมการกินอาหารในปริมาณที่เหมาะสม ปรับการกินอาหารเป็นมื้อย่อยๆ เช่น ตอนเที่ยงอาจจะไม่กินเยอะจนเกินไป แต่มารับประทานของว่างในช่วงบ่ายแทนค่ะ 

เลือกรับประทานอาหารที่หลากหลายและมีสารอาหารครบถ้วน ไม่กินอาหารที่มี คาร์โบไฮเดรต แป้ง น้ำตาล ไขมัน มากจนเกินไป โดยอาจจะเพิ่มผักผลไม้ลงไปเพื่อให้เราได้รับพลังงานในปริมาณที่พอดี 

รับประทานอาหารเสร็จควรไปเดินย่อยอาหาร การขยับร่างกายหลังจากทานอาหารเสร็จ 10-15 นาที จะทำให้เรารู้สึกตื่นตัว กระปรี้กระเปร่ามากขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งชาหรือกาแฟค่ะ 

เคี้ยวอาหารให้ละเอียด การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดจะช่วยให้กระเพาะอาหารของเราไม่ทำงานหนักเกินไป ซึ่งสามารถลดความรู้สึกง่วงนอนหลังกินอาหารได้ค่ะ

การนอนหลับให้เพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายปรับสมดุลในระหว่างวันได้ดี ซึ่งลดอาการง่วงหลังจากรับประทานอาหารเสร็จได้ค่ะ

“Food Coma” อาการ “หนังท้องตึง หนังตาหย่อน” หลังรับประทานอาหารเสร็จ

เป็นอาการที่เกิดจากการกินแป้งและไขมันมากเกินไป ดังนั้น ถ้าหากเราไม่อยากง่วงให้กินอาหารที่มีแป้งและไขมันอย่างพอเหมาะนะคะ


Source

https://www.medicalnewstoday.com/articles/food-coma

https://vt.tiktok.com/ZSr3Vg3s6/ 

https://www.chula.ac.th/magazine/14218/ 

https://www.nsm.or.th/nsm/th/node/4177 

https://www.abc.net.au/news/health  

 

Related Articles

Self Investment

เริ่มต้นปีใหม่ด้วยการลงทุนกับตัวเอง จะเพิ่มโอกาสชีวิตและเปลี่ยนชีวิตไปตลอด

การลงทุนกับตัวเอง เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสที่จะเข้ามาในชีวิต สวัสดีปีใหม่นะคะทุกคนปีนี้เรามาเริ่มต้นปีด้วยกันลงทุนกับตัวเองกันดีกว่าค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการหาความรู้ใส่ตัว พัฒนาตัวเอง การดูแลสุขภาพ ดูแลร่างกาย การกินอาหารที่ดี การดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ การดูแลความรู้สึกจิตใจของตัวเอง การวางแผนการเงินให้ตัวเองเพื่อใช้จ่ายในอนาคต ฯลฯ เพราะการลงทุนเหล่านี้จะติดตัวเราไปเสมอไม่ว่าเราจะไปอยู่ที่ไหน และไม่มีใครขโมยไปจากเราได้ค่ะ เราเชื่อว่าการลงทุนกับตัวเองเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด เพราะมันอาจจะไม่ได้เห็นผลในวันนี้แต่เราจะเห็นผลในระยะยาวค่ะ เรายังเชื่ออีกว่าการลงทุนกับตัวเองคือ “การรักตัวเอง” อย่างหนึ่ง

Whole Food VS Processed Food

Whole Food VS Processed Food แค่เปลี่ยนการทาน ชีวิตก็เปลี่ยนได้

ทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่าการทานอาหารสำคัญกับมนุษย์เรามาตั้งแต่ไหนแต่ไร เพราะสุขภาพของเราจะเป็นเช่นไรขึ้นอยู่กับการทานอาหารของเรา ขอแค่เราเปลี่ยนการทาน ชีวิตของเราก็เปลี่ยนได้นะคะ  ทุกวันนี้เราคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เราแทบทุกคนทานอาหารแปรรูปกัน ถึงแม้ว่าจะรู้ว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพ หลายคนคงสงสัยว่าระหว่าง Whole Food กับ Processed Food คืออะไรและแตกต่างกันยังไงใช่ไหมล่ะคะ  Whole Food คือ อาหารที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการแปรรูป หรือแปรรูปน้อยที่สุด ทำให้สารอาหารและวิตามินยังอยู่ครบถ้วน

New Year’s Resolution 2026

New Year’s Resolution 2026 ตั้งเป้าหมายแบบไม่กดดันตัวเอง

เป้าหมายที่ตั้งไว้จะไม่มีวันล้มเหลว ตราบใดที่เราไม่ล้มเลิกความตั้งใจ ใกล้จะเข้าปี 2026 กันแล้วนะคะทุกคน หลายคนเวลาที่ต้องเริ่มต้นปีใหม่เรามักตั้งเป้าหมายใหม่กันอยู่เสมอ หากถามว่าเวลาใกล้ปีใหม่หรือเริ่มต้นปีใหม่หลายคนทำไมต้องวางแผน New Year’s Resolution อาจจะเป็นเพราะ นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงตัวเอง หลายคนวางแผนเริ่มต้นปีใหม่ แต่สุดท้ายกลับทิ้งความตั้งใจไว้กลางทาง เพราะสิ่งที่ทำอาจจะไม่ได้สำเร็จตามความตั้งใจ รู้สึกเหนื่อย ท้อ และไม่อยากทำสิ่งนั้นแล้ว หรือบางคน อาจจะกดดันตัวเองมากเกินไปซึ่งอาจจะทำให้ล้มเลิกเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้