เพราะชีวิตที่ดี คือ ชีวิตที่ไม่มีโรคภัย
“Healthspan” ศิลปะในการใช้ชีวิต
ที่ยืนยาวอย่างมีสุขภาพดี

ทุกคนเริ่มใส่ใจสุขภาพของตัวเอง ตอนที่เราอายุเท่าไรกันคะ? ทุกคนรู้ไหมคะว่าการดูแลสุขภาพคือสิ่งสำคัญที่ทำให้เราทุกคนมีสุขภาพดีและมีอายุที่ยืนยาว การใส่ใจสุขภาพในที่นี้ของเราไม่ได้หมายถึงเรื่องการไปตรวจสุขภาพประจำปีเพียงอย่างเดียว แต่หมายรวมถึง การดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวันของเราด้วย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การนอน การสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์ ฯลฯ ซึ่งพฤติกรรมที่เราทำในชีวิตประจำวันนั้นส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย จิตใจ และการมีอายุที่ยืนยาวของเราด้วยค่ะ 

หลายคนอาจจะรู้อยู่แล้วว่าการกระทำใดบ้างที่เป็นผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของเรา แต่หลายคนคิดว่าไม่เป็นไรหรอก เราอายุยังไม่มากใช่ไหมละคะ แต่ในความเป็นจริงการดูแลสุขภาพร่างกายเป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องให้ความสำคัญไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยใด เพราะการลงทุนกับสุขภาพจะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เรามีชีวิตที่ยืนยาวอย่างมีสุขภาพดีนะคะ 

วันนี้ Mental Life by Chanisara จะชวนทุกคนมารู้จักกับ Healthspan แนวคิดที่จะทำให้ทุกคนใช้ชีวิตได้อย่างมีสุขภาพดี มีความสุขและมีชีวิตที่ยืนยาว และมาทำความเข้าใจว่าปัจจัยและการกระทำใดบ้างที่ส่งผลต่อสุขภาพและอายุขัยของเรา รวมถึงพาทุกคนไปหาคำตอบว่าทำเช่นไรเราจะมีอายุยืนยาวอย่างมีสุขภาพดีกันค่ะ 

Healthspan

Healthspan คืออะไร?

Healthspan การมีชีวิตที่ยืนยาวอย่างมีสุขภาพดีไม่เจ็บ ไม่ป่วย สามารถทำในสิ่งที่อยากทำได้อย่างอิสระ แนวคิดนี้ให้ความสำคัญกับชีวิตที่มีคุณภาพมากกว่าการมีอายุขัยที่ยืนยาว และในบั้นปลายชีวิตยังสามารถดูแลตัวเองได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาใคร หากมองแค่ผิวเผินเรื่องนี้อาจจะเหมาะกับคนที่มีอายุมากแล้ว

แต่ทุกคนรู้ไหมคะว่า Healthspan ไม่ได้เหมาะสำหรับผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ยังเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่วัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน และไว้ผู้สูงอายุ เพราะการที่เราหันมาใส่ใจกับสุขภาพเร็วขึ้นเท่าไหร่จะทำให้เรามีสุขภาพที่แข็งแรงและมีโอกาสมีอายุขัยที่ยืนยาวมากขึ้นเท่านั้น

พฤติกรรมในชีวิตประจำวันมีผลต่ออายุขัยที่ยืนยาว

ทุกคนรู้หรือไม่การที่เราจะอายุยืนนานนั้น ขึ้นอยู่กับพันธุกรรมในร่างกายของคนเรา เพียงแค่ 20% และอีก 80% ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและสภาพแวดล้อมของเรา 

จากการศึกษาของ Dr. Peter Joshi และคณะจากมหาวิทยาลัยเอดินบาระในสกอตแลนด์ เกี่ยวกับเรื่องอิทธิพลของพันธุกรรมที่มีต่ออายุขัย พบว่า พฤติกรรมความเสี่ยงที่ทำให้อายุสั้นลง มีดังนี้ คือ การสูบบุหรี่ การมีค่า BMI สูง (การมีน้ำหนักตัวสูงกว่าค่ามาตรฐาน) หรือการที่ร่างกายไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ รวมถึงพฤติกรรมที่เราทำในชีวิตประจำวันก็มีผลต่อสุขภาพและการมีอายุยืนยาวเช่นกันไม่ว่าจะเป็น พฤติกรรมการกิน การออกกำลังกาย การนอน ความเครียด ฯลฯ จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นซึ่งชี้ให้เห็นว่าการกระทำและพฤติกรรมของเรานั้นมีผลต่อสุขภาพและอายุของเรานั่นเองค่ะ 

5 ปัจจัยที่ทำให้มีสุขภาพดีและมีอายุที่ยืนยาว

รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เน้นการรับประทานผักและผลไม้เป็นประจำ และรับประทานธัญพืชที่ไม่ขัดสี รวมถึงลดการรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ จะช่วยให้ลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคมะเร็งบางชนิด รวมถึงการรับประทานผักใบเขียว เบอร์รี่ ถั่ว น้ำมันมะกอก และปลา จะสามารถลดความเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อมได้เมื่อมีอายุมากขึ้น ซึ่งภาวะสมองเสื่อมเป็นสาเหตุหลักที่จะนำไปสู่โรคอัลไซเมอร์นั่นเอง รวมถึงการรับประทานวิตามินอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสมองอีกด้วย

ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรค เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคกระดูกพรุน โรคมะเร็งบางชนิด โรคสมองเสื่อม และการออกกำลังกายยังส่งผลดีต่อจิตใจ เพราะช่วยลดความวิตกกังวลได้ รวมถึงการออกกำลังกายจะช่วยทำให้เรานอนหลับได้อย่างดีขึ้นอีกด้วย

รักษาน้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม จะช่วยทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ เมื่อเราอายุมากขึ้น คนที่เป็นโรคอ้วนจะมีความเสี่ยงสูงในการเกิดโรคต่างๆ

งดสูบบุหรี่ ทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่าการสูบบุหรี่ไม่ดีต่อสุขภาพ เพราะเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดและเสียชีวิตก่อนวัยอันควร

ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่พอเหมาะ หลายคนอาจจะคิดว่าการดื่มแอลกอฮอล์เป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากเราดื่มแอลกอฮอล์อย่างเหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานและหัวใจวายได้  โดยผู้หญิงควรดื่มแอลกอฮอล์ 1 แก้วต่อวัน ในขณะที่ผู้ชายควรดื่มแอลกอฮอล์ 2 แก้วต่อวันค่ะ

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้คนเรามีสุขภาพแข็งแรงและมีอายุที่ยืนยาว ไม่ว่าจะเป็น การมีเป้าหมายในชีวิต การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม การออกไปเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะช่วยให้เรามีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้นอีกด้วยและเมื่อเรามีร่างกายที่แข็งแรงจะทำให้เรามีอายุที่ยืนยาวมากยิ่งขึ้น

ประชากรจาก 5 ประเทศทั่วโลกที่มีอายุยืนยาวมากที่สุด

กลุ่มประเทศที่มีคนอายุ 100 ปี เป็นจำนวนมาก ทุกคนคิดว่าจะมีประเทศไหนกันบ้างคะ เราจะพาทุกคนมาหาคำตอบกัน 

กลุ่มประเทศที่มีคนอายุ 100 ปี เป็นจำนวนมาก เรียกว่า บลูโซน (blue zone) จาก 5 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ คนจากประเทศ ญี่ปุ่น อิตาลี สหรัฐอเมริกา และคอสตาริกา ซึ่งเราขอยกตัวอย่างปัจจัยหลักหรือสิ่งที่พวกเขาปฏิบัติและทำให้พวกเขามีอายุยืนยาว โดยปัจจัยดังกล่าวอ้างอิงจากบทความที่ถูกตีพิมพ์ลงวารสาร American Journal of Lifestyle Medicine โดย Dan Buettner และคณะ เช่น รับประทานผักเป็นอาหารหลัก ชอบเคลื่อนไหวร่างกายตลอดทั้งวัน การผ่อนคลายความเครียด ดื่มไวน์ในปริมาณที่พอเหมาะ การมีเป้าหมายในชีวิต การให้ความสำคัญและการถูกดูแลอย่างดีจากคนในครอบครัว ฯลฯ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าหากเราดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเราจะมีโอกาสที่มีชีวิตที่ยาวมากขึ้นนั่นเองค่ะ 

เราเชื่อว่าทุกคนคงอยากมีชีวิตที่ยืนยาวและไม่มีโรคภัยกันใช่ไหมล่ะคะ ซึ่งเราเชื่อว่าการที่ไม่เจ็บป่วยอาจจะทำให้เราสามารถใช้ชีวิตและพึ่งพาตัวเองได้จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ดังนั้นเรามาเริ่มดูแลสุขภาพกายและใจตั้งแต่วันนี้กันดีกว่าค่ะ เพราะเราเชื่อว่าชีวิตที่ดีคือชีวิตที่ไม่มีโรคภัยค่ะ 


Source

https://nutritionsource.hsph.harvard.edu/healthy-longevity/ 

XPRIZE Healthspan is a global competition to restore function. Jamie N Justice 22 Jan 2024 Nature Aging 

https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/29030599/ 

https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC6125071/

Related Articles

lose friend

เพื่อน” ที่จริงใจ คือ ของขวัญล้ำค่าที่ควรมีอยู่ในชีวิต

เมื่อเราเติบโตขึ้น “เพื่อน” อาจจะหล่นหายไปบ้าง แต่ “เพื่อน” ที่จริงใจและคอยเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้เรา คือ ของขวัญล้ำค่าที่ควรมีอยู่ในชีวิต  เมื่อเราเติบโตขึ้นเพื่อนเราจะน้อยลง ทุกคนว่าจริงไหมคะ? ในชีวิตคนเราอาจจะต้องพบเจอคนมากมาย ในจุดเริ่มต้นของการมีเพื่อน คนในครอบครัวเป็นคนเลือกสังคมให้เรา เช่น การเลือกสังคมโรงเรียน หรือการพาเราไปเล่นกับลูกเพื่อน และหากใครมาเล่นกับเรา เราก็จะนับว่าเขาคือ “เพื่อน” ทำให้ตอนเด็กๆ

the power of love

“พลังของความรัก” จะทำให้เราจับมือกันก้าวผ่านทุกอุปสรรค และเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้

“พลังของความรัก” จะทำให้เราจับมือกันก้าวผ่านทุกอุปสรรค และเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้ ทุกคนเชื่อในพลังแห่งความรักไหมคะ ความรักสามารถเปลี่ยนแปลงใครคนหนึ่งให้เป็นคนที่ดีขึ้นได้ แต่ความรักไม่ได้มีเวทมนตร์พิเศษอะไรหรอกค่ะ เพียงแค่ความรักเป็นแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ใครบางคน อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีกว่าเดิมเพื่อใครอีก คน ทำให้รู้สึกว่าตัวเองคู่ควรกับความรัก ความสัมพันธ์นั้น นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมความรักถึงทรงพลัง ความรักยังมีพลังทำให้มนุษย์เราสามารถจับมือก้าวผ่านทุกอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ซึ่งเกิดขึ้นจากกลไกลทางจิตวิทยา การสนับสนุนของคู่รัก และวัฒนธรรมในบริบทของสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นคู่รักชายหญิง หรือคู่รักที่มีความหลากหลายทางเพศ  หากย้อนกลับไปในสมัยอดีต ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความรักของผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศนั้น

Presenteeism

ฟังเสียงร่างกายด้วยหัวใจ รู้จักกับภาวะ Presenteeism ฝืนทำงานทั้งที่ร่างกาย-จิตใจไม่ไหว

ใครเคยเป็นบ้างคะ ฝืนทำงานทั้งที่สภาพร่างกายหรือสภาพจิตใจไม่ไหว เพราะไม่อยากลาหยุด แต่การฝืนทำงานทั้งที่ยังป่วยอาจทำให้เราป่วยเพิ่มมากขึ้นและอาจจะทำให้เราทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร โดยในประเทศไทยมีคนมากกว่า 50% ยังไปทำงานทั้งที่ยังคงเผชิญอาการป่วยทางร่างกายไม่เพียงเท่านั้นยังพบว่า ผู้คนประมาณ 27.5% ยังคนฝืนทำงานทั้งที่มีปัญหาสุขภาพใจ นอกจากนี้มีการสำรวจพบว่ายังมีบางคนฝืนทำงานมากกว่า 5 ครั้งทั้งที่ป่วยภายใน 1 ปี อีกด้วยค่ะ  ทำไมหลายคนถึงทำเช่นนั้นอาจเป็นเพราะ อาจจะมองว่าเป็นภาระหน้าที่ที่เราต้องทำ งานนั้นไม่มีใครทำแทนเราได้ มีงานด่วน