เสียงจากหัวใจ:
บทสนทนากับ Chanisara
ผู้สร้างแรงบันดาลใจผ่านตัวอักษรและกำลังใจ

ในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทายและข้อจำกัด บางครั้งเราต้องการเพียงกำลังใจเล็กๆ ที่จะช่วยผลักดันให้ก้าวต่อไป

หากคุณเป็นแฟนคลับคอลัมน์หนึ่งที่เป็นภาพตัวการ์ตูนสีสันสดสวยน่ารักๆ บนโซเชียลมีเดียของแสนสิริ วันนี้เป็นโอกาสที่ดีคุณจะได้พบกับเจ้าของคอลัมน์ส่งพลังบวกสร้างแรงบันดาลใจบนโลกออนไลน์แล้ว กับ คุณชนิสรา หน่ายมี (แบมแบม) เจ้าของคอลัมน์ ‘Mental Life by Chanisara’ ผู้ซึ่งไม่เพียงแต่เอาชนะข้อจำกัดของตัวเอง แต่ยังใช้พลังแห่งการเขียนเพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น เนื่องในโอกาสวันคนพิการแห่งชาติ เรามาร่วมฟังเรื่องราวที่จะทำให้คุณมองเห็นว่า ทุกข้อจำกัดล้วนเป็นจุดเริ่มต้นของโอกาสใหม่ๆ เสมอ

อะไรคือแรงบันดาลใจที่ทำให้น้องแบมสร้างคอลัมน์ Mental Life by Chanisara เพื่อแบ่งปันเรื่องราวและให้กำลังใจผู้อื่น?

แบมเชื่อว่าทุกคนต้องการกำลังใจค่ะ กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราผ่านแต่ละวันไปได้ แบมเองเคยเป็นคนที่เดินไม่ได้มาก่อน และต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการกลับมาเดินอีกครั้ง แบมเคยรู้สึกท้อแท้และหมดกำลังใจ รวมถึงต้องเผชิญกับความกดดันในชีวิตเหมือนกับทุกคน ซึ่งเราต่างก็คงเคยเผชิญกับช่วงเวลาที่หมดหวังจากบททดสอบชีวิต ดังนั้นแบมจึงอยากให้งานเขียนของแบมเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันและกำลังใจให้ทุกคนมีกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อไปค่ะ

ช่วยเล่าถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้น้องแบมได้เข้ามาทำงานที่แสนสิริ และความรู้สึกในวันแรกที่ได้รับโอกาสนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

ตอนนั้นพี่ HR กำลังหาคนพิการเข้ามาทำงานในบริษัท ซึ่งช่วงนั้นแบมเพิ่งเรียนจบและได้เข้าฝึกงานที่มูลนิธินวัตกรรมทางสังคม ซึ่งเป็นมูลนิธิที่พัฒนาคนพิการให้พร้อมสำหรับการทำงานในบริษัท พี่ HR ได้ไปร่วมงานของมูลนิธิและเห็นเรซูเม่ของแบม จากนั้นจึงติดต่อมาเพื่อขอสัมภาษณ์ เรารู้สึกดีใจมากที่ได้รับโอกาสจากบริษัทแสนสิริให้เข้ามาทำงานในตำแหน่งที่ใฝ่ฝัน คือการเป็น Content Creator ค่ะ

“ทุกคนต้องการกำลังใจ เพื่อเป็นแรงผลักดันในการก้าวผ่านทุกเรื่องไปให้ได้”

มีช่วงเวลาไหนที่ท้าทายที่สุดในการทำงาน และคุณผ่านมันมาได้อย่างไร?

ช่วงที่ท้าทายที่สุดคือตอนที่คุณป้าแบมเสียชีวิตเมื่อหนึ่งเดือนที่แล้วค่ะ ซึ่งเป็นช่วงที่ยากที่สุดตั้งแต่เริ่มทำงาน เพราะเราต้องเขียนคอลัมน์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนอ่าน จึงต้องรักษามุมมองเชิงบวกมากๆ แต่ในเวลานั้นแบมกลับไม่มีพลังบวกให้ตัวเองเลย ทำให้ทุกอย่างยากไปหมด แบมจึงต้องพยายามแยกความรู้สึกส่วนตัวออกจากหน้าที่และมุ่งมั่นทำงานให้ดีที่สุด

การได้เป็นผู้สร้างคอนเทนต์ที่สร้างแรงบันดาลใจ เปลี่ยนมุมมองการใช้ชีวิตของแบมอย่างไรบ้าง?

การเขียนคอลัมน์ Mental Life by Chanisara ทำให้แบมเปิดมุมมองและเข้าใจคนอื่นมากขึ้น ยอมรับความหลากหลาย และพัฒนาความคิดและทัศนคติเชิงบวกต่อตัวเองและคนรอบข้างค่ะ

น้องแบมได้รับฟีดแบ็กที่ประทับใจที่สุดจากผู้อ่านคอลัมน์ของคุณคืออะไร?

ตอนเริ่มเขียนคอลัมน์ได้ไม่นาน มีคนทักมาว่าสิ่งที่เขียนเป็นกำลังใจให้เขามาก เขากำลังท้อแท้อยู่ต่างประเทศ ซึ่งแบมรู้สึกดีใจมากที่บทความของเราช่วยสร้างกำลังใจให้กับใครบางคน ข้อความที่เขาส่งมาทำให้แบมอยากสร้างสรรค์งานที่ดีต่อไป เพราะแบมคิดเสมอว่าทุกบทความต้องให้อะไรบางอย่างแก่คนอ่านค่ะ

อะไรคือความภาคภูมิใจที่สุดในการทำงานที่แสนสิริ?

แบมรู้สึกดีใจและเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทแสนสิริ บริษัทที่มีชื่อเสียงมายาวนานและให้โอกาสในการแสดงศักยภาพ เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรที่ให้ความเท่าเทียมอย่างแท้จริงค่ะ

“เราเกิดมามีชีวิตเดียว เราต้องทำทุกอย่างให้เต็มที่ที่สุด ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง เราก็แค่ยอมรับมัน”

มีหลักคิดอะไรที่ใช้เตือนตัวเองในวันที่รู้สึกท้อ?

แบมจะย้อนกลับไปคิดถึงวันที่เคยเดินไม่ได้ ซึ่งเป็นช่วงที่ยากที่สุด และเมื่อเราผ่านมันมาได้แล้ว ก็เชื่อว่าไม่ว่าจะท้อกับเรื่องอะไร เราจะผ่านมันไปได้เสมอค่ะ หรือบางครั้งก็จะมองไปที่คนที่ลำบากกว่าเรา จะทำให้รู้ว่าเราโชคดีแค่ไหนที่มีชีวิตแบบนี้

อยากให้แบ่งปันเคล็ดลับในการรักษา Positive Mindset ในการทำงานและการใช้ชีวิต

ไม่ว่าแบมจะเจอเรื่องอะไร จะพยายามมองหาข้อดีในเรื่องนั้นเสมอ เพราะแบมเชื่อว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมีข้อดีในตัวเอง เรามีชีวิตเดียว เราต้องทำทุกอย่างให้เต็มที่ที่สุด ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เราก็แค่ยอมรับและไม่เสียใจ เพราะเราได้ทำอย่างเต็มที่แล้วค่ะ

มีอะไรที่อยากบอกกับองค์กรอื่นๆ เกี่ยวกับการให้โอกาสกับผู้พิการในการทำงาน?

แบมอยากให้องค์กรอื่นๆ เปิดใจให้โอกาสคนพิการ เพราะคุณอาจจะได้เห็นศักยภาพของพวกเขา อย่าเพิ่งปฏิเสธเพียงเพราะเขาพิการ แต่ลองให้โอกาสพวกเขาพิสูจน์ตัวเอง เพราะการทำงานช่วยให้เราดูแลตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งใคร และแบมเชื่อว่าโอกาสเล็กๆ ที่คุณให้ อาจเปลี่ยนชีวิตใครบางคนได้ค่ะ

“อย่าเพิ่งปฏิเสธใครเพียงเพราะเห็นว่าเขาพิการ ลองให้เขาทำดูก่อน โอกาสเล็ก ๆ ที่คุณยื่นให้อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตใครบางคนได้”

อะไรคือความฝันขั้นต่อไปที่อยากทำให้สำเร็จ?

อยากเรียนต่อปริญญาโทในคณะที่ใฝ่ฝัน เพื่อเพิ่มพูนความรู้และต่อยอดในการทำงานในอนาคตค่ะ

มีข้อความอะไรที่อยากฝากถึงผู้พิการคนอื่นๆ ที่กำลังมองหาโอกาสในการทำงาน?

แบมเข้าใจดีว่าการหางานของคนพิการไม่ง่ายเลย แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือต้องเตรียมตัวเองให้พร้อม ฝึกทักษะและพัฒนาศักยภาพ เพราะเราไม่รู้ว่าโอกาสจะมาถึงเมื่อไหร่ แต่หากเราเตรียมพร้อม เมื่อโอกาสมาถึงเราก็จะพร้อมรับมันทันที อย่าเพิ่งท้อนะคะ ทำต่อไปเรื่อยๆ แล้วสักวันจะเป็นวันของคุณค่ะ แบมขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ทุกคนค่ะ

Mental Life by Chanisara

เรื่องราวของคุณชนิสรา สะท้อนให้เห็นว่าความพิการไม่ใช่อุปสรรคต่อการตามหาความฝัน หากแต่เป็นแรงผลักดันที่ปลุกพลังภายในให้ก้าวข้ามทุกข้อจำกัด การที่แสนสิริให้โอกาสผู้พิการได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ ไม่เพียงแต่สร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของพวกเขา แต่ยังเป็นแสงสว่างที่นำทางให้องค์กรอื่น ๆ เห็นถึงคุณค่าของความเท่าเทียมในสังคม เพราะในบางครั้ง โอกาสเพียงเล็กน้อยที่ถูกหยิบยื่น อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่เปลี่ยนชีวิตของใครบางคนไปตลอดกาล

ขอส่งกำลังใจให้กับผู้พิการทุกคน เชื่อมั่นว่าทุกก้าวของคุณมีค่า และทุกความพยายามจะนำพาคุณไปสู่ชีวิตที่ดีกว่า

Related Articles

Food Coma

“หนังท้องตึง หนังตาหย่อน” “Food Coma” อาการง่วงนอนหลังรับประทานอาหารเสร็จ

ไหนใครมีอาการแบบนี้บ้าง ง่วงหลังทานอาหารเสร็จแต่เราต้องกลับมานั่งทำงาน กลับมาเรียนต่อในตอนบ่าย ต้องกินชา กินกาแฟ เป็นตัวช่วยให้ตาสว่าง กลับมารู้สึกกระปรี้กระเปร่าอีกครั้ง หลายคนอาจสงสัยว่าที่เรามีอาการเช่นนี้เพราะเราขี้เกียจหรือเปล่านะ? แต่แท้จริงแล้ว อาจจะเป็นเพราะเรากินอาหารที่มีแป้งและไขมันมากเกินไป รวมถึงกินอิ่มมากเกินไปจึงทำให้เรารู้สึกง่วงนอนนั่นเองค่ะ  อาการนี้เขาเรียกกันว่า “Food Coma” หรือการง่วงหลังจากรับประทานอาหารเสร็จหากฟังดูอาจจะดูเหมือนเป็นอาการที่อันตราย แต่แท้จริงแล้ว อาการนี้ไม่เป็นอันตราย แต่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำงาน การเรียน สุขภาพ

White Lies

White Lies โกหกตัวเองและผู้อื่นวันนี้เพื่อความสบายใจ แต่ส่งผลกระทบต่อจิตใจอย่างไม่คาดคิด

อย่าโกหกตัวเองเพื่อรักษาความรู้สึกคนอื่น เพราะความรู้สึกของเราสำคัญไม่แพ้ใคร ทุกคนเคยโกหกตัวเองว่ามีความสุขเพื่อให้คนอื่นสบายใจไหมคะ? หลายครั้งที่เราโกหกตัวเองว่าเรายังไหว ไม่เป็นไรแค่นี้สบายมาก เราพูดกับตัวเอง “ฉันโอเค” “ฉันมีความสุข” พยายามหลอกตัวเองให้คิดแบบนั้น เพื่อที่จะแสดงออกมาให้คนอื่นเห็นว่า “”ฉันไม่เป็นไร” ทั้งที่ภายในใจแตกสลายและรับอะไรแทบจะไม่ไหวอีกแล้ว แต่เราพยายามยิ้ม พยายามหัวเราะ และบอกคนอื่นว่าไม่เป็นไร เพียงเพราะไม่อยากเป็นภาระผู้อื่นและเพื่อให้คนรอบข้างของเรารู้สึกสบายใจ  การกระทำเช่นนี้เรียกว่า “การโกหกสีขาว” หรือ  “White

World Laughter Day

“เสียงหัวเราะ” เปรียบเสมือนยาวิเศษที่ช่วยเยียวยาหัวใจ

“การหัวเราะ” เปรียบเสมือนยาวิเศษที่ช่วยเยียวยาหัวใจ ทำให้เราคลายเครียด มีความสุขและมองโลกในแง่บวกมากขึ้น เสียงหัวเราะสามารถเปลี่ยนโลกแสนมืดมนของใครบางคน ให้กลับมาสว่างสดใสได้ เคยไหมคะ เวลาเราเห็นใครคนหนึ่ง ไม่สดใสเหมือนเคย เราจะพยายามทำให้เขากลับมายิ้ม กลับมาหัวเราะ เพื่อที่จะทำให้เขากลับมามีความสุขได้อีกครั้ง เสียงหัวเราะจึงเปรียบเสมือนยาวิเศษที่ทรงพลังที่ช่วยเปลี่ยนแปลงอารมณ์ของผู้คนให้กลับมามีความสุข มีอารมณ์ขันและมองโลกในแง่ดีมากยิ่งขึ้น แม้ในวันที่ทุกอย่างไม่ได้เป็นดังที่ใจเราคิด หรือในวันที่เราต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิต เสียงหัวเราะ อาจเป็นตัวช่วยให้เราสบายใจขึ้น และเมื่อเราสบายใจ