คอนโด ในเมืองใหญ่มีตัวเลือกมากมายแต่การจะเลือกคอนโดมาเป็นเจ้าของสักห้องหนึ่ง ก็ควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วนในหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องความสะดวกสบายในการเลือกซื้อ ทำเล สิ่งอำนวยความสะดวก ราคา ความน่าเชื่อถือ และยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องพิจารณาเพื่อให้การลงทุนซื้อคอนโดนั้นคุ้มค่ามากที่สุด
บทความนี้จะแนะนำแนวทางในการเปรียบเทียบคอนโดแต่ละที่ด้วยปัจจัยที่สำคัญต่างๆ ได้แก่
- ทำเล
- ราคา
- สิ่งอำนวยความสะดวกและส่วนกลาง
- สเปคโครงการ
- ความน่าเชื่อถือของแบรนด์
1. เปรียบเทียบคอนโดจากทำเล
การพิจารณาเรื่องทำเลนั้นมีเรื่องที่ควรคิดอยู่สามเรื่องหลักๆ ได้แก่
ทำเลศักยภาพที่ช่วยให้เดินทางได้สะดวก
สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดสิ่งแรกที่ต้องพิจารณาเป็นเรื่องของทำเลที่ตั้งของโครงการ ถ้าซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองก็ควรคำนึงถึงทำเลศักยภาพที่ช่วยให้การเดินทางสะดวกขึ้น หรือเลือกตามไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของตัวเอง เช่น ถ้าใครชอบอยู่แบบเงียบสงบ มีรถส่วนตัวขับ ก็ลองมองหาทำเลโครงการที่ห่างออกไปย่านชานเมืองที่ห้องใหญ่ขึ้น หรือถ้าใครที่ทำงานในเมืองก็ลองมองหาทำเลที่ใกล้กับขนส่งสาธารณะที่เดินทางไปยังที่ทำงานได้อย่างสะดวก
เปรียบเทียบจากทำเลและที่ตั้ง
เปรียบเทียบทำเลที่ช่วยให้เดินทางไปยังสถานที่ทำงานได้สะดวก เนื่องจากเราต้องเดินทางไปทำงานเป็นประจำด้วยขนส่งสาธารณะ ก็เลือกทำเลของโครงการที่ใกล้ขนส่งสาธารณะอย่าง รถไฟฟ้าบีทีเอส MRT หรือแอร์พอร์ตลิงค์ โดยเลือกจากสถานีที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมากจนเกินไป
ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวก
สภาพแวดล้อมรอบข้างโครงการน่าอยู่หรือไม่ เดินทางออกไปจับจ่ายใช้สอยได้สะดวกไม่ต้องขับรถไปไกล เลือกโครงการที่อยู่ใกล้ ร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ตลาดสด โรงพยาบาล หรือเดินทางไปยังสถานที่เหล่านี้ได้สะดวก
Tips: การเปรียบเทียบทำเลของคอนโด
หลายคนมักมองปัจจัยอย่างสถานีรถไฟฟ้าต่างๆ เป็นปัจจัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้า BTS รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT หรือแอร์พอร์ตลิงก์ ก็ให้คุณลองเปรียบเทียบราคาค่าเดินทางไป-กลับ ที่ทำงานของคุณในแต่ละวันให้ดีก่อน ว่าคุ้มค่ากับทำเลคอนโดที่กำลังสนใจหรือไม่ เพราะบางทีเมื่อได้ลองคำนวนดูแล้ว อาจไม่คุ้มอย่างที่คิดแต่แรกก็เป็นได้
ยิ่งคุณอยู่ใกล้สถานี BTS แต่เป็นส่วนต่อขยายก็อย่าลืมว่าคุณต้องเสียค่าส่วนต่อขยายเพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาอีกว่าคุณต้องเดินทางกี่ต่อ กว่าจะถึงที่ทำงานของคุณได้อย่างไม่ลำบากมากเกินไป อีกทั้งควรจะสามารถเดินทางได้หลากหลายรูปแบบในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินขัดข้องใดๆ เกินขึ้น
2. เปรียบเทียบคอนโดจากราคา
โครงการคอนโดถูกแบ่งออกเป็นหลายระดับเพื่อให้ครอบคลุมตลาดในทุกระดับ การเลือกเปรียบเทียบคอนโดให้ดูแบรนด์ที่เหมาะสมกับงบประมาณของคุณและวงเงินกู้ในกรณีที่ต้องกู้ซื้อ โดยราคาของคอนโดจะคิดราคาต่อตารางเมตร ซึ่งจะมีทั้งรวมเฟอร์นิเจอร์และไม่รวมเฟอร์นิเจอร์ หรือแถมเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรบ้าง และราคาชั้นที่อยู่สูงกว่ามักมีราคาสูงกว่าชั้นที่อยู่ด้านล่าง
Tips: การเปรียบเทียบราคาคอนโด
รู้หรือไม่ว่าราคาคอนโดที่คุณเห็นนั้น ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย ทั้งค่าจอง ค่าโอน ค่าส่วนกลางรายปี ที่คุณต้องจ่ายในระหว่างการซื้อคอนโด นั่นหมายความว่าจำนวนเงินที่คุณกู้มาจากธนาคารอาจจะยังไม่เพียงพอสำหรับค่าคอนโดทั้งหมด ดังนั้นคุณควรมีเงินเก็บอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 20% ของราคาคอนโดที่ต้องการซื้อ
นอกจากนี้ราคาคอนโดในแต่ละสถานที่ก็มีราคาที่แตกต่างกันออกไป ยิ่งไกลออกจากตัวเมืองเท่าไหร่ก็ยิ่งมีราคาที่ต่ำลงแต่อย่าลืมว่าคุณจะต้องเสียค่าเดินทางไปทำงานที่อาจจะมากกว่าเดิม และต้องเสียเวลาเดินทางยาวนานก็ที่คิดไว้
3. เปรียบเทียบจากสิ่งอำนวยความสะดวกและส่วนกลาง
เมื่อเราเสียค่าส่วนกลางให้กับโครงการแล้วก็ควรพิจารณาความสำคัญของส่วนกลางด้วย ดูว่าทางโครงการมีส่วนกลางอะไรบ้างที่ลูกบ้านสามารถไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ เพียงพอต่อความต้องการ และคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายในแต่ละปีหรือไม่ นอกจากนี้ต้องดูด้วยว่ากฏระเบียบการใช้งานส่วนกลางรัดกุมมากพอหรือไม่ เพื่อให้การใช้ส่วนกลางร่วมกับผู้อื่นเป็นระเบียบเรียบร้อย
ตัวอย่างของสิ่งอำนวยความสะดวกและส่วนกลางที่ควรพิจารณา เช่น
ที่จอดรถ
ถ้าคุณมีรถยนต์ส่วนตัว ควรตรวจสอบเรื่องที่จอดให้ดีว่ามีพื้นที่เพียงพอสำหรับจอดรถยนต์หรือไม่ ทางขึ้นลงที่จอดรถลาดชันหรือเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากน้อยเพียงใด นอกจากนี้ทางเข้าออกโครงการแคบหรือเปลี่ยวในเวลากลางคืนหรือไม่ เพื่อความสะดวกต่อการใช้รถยนต์ของคุณเอง
ฟิตเนสและสระว่ายน้ำ
ถ้าคุณเลือกที่จะออกกำลังกายที่ฟิตเนสหรือสระว่ายน้ำส่วนกลาง ควรตรวจสอบอย่างละเอียดว่าฟิตเนสและสระว่ายน้ำมีพื้นที่และอุปกรณ์ที่พร้อมต่อการออกกำลังกายหรือไม่ มีกฏการใช้งานที่รัดกุมและปลอดภัยกับคุณและผู้อยู่อาศัยอื่นๆ ด้วยหรือไม่
ส่วนกลางและพื้นที่สีเขียว
พื้นที่ส่วนกลางทั้งส่วนล็อบบี้ พื้นที่สีเขียวโดยรอบตัวโครงการยิ่งมีพื้นที่ให้จำนวนมากก็ยิ่งน่าสนใจกว่า เนื่องจากการอาศัยอยู่ในโครงการก็ต้องการบรรยากาศโดยรอบที่ดูผ่อนคลายและสามารถใช้พักผ่อนหย่อนใจได้
ระบบรักษาความปลอดภัย
เรื่องของความปลอดภัยกับที่อยู่อาศัยต้องเป็นของคู่กัน สำหรับการเลือกโครงการคอนโดให้ดูตั้งแต่การเข้า-ออกคอนโด ว่าผู้อยู่อาศัยกับบุคคลภายนอกเข้าออกได้ยากง่ายแค่ไหน มีเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยทั้งทางเข้าออกและที่จอด รวมถึงกล้องวงจรปิดบริเวณทางเดินและโดยรอบอาคาร
Tips: การเปรียบเทียบสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง
การเลือกส่วนกลางให้ดูถึงความต้องการใช้งานและแต่ละส่วนด้วยตัวของคุณเอง คุณอาจจะชอบการออกกำลังกายในคอนโด ก็ให้เลือกคอนโดที่มีฟิตเนสที่มีความพร้อมของอุปกรณ์การออกกำลังกาย แต่ถ้าหากไม่ใช่ไลฟ์สไตล์ของคุณ ก็ไม่ต้องให้คะแนนการพิจารณากับเรื่องนั้นมาก
สำหรับคนที่เป็นสายฟรีแลนซ์ หรือต้องพกงานกลับมาทำที่บ้านในวันหยุด การเลือกคอนโดที่มี Co-working space ที่มีพื้นที่สำหรับการทำงานอย่างเงียบสงบ ทั้งอุปกรณ์ที่รองรับการทำงานรวมถึงการให้บริการ Wifi ที่จะช่วยรองรับการทำงานของคุณได้อย่างเต็มที่ ก็ควรจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ
เรื่องของการขึ้นลงคอนโดและจำนวนลิฟต์ ก็ควรดูความเหมาะสมของจำนวนลิฟต์ต่อจำนวนห้องในแต่ละชั้น เผื่อในยามที่คุณเร่งรีบออกไปทำงานในตอนเช้า จะไม่ต้องเสียเวลารอลิฟต์นานเกินไปเนื่องจากจำนวนลิฟต์ที่ไม่เพียงพอ
เรื่องของที่จอดรถในบางคนอาจจะไม่ได้ใช้รถยนต์ส่วนตัวก็อาจจะไม่ต้องการพื้นที่จอดรถของตัวเอง แต่ก็ให้ลองเปรียบเทียบถึงความปลอดภัยในคอนโด ว่ามีความปลอดภัยต่อทรัพย์สินของคุณมากเพียงใดในเวลาที่คุณจะต้องกลับดึก หรือไม่อยู่ที่ห้องเป็นเวลานาน
4. เปรียบเทียบจากสเปคโครงการตามความต้องการ
ความสูงของคอนโดเองก็มีผลต่อราคาที่เพิ่มขึ้นเพื่อแลกกับวิวที่เห็นได้กว้างมากขึ้นจากห้องของตัวเอง สำหรับใครที่ชอบวิวแม่น้ำ วิวเมือง แลนด์มาร์คต่างๆ ก็เลือกเปรียบเทียบคอนโดแบบ High rise หรือคอนโดที่มีความสูงตั้งแต่ 8 ชั้นขึ้นไป หรือถ้าไม่ได้ต้องการวิวสวยหรือสูงมากก็เลือกเปรียบเทียบคอนโดแบบ Low rise ที่มีความสูงไม่เกิน 8 ชั้น โดยต้องคำนึงจากหลายปัจจัยดังนี้
ทำเลห้อง
การเลือกห้องควรคำนึงถึงความสะดวกสบายของตัวเองเป็นหลัก เนื่องจากบางห้องจะติดกับลิฟต์ บันไดหนีไฟ ห้องทิ้งขยะ อาจจะส่งเสียงหรือกลิ่นรบกวนได้ แต่สำหรับบางคนอาจจะต้องการห้องที่อยู่ใกล้ลิฟต์มากกว่าเพราะสะดวกสบายต่อการขึ้นลงโดยไม่ต้องเดินไกล
ชั้นและทิศห้อง
ข้อสำคัญของการเลือกคอนโดแบบ High rise ควรเลือกทิศให้ดี เนื่องจากบางโครงการอาจจะถูกตึกอื่นๆ บังวิวในบางทิศ ก่อนตัดสินใจเลือกห้องควรดูทิศทางให้ดีว่าทิศทางไหนแดดจะส่องห้อง หรือทิศทางไหนลมจะพัดเข้าห้องได้
นอกจากนี้การเลือกห้องที่อยู่สูงกว่าก็จะได้เห็นวิวที่กว้างมากขึ้น ถ้าต้องการวิวที่ดีก่อนการตัดสินใจก่อนเลือกซื้อคอนโดเหล่านี้ก็ควรเลือกห้องที่มีทิศที่ตรงกับความต้องการและมองเห็นวิวได้อย่างชัดเจน
Tips: การเปรียบเทียบจากทำเลห้อง
มีคอนโดเป็นของตัวเองทั้งทีก็ควรมีห้องที่ดีให้คุ้มค่าต่อเงินที่จ่ายไป ถ้าคุณเป็นคนนอนตื่นยากอาจจะเลือกห้องฝั่งทิศตะวันออกให้แสงแดดส่องถึงในตอนเช้า แต่ถ้าคุณเป็นคนตื่นง่ายห้องทิศใต้หรือทิศตะวันตกอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะแสงแดดจะส่องมาที่ห้องในช่วงกลางวันจนถึงเย็น
แต่ถ้าอยากให้คุ้มค่าจริงๆ ถ้ามองวิวออกจากห้องนอนหรือจากระเบียงห้องของคุณแล้ว ไม่มีตึกอื่นมาบังวิวของคุณ ก็ยิ่งทำให้คุณได้รู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวและความสบายใจได้มากยิ่งขึ้น
5. เปรียบเทียบความน่าเชื่อถือของแบรนด์
ศึกษาเจ้าของโครงการให้ดีก่อนตัดสินใจเลือกคอนโด ยิ่งถ้าเป็นเจ้าของโครงการที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับอยู่แล้วก็ยิ่งง่ายต่อการตัดสินใจเลือกซื้อ เพราะจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อทั้งมาตรฐานการก่อสร้าง และบริการหลังการขายอย่างมีประสิทธิภาพ
โครงการผ่าน EIA Approved
EIA ย่อมาจาก Environmental Impact Assessment Report คือการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมทั้งทางบวกและทางลบของโครงการ โดยครอบคลุม 4 เรื่อง คือ
- ทรัพยากรกายภาพ เช่น ดิน น้ำ อากาศ เสียง ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
- ทรัพยากรชีวภาพเกี่ยวกับระบบนิเวศ เช่น ป่าไม้ สัตว์ป่า เป็นต้น
- การใช้ประโยชน์ที่ดิน
- คุณภาพชีวิตที่มีผลต่อ ชุมชน ระบบเศรษฐกิจ ทัศนียภาพ ความสวยงาม เป็นต้น
ที่ต้องดู EIA ของโครงการเนื่องจากหลายโครงการยังไม่เริ่มสร้างและยังไม่ผ่าน EIA แต่เริ่มมีการ Pre Sale แล้ว เมื่อโครงการเหล่านั้นไม่ผ่าน EIA ก็จะไม่ได้รับอนุมัติให้สร้างโครงการ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาในภายหลังกับผู้ที่จ่ายเงินจองโครงการไปแล้ว
Tips: การเปรียบเทียบความน่าเชื่อถือของแบรนด์
การได้รับบริการหลังการขาย และห้องที่ถูกสเปคตามที่คุณได้ซื้อเอาไว้ จะช่วยให้คุณสบายใจหลังจากตัดสินใจซื้อไปแล้ว คุณสามารถตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเจ้าของโครงการได้ตามอินเทอร์เน็ต โดยศึกษาโครงการก่อนหน้าของเจ้าของโครงการว่าลูกค้าก่อนหน้ามีความพึงพอใจมากน้อยเพียงใด เพื่อเอามาช่วยเป็นหนึ่งในการตัดสินใจเลือกซื้อคอนโดให้กับคุณได้
สรุป
การเลือกซื้อ คอนโด เป็นของตัวเอง ไม่เพียงเฉพาะตัดสินใจจากรูปโฆษณาอย่างเดียวเท่านั้น แต่ควรตัดสินใจจากปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วยทั้ง ราคา ทำเล ความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และความคุ้มค่าเมื่อเราเลือกที่จะลงทุนไปแล้ว เพื่อให้ได้คอนโดที่ตรงกับไลฟ์สไตล์และสร้างความสุขให้กับคุณมากที่สุด