พลังวิเศษของการท่องเที่ยว
เพื่อการชาร์จแบตร่างกาย
และจิตใจที่เหนื่อยล้า

“การท่องเที่ยวเป็นการเยียวยาร่างกายและจิตใจที่เหนื่อยล้า”

MentalLife-01

ใกล้จะเทศกาลสงกรานต์แล้ว บางคนอาจเดินทางกลับบ้านหรือบางคนอาจเดินทางท่องเที่ยว เพราะเดือนนี้เป็นเดือนที่มีวันหยุดยาวเยอะมากทำให้หลายคนได้หยุดพักอย่างชื่นฉ่ำหัวใจหลังจากเหนื่อยกับการทำงานมาตั้งแต่ต้นปี เพื่อกลับไปชาร์จแบตร่างกายและจิตใจของตัวเองให้กลับมามีพลังในการทำงานและการใช้ชีวิตอีกครั้ง

การท่องเที่ยวเป็นอีกวิธีที่ทรงพลังที่ช่วยฮีลใจของเราและยังทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงมากขึ้นอีกด้วยค่ะ หากคุณกำลังรู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงาน รู้สึกหมดไฟ หรือรู้สึกหมดกำลังใจในการใช้ชีวิต ลองพาตัวเองออกไปท่องเที่ยวใกล้ๆ หรือท่องเที่ยวไกลๆสัก 1 ทริป แค่ออกจากบ้าน ไปเที่ยวในสถานที่แปลกใหม่ เราเชื่อว่าจะทำให้คุณกลับมามีพลังในการใช้ชีวิตอีกครั้งค่ะ วันนี้ Mental Life by Chanisara มาเปิดเหตุผลของการท่องเที่ยวที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายและจิตใจให้กลับมาสดใสอีกครั้งกันค่ะ

“พลังวิเศษของการท่องเที่ยว”

การท่องเที่ยวลดความเครียดและการวิตกกังวลได้

การเดินทางท่องเที่ยว เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้เราหลีกหนีจากความวุ่นวาย ทำให้เราได้ใช้ชีวิตและได้ทำอะไรที่แตกต่างออกไปจากชีวิตประจำวันของเรา เพราะการที่คนเราได้พบเจอสถานการณ์ที่น่าตื่นเต้น เจอสิ่งสวยงาม หรือสิ่งที่เราชื่นชอบและประทับใจ สมองจะผลิตสารโดพามีนและเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารที่หลายคนเรียกว่า “สารแห่งความสุข”ออกมา จะทำให้เรารู้สึกมีความสุขมากขึ้น ลดความเครียดและการวิตกกังวลได้นั่นเองค่ะ ใครเครียดอยู่หยุดยาวนี้ลองออกไปเที่ยวกันนะคะ

การท่องเที่ยวลดอัตราการป่วยด้วยโรคหัวใจ

สำนักข่าว BBC รายงานว่า จากการศึกษาของ Framingham Heart Study เกี่ยวกับโรคหัวใจ เมื่อปี ค.ศ. 1948 พบว่า ผู้หญิงที่เดินทางท่องเที่ยวเพียงแค่หนึ่งครั้งในหกปี มีโอกาสจะหัวใจวายหรือเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจมากกว่าถึงแปดเท่าเมื่อเทียบกับผู้หญิงที่เที่ยวปีละสองครั้ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า การได้ใช้เวลาเดินทางไปท่องเที่ยว หรือพักผ่อนลดการป่วยเป็นหลอดเลือดหัวใจและหัวใจวายได้ เพราะฉะนั้นทุกคนอย่าลืมหาเวลาหยุดพักผ่อนเดินทางไปท่องเที่ยวกันบ้างนะคะ 

การท่องเที่ยวจุดประกายความคิดสร้างสรรค์

การได้ไปสัมผัสบรรยากาศใหม่ๆ วัฒนธรรมหรือวิถีชีวิตที่แตกต่าง จะทำให้มีความคิด ในมุมมองใหม่ๆ ซึ่งจะทำให้เรามีการคิดนอกกรอบและมีความคิดสร้างสรรค์ที่แตกต่างออกไปจากเดิม รวมไปถึงการไปเห็นสถานที่ ที่แปลกใหม่และสวยงามอาจเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งใครที่ทำงานในสายอาร์ตที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์อาจจะนำสิ่งที่เห็นมาต่อยอดในการทำงานได้อีกด้วยค่ะ 

แค่วางแผนเที่ยวก็มีความสุขมากขึ้น

มนุษย์ใช้เวลาส่วนมากไปกับการคิดถึงเรื่องในอนาคต Matthew Killingsworth นักวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับการทำความเข้าใจธรรมชาติและสาเหตุของความสุขของมนุษย์ กล่าวว่า “การนึกถึงสิ่งดีดีที่จะเกิดขึ้นในอนาคตก่อให้เกิดความสุข” ซึ่งเมื่อเราคาดหวังว่าจะได้รับประสบการณ์ในการท่องเที่ยวที่ดี จะทำให้ความสุขของเราเพิ่มมากขึ้นและบางงานวิจัยยังบอกอีกว่าการวางแผนท่องเที่ยวอาจทำให้มีความสุขมากกว่าการเดินทางท่องเที่ยวด้วยนะคะ

การท่องเที่ยวทำให้มีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น

การท่องเที่ยวทำให้มีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น โดย Barbara Koltuska-Haskin นักประสาทวิทยา ได้กล่าวว่า ร่างกายและสมองของเราต้องการวันหยุดพักผ่อนและหากได้ไปเที่ยวจะทำให้เราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและทุกคนรู้หรือไม่คะว่า การใช้เงินไปการท่องเที่ยวจะทำให้เรามีความสุขมากกว่าการซื้อของซะอีกนะคะ

เห็นไหมล่ะคะว่าการท่องเที่ยว นอกจากจะช่วยให้เราพักผ่อนหย่อนใจแล้วยังช่วยเยียวยาจิตใจ ชาร์จแบต ร่างกายและจิตใจ ให้กลับมาเป็นคนที่สดใส มีพลัง สุขภาพร่างกายแข็งแรง และยังช่วยลดหัวใจวายได้ด้วยนะคะ ฉะนั้นเพื่อนๆอย่าลืมค่ะเวลาหยุดพักและไปเที่ยวกันด้วยนะคะ 

 

การเดินทางท่องเที่ยวจึงเป็น “พลังวิเศษ” ที่ช่วยชาร์จแบตร่างกายและจิตใจของเราให้มีพลังในการใช้ชีวิตอีกครั้งค่ะ


Source 

https://www.bbc.com/thai/features-46659397

https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/1081044 

https://www.psychologytoday.com/intl/blog/how-my-brain-works/202307/why-our-body-and-brain-need-vacation

https://www.nationalgeographic.com/travel/article/planning-a-trip-is-good-for-you-especially-during-pandemic?cmpid=org=ngp::mc=crm-email::src=ngp::cmp=editorial::add=Travel_20200519&rid=A5432A2B4450617D14233082A7EA6CF0  

https://www.mhainde.org/the-impact-of-travel-on-mental-health/ 

https://paintedbrain.org/blog/lifestyle/the-healing-power-of-travel-how-exploring-the-world-can-benefit-mental-health 

 

Related Articles

the power of love

“พลังของความรัก” จะทำให้เราจับมือกันก้าวผ่านทุกอุปสรรค และเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้

“พลังของความรัก” จะทำให้เราจับมือกันก้าวผ่านทุกอุปสรรค และเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้ ทุกคนเชื่อในพลังแห่งความรักไหมคะ ความรักสามารถเปลี่ยนแปลงใครคนหนึ่งให้เป็นคนที่ดีขึ้นได้ แต่ความรักไม่ได้มีเวทมนตร์พิเศษอะไรหรอกค่ะ เพียงแค่ความรักเป็นแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ใครบางคน อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีกว่าเดิมเพื่อใครอีก คน ทำให้รู้สึกว่าตัวเองคู่ควรกับความรัก ความสัมพันธ์นั้น นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมความรักถึงทรงพลัง ความรักยังมีพลังทำให้มนุษย์เราสามารถจับมือก้าวผ่านทุกอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ซึ่งเกิดขึ้นจากกลไกลทางจิตวิทยา การสนับสนุนของคู่รัก และวัฒนธรรมในบริบทของสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นคู่รักชายหญิง หรือคู่รักที่มีความหลากหลายทางเพศ  หากย้อนกลับไปในสมัยอดีต ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความรักของผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศนั้น

Presenteeism

ฟังเสียงร่างกายด้วยหัวใจ รู้จักกับภาวะ Presenteeism ฝืนทำงานทั้งที่ร่างกาย-จิตใจไม่ไหว

ใครเคยเป็นบ้างคะ ฝืนทำงานทั้งที่สภาพร่างกายหรือสภาพจิตใจไม่ไหว เพราะไม่อยากลาหยุด แต่การฝืนทำงานทั้งที่ยังป่วยอาจทำให้เราป่วยเพิ่มมากขึ้นและอาจจะทำให้เราทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร โดยในประเทศไทยมีคนมากกว่า 50% ยังไปทำงานทั้งที่ยังคงเผชิญอาการป่วยทางร่างกายไม่เพียงเท่านั้นยังพบว่า ผู้คนประมาณ 27.5% ยังคนฝืนทำงานทั้งที่มีปัญหาสุขภาพใจ นอกจากนี้มีการสำรวจพบว่ายังมีบางคนฝืนทำงานมากกว่า 5 ครั้งทั้งที่ป่วยภายใน 1 ปี อีกด้วยค่ะ  ทำไมหลายคนถึงทำเช่นนั้นอาจเป็นเพราะ อาจจะมองว่าเป็นภาระหน้าที่ที่เราต้องทำ งานนั้นไม่มีใครทำแทนเราได้ มีงานด่วน

pet sick

เพราะการใส่ใจ คือ การมอบความรักให้สัตว์เลี้ยง มาสังเกตดูว่า “น้องหมา-น้องแมว” สบายดีอยู่หรือเปล่านะ?

ทุกคนเคยสงสัยไหมคะว่าเราจะรู้ได้ยังไงว่าน้องหมา น้องแมว ที่เรารักนั้นกำลังไม่สบายอยู่หรือเปล่านะ? เพราะน้องหมา น้องแมว บอกเราไม่ได้เราจึงต้องสังเกตอาการสัตว์เลี้ยงอย่างใส่ใจ ว่าสัตว์เลี้ยงของเรานั้นมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปยังไง หรือมีอาการผิดปกติอะไรที่แสดงออกมาทางร่างกาย เพื่อที่เราจะได้พาพวกเขาไปรักษาได้อย่างเร็วที่สุดค่ะ สุขภาพของน้องหมา น้องแมวเป็นเรื่องที่สำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม หากน้องหมาที่คอยวิ่งออกมาส่งเมื่อเราจะออกจากบ้าน หรือมานั่งรอกระดิกหางหน้าบ้านเมื่อเรากลับมาไม่มานั่งคอยเหมือนเดิม น้องแมวที่คอยมาอ้อน คลอเคลียเรา กลับเงียบซึมไม่มาหาเหมือนเคย บางครั้งเราอาจจะคิดว่าน้องหมา น้องแมวขี้เกียจ หรืออารมณ์ไม่ดีหรือเปล่านะ เดียวก็หายแล้วกลับมาสดใสร่าเริงเหมือนเดิม