กระแสที่กำลังมาในปี 2018 คือการทำแบรนด์โดยคำนึงถึงความหลากหลายทั้งชาติพันธุ์ ชนชั้น สีผิวหรือศาสนา หรือก็คือ “inclusivity” โดยปัจจัยสำคัญที่จะทำให้แบรนด์มีความ Inclusivity คือ การนำ Micro Influencer เข้ามาเป็นตัวเชื่อมระหว่างแบรนด์กับกลุ่มลูกค้า เนื่องจาก Micro Influencer นั้นมาจากคนหลากหลายกลุ่ม เมื่อแบรนด์สามารถเข้าถึง Micro Influencer ได้ก็จะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายประเภท
ในงาน Creative Talk Conference 2018 เราได้ความรู้เรื่องนี้จาก คุณสุวิตา จรัญวงศ์ จาก Redlab และ Tellscore ซึ่งช่วยให้เข้าใจถึง Micro Influencer ให้มากขึ้น เพราะในปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่าลูกค้ามีความเท่าทันต่อการตลาดและปฏิเสธแบรนด์มากขึ้น พวกเขาต้องการที่จะเป็น “ส่วนหนึ่ง” ของแบรนด์มากกว่าที่จะถูกนำเสนอขายสินค้า
กลุ่ม Micro Influencer ที่เปรียบเสมือน “เพื่อน” ของลูกค้าจึงเป็นตัวเชื่อมอย่างดีที่จะคอยเชื่อมระหว่างแบรนด์กับลูกค้า
อย่างไรก็ดีไม่ใช่เป็นการละทิ้ง Macro Influencer หากแต่ต้องเข้าใจระบบการทำงานของทั้งสองรูปแบบว่า Macro Influencer นั้นจะช่วยเรื่องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับแบรนด์ แต่ในขณะที่ Micro Influencer จะชักจูงให้ลูกค้าเข้ามาทดลองใช้ (Engage) มากกว่า
5 สิ่งสำคัญที่แบรนด์ควรรู้
-
State of Brand
ในปัจจุบัน กระแสเรื่อง Inclusivity หรือความหลากหลายในสังคมนั้นเป็นแนวคิดที่คนกำลังให้ความสนใจ แบรนด์จึงควรหันมาทำการตลาดแบรนด์แบบ Inclusive Branding คือการเปิดรับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นชาติพันธุ์ ชนชั้น สีผิวหรือศาสนา โดยมโนทัศน์ของ Inclusivity นั้นตรงกันข้ามกับ Exclusivity ที่จำกัดกลุ่มลูกค้าให้อยู่เฉพาะกลุ่มเท่านั้น
-
State of Advertising
การทำโฆษณาบนสื่อออนไลน์เริ่มมีปัญหามากขึ้นจากการแพร่กระจายของ Ad Block, การซื้อ Fake Follower หรือ Adfraud คนจึงเริ่มกลับมาทำโฆษณาผ่านตัวบุคคลหรือการกระจายข่าวผ่านตัวบุคคลมากขึ้น ในที่นี้คือผ่านตัว Micro Influencer
-
State of Content
แบรนด์ไม่จำเป็นต้องพยายามสร้าง Content เพราะ Content คือตัวบุคคลนั้น ๆ เอง
(Micro influencer is content king) -
State of Consumer
แนวโน้มของผู้บริโภคในปัจจุบันคือ ไม่เชื่อแบรนด์ หากแต่ต้องการให้แบรนด์สนใจหรือเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับความหลากหลายในสังคมหรือในที่นี้คือ Inclusivity จึงเป็นการย้ำให้เห็นชัดยิ่งขึ้นว่าประเด็นเรื่องความหลากหลายในสังคมนั้นเป็นประเด็นที่สำคัญมากต่อการทำ Branding ในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นประเด็นที่ผู้บริโภคกำลังให้ความสนใจ
-
State of Micro Influencer
Micro Influencer เข้ามาอุดช่องโหว่ระหว่างเซเลป (Macro Influencer) กับตัวกลุ่มลูกค้า Macro Influencer มีอิทธิพลต่อการสร้าง Awareness ต่อตัวสินค้าเพราะสามารถเข้าถึง (Reach) คนได้ในกลุ่มหมู่มาก ในขณะที่ Micro Influencer มีอิทธิพลต่อการชักจูงให้ลูกค้าเข้ามาใช้สินค้าเพราะตัว Micro Influencer มีหน้าที่ใช้สินค้าจริง (Exercise product) และ Validate Product ดังนั้นในการเริ่มลงทุนจึงควรเริ่มลงทุนกับ Micro Influencer ก่อน
การตลาดแบบผิวเผินทั่วไปอาจใช้ไม่ได้ผลแล้วสำหรับยุคนี้ ที่ลูกค้าสามารถแยกแยะและเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งต้องมาพร้อมกับ “ความไว้เนื้อเชื่อใจ” ในการบริโภค ซึ่งแบรนด์เองก็ต้องปรับตัวและหันมามองถึงตัวช่วยต่างๆ เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนให้ดึงดูดความสนใจ รวมถึง “ความไว้เนื้อเชื่อใจ” ที่อาจต้องอาศัยแรงจาก Influencer ควบคู่ไปด้วย
สามารถชมวิดีโอย้อนหลังได้ที่ คลิก