Milan

Milan Trend Remix

Milan Trend Remix

Milan-Trend-Remix-Selection1-422x457

เพิ่งผ่านไปหมาดๆกับ Milan Trend Remix by Sansiri DSD feat. Wallpaper ที่ Sansiri Lounge, Paragon ขอบคุณทุกๆคนที่ฝ่าฝน ฝ่ารถติดมางานนี้ และตั้งใจจด ตั้งใจฟังกันเต็ม 2 ชั่วโมงเลยนะคะ

งานนี้ได้รับเกียรติจากคุณเอก-ชัยยง รัตนอังกูร Editor-in-Chief ของนิตยสาร Wallpaper ที่มาแชร์เทรนด์ดีไซน์ต่างๆทั่วโลก เช่นเรื่องการกำหนด carbon footprint ในการผลิตสินค้าในยุโรป ทำให้ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์และดีไซเนอร์ต้องคิดให้หนักขึ้นเรื่องการเลือกใช้วัสดุต่างๆ พร้อมกรรมวิธีใหม่ๆเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ตู้เสื้อผ้า Silex โดย  Jean-François Bellemère ที่นำเทคนิคการพับเข้ามุมแบบญี่ปุ่นมาใช้กับกระดาษอัด ซึ่งทำเป็นผนังตู้ ราวกับเป็นประติมากรรม พร้อมยังเคลื่อนย้ายสะดวกอีก

©VIA Design 2012 – Photo : Marie Flores

นอกจากนี้ ยังมีเทรนด์ “Pet Parents” ที่คนตามเมืองใหญ่ๆไม่ยอมมีลูก แต่มีสัตว์เลี้ยงแทน ทำให้บ้านน้อยๆเพื่อสัตว์เลี้ยงขายดีจนไม่น่าเชื่อ เช่น Chimere แบรนด์จาก Paris ที่ทำเฟอร์นิเจอร์แบบ contemporary เพื่อสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ ดูเรียบหรู และกลมกลืนเข้ากับบ้านสมัยใหม่ ทำให้เราลืมกรงแบบเดิมๆไปได้เลย

รูปจาก http://www.thenestway.com/2012/04/milan2012-chimere-paris-collection/

จากที่ไปเดินดูงานกันจนเหนื่อย ทีม Sansiri DSD เองได้มารวม Living Trend ต่างๆจาก MilanFair ให้คุณฟัง ซึ่งหลักๆก็หนีไม่พ้นงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นวัสดุใหม่ๆ และ process ใหม่ๆที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเช่น Polyfloss ของนักเรียน RCA (Royal College of Arts, London) ที่คิดค้นวิธีใหม่ๆมา recycle plastic เป็นการปั่นเข้าเครื่องคล้ายๆสายไหมและฟอร์มออกมาเป็นรูปนั่นเอง ซึ่ง plastic เป็นขยะที่แพร่หลายที่สุดในหลายๆประเทศ จึงเป็นการคิดค้น process ใหม่ๆที่ง่าย ใช้พลังงานน้อย

หรือเทรนด์การ กลับไปหาพื้นที่สีเขียว ที่เห็นได้จากการพยายามนำองค์ประกอบของธรรมชาติ เข้าไปแทรกอยู่ในตัวเฟอร์นิเจอร์ หรือแม้กระทั่งอิฐที่เป็นโครงสร้างอาคารเช่น Brick Biotype ซึ่งเป็นรูปแบบอิฐใหม่ๆที่สามารถปลูกต้นไม้ และเป็นพื้นที่ให้นก House Sparrow มาสร้างรังได้อีกด้วย โดย ทีม Fabrikaat จาก ประเทศ Netherlands สังเกตุเห็นว่านกชอบมาสร้างรังในรอยแตกของอิฐตามตึก เพราะมันไม่ค่อยมีต้นไม้ให้อยู่ในเมือง เป็นตัวอย่างการ co-exist กันของสถาปัตยกรรมและธรรมชาติจริงๆ

 

ยังมีโซนดีไซน์เก๋ๆ ที่ไม่ควรพลาดในงาน MilanFair เช่น Zona Tortona หรือ Lambrate ซึ่งก็ได้มีกลุ่มดีไซเนอร์ไทยได้ไปโชว์ของเหมือนกัน เราจึงไม่รอช้า รีบเชิญกลุ่ม Thinkk+Studio 248 ซึ่งเป็นดีไซเนอร์หน้าใหม่มาพูดคุยถึงประสบการณ์ และเล่าถึงแรงบันดาลใจของผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาดีไซน์ สองสตูดิโอนี้เริ่มดีไซน์จากการคำนึงถึงพฤติกรรมการใช้ของคนจริงๆ ซึ่งเค้าบอกว่า Shape กับ Form เป็นสิ่งที่เค้าคำนึงถึงหลังสุดเพราะอยากให้คนมี connection กับสิ่งของนั้นจริงๆ เช่น “Seven Days Closet” ตู้เสื้อผ้าสำหรับ 7 วัน ที่ทำให้คุณไม่ต้องรื้อหาเสื้อตัวเก่งอีกต่อไป หรือ จะเป็น “Merging Top” แจกันที่ไม่สามารถตั้งตรง ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากลูกข่างสมัยเด็ก ทำให้การจัดดอกไม้เป็นประสบการณ์ใหม่ที่น่าสนุก

สุดท้ายนี้ หวังว่าทุกคนที่ได้ไปงานนี้ จะกลับไปพร้อมแรงบันดาลใจดีๆ โดยเฉพาะน้องๆนักศึกษานะคะ

สำหรับคนที่พลาดงานนี้ ไม่ต้องเสียใจไป เพราะเห็น feedback ที่ดีแบบนี้ ทาง Sansiri DSD ได้นำ presentation ของเราเองมาแชร์ให้คุณสามารถ download ได้ที่นี่แล้ว https://docs.google.com/open?id=0Bz2-ZgBleyEoNFdzc3ZsdVdiMlU

 

Related Articles

Stockholm furniture and light fair

Stockholm Furniture & Light Fair 2016 รวมนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของการตกแต่งภายในสไตล์สแกนดิเนเวีย

Stockholm Furniture & Light Fair 2016 นำเสนอนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของการตกแต่งภายใน, เฟอร์นิเจอร์ และโคมไฟสไตล์สแกนดิเนเวียสำหรับทั้งที่บ้านและพื้นที่สาธารณะ รวมทั้งสินค้า วัสดุและแนวโน้มทางธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงการแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีที่จัดแสดงขึ้นเพื่อให้ข้อมูลและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่เข้าชมงานนี้

Your LOOK, Your ROOM: แต่งห้องตามบุคลิกกับ เดอะ วัลลีย์ เขาใหญ่

การตกแต่งห้องเปรียบเสมือนบุคลิกหน้าตาของผู้อยู่.. วันนี้แสนสิริ บล็อกนำเสนอไอเดียการตกแต่งห้องตามบุคลิกของแต่ละคนที่ไม่ว่าจะเป็นสไตล์หวาน โมเดิร์น หรูหราหรือชิคๆ แต่ยังคงความเรียบง่าย สงบและอบอุ่น เหมาะกับการพักผ่อนในทุกๆวัน

Rise and shine

Rise and shine: จากท่องเที่ยวถึงอสังหาฯ กับ 4 เหตุผลที่ทำให้ภูเก็ต hot ไม่เลิก

เมื่อไม่นานมานี้ Property Report ได้ออกมาเปิดเผยถึงสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ต โดยใช้เมนู “ผัดไทย” ที่ชาวต่างชาติรู้จักกันดี มาเป็นดัชนีชี้วัดค่าครองชีพที่สูงขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากอัตราเงินเฟ้อว่า ในบรรดาเมืองท่องเที่ยวอย่างกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต หัวหิน และพัทยา ราคาเฉลี่ย “ผัดไทย” ต่อจานของภูเก็ตอยู่ที่ 55 บาท นับว่าสูงที่สุดเมื่อเทียบกับเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ (ราคา 41 บาทต่อจาน) และเชียงใหม่ (38 บาทต่อจาน) ในระดับครัวเรือน คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งนี้สร้างความกังวลให้กับผู้บริโภคทั่วไป แต่หากมองในมุมของภาคเศรษฐกิจโดยรวม จากผลการสำรวจพบว่าราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นสัมพันธ์อำนาจการจับจ่ายที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โดยมีอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นปัจจัยหลักยังที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูเก็ตอยู่ตลอดเวลา