เมื่อรัก...คือ การให้ความสำคัญ
กับคนที่อยู่เคียงข้าง ลูกไม้ & มาย

แสนสิริ ขอชวนทุกคนมาร่วมกันนับถอยหลังสู่วันที่ประเทศไทยจะมี “สมรสเท่าเทียม” อย่างเป็นทางการ โดยคู่รักทุกคู่จะสามารถจดทะเบียนเป็น “คู่สมรส” และได้รับสิทธิตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมพร้อมกันในวันที่ 22 มกราคม 2568 ผ่านแคมเปญ Ready, Set, Marry!

เริ่มจากคู่รักสายแฟชั่น ‘ลูกไม้’ อินทิรา หอมเทียนทอง และ ‘มาย’ ญาณิศา งามอรุณสุข เป็นคู่แรกที่จะมาร่วมบันทึกรักผ่านภาพถ่าย Pre-Wedding ที่โครงการแสนสิริ

นอกจากนี้ เรายังได้ช่างภาพที่เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่จากโครงการ Artizen ‘แม็ก’ ชนากาน คำทองวิจิตร มาร่วมถ่ายทอดมุมมองผ่านภาพถ่ายในครั้งนี้ด้วยค่ะ 

ก่อนจะถึงวันนี้…ตอนนี้เราจะพาทุกคนไปดูภาพแห่งความรักที่แสนอบอุ่นกับคู่รักที่ให้ความสำคัญกับ “คนที่อยู่เคียงข้าง” คอยดูแล และให้ความสำคัญกันตลอด แม้ในระหว่างที่ถ่ายทำนั้น เราทุกคนล้วนสัมผัสได้ถึงความรักของทั้งคู่ แม้ไม่ได้มีใครเอ่ยออกมา

ไปชมพร้อมกันเลยค่ะ 

นับถอยหลังสู่สมรสเท่าเทียมไปด้วยกัน

Ready, Set, Marry! คลิก  https://siri.ly/osshtoC

แสนสิริ พร้อมสนับสนุนทุกความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นจริง

และสามารถไปติดตามความรักที่แสนสวยงามของคู่รัก คู่อื่นได้ที่

ชีส รถเมล์  https://blog.sansiri.com/ready-set-marry-cheese-rodmay/ 

อาเธอร์ โจ๊ก https://blog.sansiri.com/ready-set-marry-arthur-joke/

CONTRIBUTOR

Related Articles

Ready Set Marry

เมื่อรัก คือ… การยอมรับและการมอบให้ อาเธอร์ & โจ๊ก

 “ในวันที่มีสมรสเท่าเทียมสิ่งที่สร้างและอยากจะมอบให้ มั่นใจได้ว่ามันถึงเขาจริงๆ” หนึ่งประโยคที่มีความหมาย สื่อถึงการยอมรับและการมอบให้อย่างจริงใจจากคู่รักสายครีเอเตอร์ ที่ร่วมกันสร้างความสุขและถ่ายทอดความสนุกให้กับผู้ติดตามมาเสมอ    คุณอาเธอร์ – เลิศฤทธิ์ จันทริมา และ คุณโจ๊ก – เอกพงษ์ พลซื่อ  มาสัมผัสอีกมุมมองของความรักและความอบอุ่นของคู่ อาเธอร์ – โจ๊ก ไปพร้อมกันได้เลยค่ะ  แสนสิริ

Ready Set Marry

เมื่อรัก คือ รักบนความเท่าเทียม ชีส & รถเมล์

หากลองคิดดูจากผู้คนนับล้านคนจะมีสักกี่คนที่เกิดวัน เดือน ปี เดียวกัน แล้วได้โคจรมาเจอกัน มากกว่านั้นคือได้กลายเป็น “คู่รัก” กัน เช่นเดียวกับคู่ของ “ชีส” – ณัฐฐิยา สงวนศักดิ์ และ “รถเมล์” – ชัญญานุช มะลิมาตร ที่ร่วมกันถักทอเรื่องราวความรักต่างๆ ร่วมกันมาจนจะเข้าปีที่

ส่งต่อโอกาสทางการศึกษาผ่านโครงการ ZERO DROPOUT

Zero Dropout  เพราะ “การศึกษา” เปรียบเสมือนใบเบิกทางต่อยอดสู่อนาคต แต่กลับมีข้อจำกัดหลายประการ อาทิ รายได้ในครอบครัวไม่เพียงพอ สภาพแวดล้อมไม่เอื้อต่อการศึกษา เด็กบางคนต้องช่วยที่บ้านทำงานจนเรียนไม่ทัน หรือขาดเอกสารในการยืนยันตัวตน ทำให้ “เด็ก” หลายคนหลุดออกจากระบบการศึกษาและพลาดโอกาสในการทำตามความฝันและพัฒนาสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น    โครงการ “Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน” เป็นสิ่งที่แสนสิริมีความมุ่งมั่นตั้งใจริเริ่มขึ้นเพื่อสร้างความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำ