เพราะยูนิฟอร์มไม่ใช่แค่เครื่องแบบ
แต่คือความรู้สึกของคนที่สวมใส่ทุกวัน
ในองค์กรหนึ่งๆ ที่ให้ความสำคัญกับพนักงาน สิ่งเล็กๆ อย่าง “ยูนิฟอร์ม” อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ สำหรับแสนสิริ เราเชื่อว่า การใส่ใจเริ่มต้นจากการรับฟัง และทุกดีไซน์ที่ดีเริ่มจาก “ความเข้าใจ” ช่วงที่ผ่านมา แสนสิริได้เปิดรับเสียงสะท้อนจากพนักงานขายทั่วประเทศ จากข้อจำกัดที่พบจริงในทุกวันทำงาน — ไม่ว่าจะเป็นความอึดอัดของเนื้อผ้า ความไม่คล่องตัวในการขยับ หรือแม้กระทั่งความไม่มั่นใจในรูปลักษณ์เมื่อยืนต่อหน้าลูกค้า
เสียงเหล่านั้น กลายเป็นต้นทางของการออกแบบชุดยูนิฟอร์มใหม่ที่ไม่ใช่แค่ “เปลี่ยนฟอร์ม” แต่คือการ “เปลี่ยนความรู้สึก” และนำไปสู่การคอลลาบอเรชั่นครั้งพิเศษกับดีไซเนอร์ไทยระดับแนวหน้า VICKTEERUT ที่ร่วมถ่ายทอดแนวคิดผ่านดีไซน์สุดยูนีค
Uniform ที่ใส่ใจ “คน” ก่อนดีไซน์: เมื่อฟังก์ชัน ผสานกับอารมณ์
“ดีไซน์ที่ใส่ใจ ไม่ใช่แค่ความสวย แต่คือความรู้สึกของคนที่สวมใส่”
ยูนิฟอร์มใหม่ของแสนสิริ ไม่ได้ถูกออกแบบเพียงเพื่อ “ให้ดูดี” แต่เพื่อ “ให้ทุกคนรู้สึกดีในแบบของตัวเอง” อย่างแท้จริง
• ใส่สบาย เคลื่อนไหวคล่องตัว เพราะทุกวันของพนักงานคือการขยับ ก้าวเดิน พูดคุย และยืนหยัดเพื่อส่งต่อสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกค้า เราจึงออกแบบเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม พร้อมแพตเทิร์นที่ให้ความคล่องตัวสูงสุด เพื่อให้ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยความมั่นใจ
• แมตช์ง่าย และดูดีในทุกลุค ดีไซน์เรียบ เท่ แต่ไม่ทิ้งความสุภาพ สามารถผสมผสานกับสไตล์ส่วนตัวได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะจับคู่กับรองเท้าเรียบหรูหรือสนีกเกอร์คู่ใจ—ก็ยังคงภาพลักษณ์ของมืออาชีพไว้ครบถ้วน
• ออกแบบเพื่อทุกเพศ ทุกสรีระ ด้วยหัวใจที่เข้าใจความหลากหลาย เพราะเราเชื่อว่า “ความเท่าเทียมที่แท้จริง เริ่มต้นจากการยอมรับความแตกต่าง” ชุดยูนิฟอร์มใหม่นี้จึงออกแบบโดยใช้แนวคิด Live Equally
เราทำการวัดตัวจริงของพนักงาน เพื่อพัฒนาแพตเทิร์นที่รองรับทุกขนาด ทุกโครงสร้างของร่างกาย—ไม่ว่าจะเป็นชาย หญิง หรือ LGBTQ+ ก็สามารถเลือกสวมใส่ชุดที่เข้ากับสรีระได้อย่างมั่นใจ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เราออกแบบแพตเทิร์นเฉพาะที่ให้ความยืดหยุ่นสูง เพิ่มความสะดวกในการเคลื่อนไหว และคำนึงถึงความสบายเป็นหลัก ไม่มีป้ายเพศ ไม่มีขีดจำกัด—มีเพียงการออกแบบที่เข้าใจ และเคารพในตัวตนของทุกคน
ทั้งหมดนี้คือหัวใจของยูนิฟอร์มใหม่จากแสนสิริ ที่มอง “การแต่งกาย” ไม่ใช่แค่เรื่องของภาพลักษณ์ แต่คือ “พื้นที่ปลอดภัย” ที่ทุกคนสามารถยืนอยู่ในแบบของตัวเองได้อย่างภาคภูมิใจ และมั่นใจในทุกวันทำงาน
Design That Leads: จากสถาปัตยกรรมสู่ดีไซน์ยูนิฟอร์ม โดย VICKTEERUT
การออกแบบครั้งนี้ แสนสิริเลือกจับมือกับ VICKTEERUT ดีไซเนอร์ผู้มีสไตล์เฉพาะตัว ด้วยแรงบันดาลใจจากเส้นแสงและโครงสร้างของสถาปัตยกรรม
ดีไซน์ชุดจึงเกิดจากรูปทรงเรขาคณิต เส้นสายเฉพาะตัว และดีเทลการตัดเย็บที่ประณีต สีโทนเดียวให้ความเรียบหรู แต่ยังดูแข็งแรงและสง่างาม เส้นสายเฉียงและการกุ๊นผ้าที่พิถีพิถัน กลายเป็นภาษาดีไซน์ที่บอกเล่าแนวคิด smart & confidence อย่างชัดเจน
นี่จึงเป็นยูนิฟอร์มที่ไม่เหมือนใคร… เรียบ เท่ คล่องตัว และเต็มไปด้วยพลังเงียบๆ ที่พร้อมส่งต่อความมั่นใจให้พนักงานในทุกครั้งที่สวมใส่
เพราะ Well-being คือพลังของคนทำงาน
“เมื่อพนักงานรู้สึกดีกับสิ่งที่สวมใส่ เขาก็จะส่งต่อสิ่งที่ดีไปยังลูกค้าได้”
แสนสิริให้ความสำคัญกับ Well-being มาโดยตลอด ไม่ใช่เพียงแค่สุขภาพกาย แต่หมายถึงสุขภาวะของหัวใจในการทำงานที่ต้องเต็มไปด้วยความมั่นใจ ความสบายใจ และความรู้สึกว่าตัวเองมี “พื้นที่ของการเป็นตัวเอง” อย่างแท้จริง
การเปลี่ยนยูนิฟอร์มในครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่การปรับลุคหรือภาพลักษณ์ภายนอกขององค์กร แต่คือการเปิดใจ รับฟังทุกความเห็นอย่างตั้งใจ เรานำเสียงสะท้อน ความไม่สะดวก ความไม่มั่นใจ รวมถึงความคาดหวังจากพนักงานทุกคน มาถอดบทเรียน แล้ว “ออกแบบใหม่” ให้ยูนิฟอร์มชุดนี้ตอบโจทย์การใช้งานจริงและสะท้อนตัวตนของผู้สวมใส่ได้ดีที่สุด
คือ “การเปลี่ยนแปลงที่ทุกคนมีส่วนร่วม” และเมื่อพวกเขาสวมใส่ชุดนี้—มันจึงไม่ใช่แค่เครื่องแต่งกาย แต่คือสัญลักษณ์ของ “ความภูมิใจ” ที่ได้ร่วมเป็นหนึ่งในกระบวนการออกแบบวัฒนธรรมองค์กรร่วมกัน
เพราะในวันที่คนทำงานรู้ว่าเสียงของเขาถูกฟังจริง ความมั่นใจและแรงขับเคลื่อนจากภายในก็จะเกิดขึ้นจริงเช่นกัน
“ออกแบบด้วยความเข้าใจ” เพราะคุณคือหัวใจของสิ่งที่เราทำ
ในทุกวันทำงาน พนักงานขายของแสนสิริคือด่านหน้า คือผู้ถ่ายทอดประสบการณ์ให้ลูกค้า และแสนสิริเชื่อว่า การออกแบบสิ่งใดให้ “คนทำงาน” ต้องเริ่มจากการเข้าใจ “คน” ก่อนเสมอ
ยูนิฟอร์มใหม่จึงไม่ใช่แค่เรื่องของแฟชั่น หรือฟังก์ชัน แต่คือบทพิสูจน์ว่า แสนสิริยังยึดมั่นในคำว่า Design Leader ผู้นำด้านดีไซน์ ที่เล็งเห็นคุณค่าของงานดีไซน์ และไม่เคยมองข้ามหัวใจของคนทำงาน
เพราะสุดท้ายแล้ว “ดีไซน์” ที่ดีที่สุด
คือดีไซน์ที่เข้าใจ “คน” ที่จะสวมใส่มันในทุกๆ วัน